ทดสอบ
ตัวเล็กเท้าไฟ สะใจอย่างแรง !
มีนี คูเพอร์ เอส 1.6 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ 184 แรงม้า ราคา 2,800,000 บาท
คู่แข่ง
เฟียต 500 คอนเวอร์ทิเบิล 1.4 ลิตร 4 สูบ 100 แรงม้า ราคา 2,190,000 บาท
มาซดา เอมเอกซ์-5 อาร์เอชที 2.0 ลิตร 4 สูบ 160 แรงม้า ราคา 2,640,000 บาท
โวลโว ซี 30 อาร์-ดีไซจ์น 2.0 ลิตร 4 สูบ 140 แรงม้า ราคา 2,539,000 บาท
ฮอนดา ซีอาร์-เซด 1.5 ลิตร ไฮบริด 4 สูบ 124 แรงม้า ราคา 2,490,000
ข้อเด่น
- รูปทรงมีเอกลักษณ์
- สมรรถนะเยี่ยมยอด
- ตอบสนองฉับไว
- ช่วงล่างหนึบแน่น เบรคดีมาก
ข้อด้อย
- พื้นที่ใช้สอยน้อย
- ปุ่มใช้งานอยู่ห่างมือ
- ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี
- ราคาแพง
ฟันธง
- ของเล่นเศรษฐี จัดหนัก ทั้งสมรรถนะ และราคา
การนำรถที่เคยผลิตในอดีตกลับมาพัฒนา และทำตลาดอีกครั้ง เป็นแนวทางที่ค่ายรถหลายแห่งกำลังกระทำอยู่ แม้รถรุ่นดังกล่าวจะเคยเป็นรถของประชาชนรากหญ้า เน้นราคาถูก ไม่จุกจิก แต่เมื่อหวนกลับมาทำตลาดอีกครั้ง กลับถูกวางตำแหน่งเป็นรถแฟชันระดับ พรีเมียม รูปทรงองค์เอวโดยรวม แม้จะเหมือนเดิม แต่ถูกติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ทำให้ราคาของมันสูงขึ้นมาก แปรเปลี่ยนจากรถเพื่อประชาชน กลายเป็น ของเล่นเศรษฐี ไปโดยปริยาย ถึงกระนั้นรถเล็กแบบ เรทโร RETRO ระดับพรีเมียมเหล่านี้ ก็มียอดจำหน่ายที่น่าพอใจมาก ครั้งนี้ "ฟอร์มูลา" จึงได้ทดสอบ มีนี คูเพอร์ เอส (MINI COOPER S) หนึ่งในแฮทช์แบคสมรรถนะแรง ชื่อดัง ส่วนจะคุ้มแค่ไหนกับค่าตัวที่ค่อนข้างสูงเช่นนี้ ต้องติดตาม
ภายนอก 4 ดาว
เก๋ไก๋สะดุดตา ถวิลหาอดีต
รูปทรงที่ถอดแบบจาก มีนี คูเพอร์ ยุคดั้งเดิมที่เปิดตัวเมื่อ 50 ปีก่อน ยังคงมีให้เห็นครบถ้วน เช่น ไฟหน้าทรงกลม เสา เอ บี และ ซี แนวตั้ง หลังคาทรงหนา วางตัวในแนวขนานกับกรอบกระจก รุ่นที่เราได้ทดสอบเป็นแบบ LOOK 2 เสริมความสะดุดตาเล็กน้อย ด้วยการเพิ่มหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา กระจกข้าง และช่องอากาศด้านข้างเล่นสีสัน (เลือกสีได้) พร้อมกับใช้ลายธงชาติอังกฤษ บ่งบอกสัญชาติดั้งเดิมจากแดนผู้ดีของรถคันนี้ โดยรวมถือว่ารูปทรงยังคงมีเอกลักษณ์โดนใจผู้ขับ และเท่ระเบิดสำหรับผู้พบเห็น
ภายใน 3 ดาว
เน้นสไตล์ พื้นที่จำกัด
รูปแบบย้อนยุค ยังคงเห็นได้จากการตกแต่งภายใน มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่โต ติดตั้งตรงคอนโซลกลาง บริเวณคอพวงมาลัยจะเป็นมาตรวัดรอบขนาดเล็ก เนื่องจากพื้นที่จำกัด บรรดาปุ่มต่างๆ จึงถูกติดตั้งบริเวณด้านล่างคอนโซล ไม่ว่าจะเป็นสวิทช์ขึ้น/ลงของกระจกประตู หรือแม้กระทั่งปุ่มเปิด/ปิดลอค การใช้งานก็ไม่ค่อยสะดวกนัก เมื่อเทียบกับตำแหน่งปกติ จะอยู่บริเวณที่พนักแขนข้างประตู เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องทำใจ ขณะที่ทัศนวิสัยก็จำกัดอีก จากเบาะนั่งที่อยู่ในระดับต่ำ และกระจกรอบคันที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก พื้นที่ผู้โดยสารเหลือเฟือสำหรับผู้โดยสาร 2 คนด้านหน้า แต่ผู้โดยสารด้านหลัง ไม่เหมาะจะนั่งไปด้วยยามเดินทางไกล อย่างไรก็ตามหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสารไม่น้อย
เครื่องยนต์ 5 ดาว
อัตราเร่งจัดจ้าน ประหยัดเกินคาด
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน ปั่นแรงม้าได้ 184 ตัว แถมยังมีโหมด OVERBOOST ที่จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ขับกดคันเร่งสุดทันทีทันใด เพิ่มแรงบิดสูงสุดชั่วขณะจาก 24.5 กก.-ม. ที่ 1,600-5,000 รตน. เป็น 26.5 กก.-ม. ที่ 1,700-4,500 รตน. ผลที่ได้ ทำให้ คูเพอร์ เอส มีอัตราเร่งตีนต้นที่จัดจ้านมากๆ ตอบสนองต่อคันเร่งฉับไวตามใจนึก
บรรยายด้วยคำพูด อาจไม่เห็นภาพชัดเจน เราจึงขอพิสูจน์ด้วยตัวเลขสมรรถนะที่วัดออกมาได้ และขอนำเจ้าตัวเล็กจี๊ดจ๊าดคันนี้ไปวัดรอยข้ามรุ่นกับสปอร์ทรุ่นใหญ่ และแพงกว่าหลายเท่า อย่าง เมร์เซเดส-เบนซ์ อี 350 คูเป (เบนซิน 3.5 ลิตร 272 แรงม้า ราคา 7,999,000 บาท) ให้รู้กันไปเลยว่าสมรรถนะของ คูเพอร์ เอส จะร้อนแรงแค่ไหนกัน
เริ่มจากอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ฮอทแฮทช์จาก มีนี ทำได้ 7.7 วินาที ส่วนสปอร์ทคันโตค่ายดาว 3 แฉก 7.5 วินาที แค่เริ่มต้นก็ทำเวลาแบบเฉือนกันไม่ลงแล้วลองจับมาวิ่งแบบ ควอร์เตอร์ไมล์ บ้าง คราวนี้ คูเพอร์ เอส ทำเวลา 15.6 วินาที ยังคงเฉือนกับ อี 350 คูเป ที่นำหน้าฉิวเฉียดที่ 15.4 วินาที
สุดท้าย คือ อัตราเร่งยืดหยุ่นช่วงความเร็ว 80-120 กม./ชม. คูเพอร์ เอส อาศัยขนาดตัวที่กะทัดรัด ทำเวลาฉับไวใน 4.5 วินาที นำหน้าสปอร์ทรุ่นใหญ่ในที่สุด ที่ทำเวลาได้ 5.0 วินาที
ตัวเลขวัดสมรรถนะจากเครื่องมือดาทรอนที่เรานำรถทั้ง 2 รุ่นมาเทียบเคียง พิสูจน์ให้เห็นว่าช่วงความเร็วตีนต้น มีนี คูเพอร์ เอส ไม่เป็นรองใคร แม้แต่กับสปอร์ทพิกัดใหญ่กว่าก็ตาม ด้วยอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักรวมที่สมดุล ทำให้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เหล่าสปอร์ทรุ่นใหญ่อย่าได้ประมาทเจ้าตัวเล็กคันนี้เชียว เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ขนาดเล็ก แม้จะพ่วงระบบอัดอากาศ แต่ยังมีจุดอ่อนเรื่องอัตราเร่งตีนปลาย เห็นได้จากอัตราเร่ง 0-160 กม./ชม. คูเพอร์ เอส ใช้เวลา 18.9 วินาที ส่วน อี 350 คูเป ทำได้ 17.3 วินาที ถือเป็นส่วนต่างที่มากกว่าความเร็วช่วงตีนต้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็เล่นเอา อี 350 คูเป หนีไม่ออก เหมือนกัน
ขณะที่อัตราเร่ง 0-1,000 ม. มีนี ใช้เวลา 28.5 วินาที ที่ความเร็ว 182.6 กม./ชม. ส่วนรถสปอร์ทจาก เมร์เซเดส-เบนซ์ 27.6 วินาที ที่ความเร็ว 195.3 กม./ชม. เมื่อสังเกตอย่างละเอียด เราพบว่าที่ระยะ 900 เมตร เข็มความเร็วของ คูเพอร์ เอส กวาดมาถึงความเร็วประมาณ 180 กม./ชม. และหยุดค้างอยู่เช่นนั้นจนผ่านระยะ 1,000 เมตร ราวกับว่ากำลังจากเครื่องยนต์ และเทอร์โบสุดลงที่ความเร็วปลายระดับดังกล่าว แม้ผู้ผลิตจะระบุความเร็วสูงสุดถึง 200 กม./ชม. แต่คงต้องใช้ระยะทางวิ่งอีกพอสมควรเลยทีเดียว
เห็นสมรรถนะตีนต้นจัดจ้านแบบนี้ จะซดน้ำมันหนักแค่ไหนกัน ? เราย้ายวิกกลับมาเทียบกับรถสไตล์ เรทโร อีกรุ่น นั่นคือ เฟียต 500 (เบนซิน 1.4 ลิตร 100 แรงม้า) รถเล็กจากแดนมะกะโรนี ใช้เครื่องยนต์เล็กกว่า และไร้ระบบอัดอากาศ เหมือนจะได้เปรียบเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แต่ผลที่ออกมากลับไม่ใช่อย่างนั้น !?!
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. คูเพอร์ เอส สิ้นเปลือง 20.5 กม./ลิตร ขณะที่ เฟียต 500 ทำได้ 22.9 กม./ลิตร ที่ความเร็วต่ำ เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า ยังมีความได้เปรียบ แต่เมื่อถึงความเร็ว 80 และ 100 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ มีนี เป็น 19.5 และ 16.3 กม./ลิตร เกือบจะเท่ากันกับ เฟียต 500 ที่มีตัวเลข 19.4 และ 16.5 กม./ลิตร แสดงให้เห็นว่าถ้าผู้ขับถนอมแรงกดคันเร่งหน่อย ฮอทแฮทช์คันนี้ก็มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ
การบังคับควบคุม 5 ดาว
ตอบสนองไว เบรคเยี่ยม
ช่วงล่างของ คูเพอร์ เอส ถูกปรับแต่งเพื่อรองรับการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะ จึงหนึบแน่นอย่างมั่นคง แต่อาจแข็งกระด้างไปบ้างที่ความเร็วต่ำ พวงมาลัยตอบสนองฉับไว แทบไม่มีระยะฟรีอยู่เลย ผนวกกับขนาดตัวที่กะทัดรัด และระยะโอเวอร์แฮงที่น้อย ทำให้เราสนุกกับการหักเลี้ยวเข้าโค้งอย่างแคล่วคล่อง ตัวรถเปลี่ยนทิศทางแทบจะทันทีทันใด ขณะที่ความเร็วระดับ 140-160 กม./ชม. ยังรู้สึกนิ่ง ถ้าไม่ดูมาตรวัดความเร็วคงนึกว่ารถกำลังวิ่งแค่ร้อยเดียว
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับสปอร์ทชั้นดี คือ ระบบเบรคที่มั่นใจได้ ในหัวข้อนี้ เรานำตัวเลขที่วัดได้ของ คูเพอร์ เอส มาเทียบกับหนึ่งในรถยนต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย นั่นคือ โวลโว เอส 40 (เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 145 แรงม้า) ทำระยะเบรคที่ความเร็ว 80 กม./ชม. คือ 26.2 ม. แต่ คูเพอร์ เอส ก็ทำได้ดีกว่านั้นด้วยซ้ำไป ที่ระยะ 25.1 ม. และที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ซีดานจากแดนฟรีเซกซ์ใช้ระยะ 41.3 ม. แต่ฮอทแฮทช์จากแดนผู้ดีก็ยังทำได้สูสีกับระยะเบรค 40.7 ม.
การบังคับควบคุม และช่วงล่างของ คูเพอร์ เอส เหมาะกับบุคลิกที่กระฉับกระเฉงของตัวรถมากมาย ขณะเดียวกันก็สามารถรองรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อยู่หมัด ด้วยระบบเบรคที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เราอยากแนะว่าที่ความเร็ว 180 กม./ชม. ขึ้นไป ความไวของพวงมาลัยทำให้รถมีอาการส่ายไปมาพอสมควร ต้องตั้งใจควบคุมทิศทางมากขึ้น จุดนี้ต้องระวังให้ดีโดยเฉพาะใครที่เท้าหนัก
สรุป
แฟชันคาร์ สมรรถนะร้อน ราคาแรง
คูเพอร์ เอส รถแฟชันที่คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่อยากได้ไว้ครอบครอง แถมยังคงความร้อนแรงในแบบฉบับ ฮอทแฮทช์ ไว้ครบถ้วน สมรรถนะตีนต้น รวมไปถึงอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ยอดเยี่ยม เชื่อเหลือเกินว่าน้อยคนนักที่จะขับรถคันนี้อย่างนุ่มนวล เพราะทันทีที่กดคันเร่ง รถคันนี้ก็ ชวน "ซิ่ง พร้อมทะยานไปข้างหน้าอย่างว่องไว การบังคับเลี้ยวที่ฉับไว ช่วงล่างที่หนึบแน่น ทำให้เข้าโค้งได้สนุก อีกทั้งขนาดตัวที่กะทัดรัดทำให้ผู้ขับสามารถลัดเลาะไปตามการจราจรที่เกือบจะติดขัดได้อย่างเพลิดเพลิน คุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถทำให้ท้องถนนกลายเป็น สนามเด็กเล่น ได้เลย จึงเหมาะสมกันดีกับฉายา ของเล่นเศรษฐี มีเงินก็จัดไป
ข้อมูลจำเพาะ มีนี คูเพอร์ เอส
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด
โทร. 0-2935 2000 ต่อ 444�
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,729/1,683/1,407
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,453/1,461
ฐานล้อ (มม.) 2,467
น้ำหนัก (กก.) 1,165
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ
ความจุ (ซีซี) 1,598
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 77.0x85.8
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 184/5,500
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 26.5/1,700-4,500
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 5
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง มัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ เพาเวอร์ไฟฟ้าแปรผัน EPS
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส ดีเอสซี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 2,800,000
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 3.8
0-80 กม./ชม. 5.4
0-100 กม./ชม. 7.7
0-120 กม./ชม. 10.3
0-140 กม./ชม. 14.1
0-160 กม./ชม. 18.9
0-400 ม. 15.6 ที่ความเร็ว 147.1 กม./ชม.
0-1,000 ม. 28.5 ที่ความเร็ว 182.6 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 3.7
80-120 กม./ชม. 4.5
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม. 14.8 (0.96)
80-0 กม./ชม. 25.1 (1.00)
100-0 กม./ชม. 40.7 (0.97)
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 54.1
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 64.3
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 65.8
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 67.3
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 69.6
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 71.3
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 60
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 78
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 97
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 116
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 134
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 20.5 4.9
80 19.5 5.1
100 16.3 6.2
120 14.0 7.2
140 9.8 10.2
หมายเหตุ: รถใหม่
ABOUT THE AUTHOR
ภ
ภูเขม หน่อสวรรค์ poukhem@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2553
คอลัมน์ Online : ทดสอบ