พิเศษ
ตลาดรถยนต์ปีนี้เติบโตเป็นประวัติการณ์ ส่งผลดีแก่ธุรกิจที่เกี่ยวกับอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง รวมถึงฟีล์มกรองแสง ซึ่งมีการแข่งขันกันสูงมาก ฟอร์มูลา สัมภาษณ์พิเศษ จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด
ตลาดรถยนต์ปีนี้เติบโตเป็นประวัติการณ์ ส่งผลดีแก่ธุรกิจที่เกี่ยวกับอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง รวมถึงฟีล์มกรองแสง ซึ่งมีการแข่งขันกันสูงมาก ฟอร์มูลา สัมภาษณ์พิเศษ จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด
ฟอร์มูลา : ฟีล์มกรองแสง ลามินา ในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
จันทร์นภา : ตอนนี้ บริษัท เทคโนเซล ฯ ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายฟีล์มกรองแสง ลามินา และฟีล์มกลุ่มพิเศษ ลูมาร์ เปิดดำเนินการมา 15 ปีแล้ว กำลังก้าวสู่ปีที่ 16 ถือเป็นการก้าวสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว ต่อจากนี้บริษัท ฯ จะเน้นการสร้างคนรุ่นใหม่ พร้อมกับบริหารองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ฟอร์มูลา : คุณมีวิธีสร้างคนรุ่นใหม่อย่างไร ?
จันทร์นภา : ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร 12 ประการ คือ
ทีมเวิร์ค คือ หัวใจคุณธรรมไซร้แสนสำคัญ
ความรัก เสียสละปัน คิดสร้างสรรค์ โลกงดงาม
ซื่อสัตย์ กตัญญู หมั่นเรียนรู้ พัฒนางาน
กล้าหาญ สู้ภัยพาล ทั้งสื่อสาร อย่างชัดเจน
มารยาทดี มีวินัย รักษาไว้ซึ่งกฎเกณฑ์
เสมอภาค ไม่โอนเอน กายร่มเย็นด้วยใจเรา
คิดบวก ไม่ย่อท้อ ถือเป็นต่อได้ขัดเกลา
12 ประการไว้ในใจเจ้า สายเลือดเรา เทคโนเซล
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฝึกอบรมพนักงาน เป็นขั้นตอนหลังจากคัดสรรคน ซึ่งต่อจากนี้จะมุ่งสู่ระบบระเบียบมากขึ้น ต้องอบรมทั้งภายใน/นอกองค์กร หลังจากนั้นต้องมีการบริหารการจัดการภายในบริษัท ฯ ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัท ฯ คนไทยร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็ต้องอยู่ได้ท่ามกลางกระแสการแข่งขันแบบไร้พรมแดน โดยปีนี้ บริษัท ฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงาน สร้างสรรค์ให้บริษัท ฯ มีการทำงาน และการบริการทัดเทียมสากล นอกจากนี้ยังสร้างความสัมพันธ์บุคคลภายในองค์กรผ่านกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย
ฟอร์มูลา : ปรัชญาคุณธรรม 12 ประการ ที่นำไปใช้ เกิดผลอย่างไรบ้าง ?
จันทร์นภา : ถือว่าเกิดผลในเชิงบวก เพราะว่าปรัชญาคุณธรรม 12 ประการ เชื่อมั่นว่าบุคลากรเป็นไปได้ตามวัฒนธรรม 12 ช้อนี้ ตัวอย่างเช่น ข้อแรก การทำงานเป็นทีม หรือ ข้อ 2 ความรัก และความเสียสละ ก็จะทำให้บริษัท ฯ มีความเจริญก้าวหน้า แต่เป้าหมายต้องการ 12 ข้อ ต้องผ่านกระบวนการ ซึ่งคือกิจกรรมต่างๆ ในการนำพาให้พนักงานเข้าใจความหมาย และนำไปปฏิบัติ ซึ่งจะเห็นว่า พฤติกรรมของ เทคโนเซล ฯ นอกจากจัดกิจกรรมร่วมกับสื่อมวลชน หรือ ลูกค้าต่างๆ ในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม บริษัท ฯ ยังจัดกิจกรรมภายในองค์กร เช่น การจัดสัมมนาเรื่องความคิดเชิงบวก การจัดกิจกรรมแห่เทียนพรรษา กิจกรรมวันแม่ เป็นต้น
ฟอร์มูลา : พันธกิจของบริษัท ฯ คือ อะไร ?
จันทร์นภา : เทคโนเซล ฯ เป็นองค์กรหนึ่งซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนผู้บริหารไปกี่รุ่น องค์กรก็ยังคงอยู่ พร้อมยึดมั่นพันธกิจที่ผู้ก่อตั้งวางไว้ คือ เป็นองค์กรเติบโตคู่สังคมไทย
ฟอร์มูลา : คุณวางแผนการบริหารงานนับจากนี้เป็นอย่างไร ?
จันทร์นภา : เน้นความเป็นผู้นำด้านต่างๆ 4 ประการ คือ 1. การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม 2. การเป็นผู้นำด้านมาตรฐานการให้บริการ 3. การเป็นผู้นำด้านพันธกิจคืนความสุขสู่สังคมไทย และ4. การเป็นผู้นำด้านการเสนอข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค
การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ครอบคลุมไปในส่วนของผลิตภัณฑ์และการบริการ โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป เล็กน้อยแต่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค ดังจะเห็นได้จาก ลามินา เริ่มจำหน่ายฟีล์มกรองแสงติดรถยนต์ 6 รุ่น จนถึงปัจจุบันมีจำหน่ายมากถึง 29 รุ่น รวมไปถึงฟีล์มอาคาร ฟีล์มตกแต่ง และฟีล์มนิรภัย ที่มีจำหน่ายมากกว่า 60 รุ่น
ล่าสุดเราแนะนำฟีล์มกรองแสงรุ่นใหม่ในกลุ่ม พอพซีรีส์ โทนสีเข้มชาร์โคลดีพ POP05CSRPS มีประสิทธิภาพลดความร้อนจากแสงแดดสูงถึง 59 % ค่าแสงส่องผ่าน 9 % ค่าสะท้อนแสง 8 % และลดรังสียูวี 90 %
ส่วนการคืนความสุชสู่สังคมไทยยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมากขึ้น เช่น โครงการ ลามินาสานฝันเด็กไทยได้เล่าเรียน เข้าสู่ปีที่ 10 และโครงการ 9 ณ โรงเรียนบ้านน้ำใส จ. เลย คาดว่าจะส่งมอบในวันเด็ก ปี 2554 ส่วนโครงการรักษ์โลกกับลามินา โครงการ 4 ต่อเนื่องจากปี 3 ที่ได้ปลูกปะการัง นอกจากนั้นยังมีโครงการใหม่ด้านสาธารณสุข มีทีมงานเริ่มออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ พอสว. ยึดมั่นแนวทางการบริจาคยูนิททำฟันเคลื่อนที่ การให้ทุนนักศึกษาทันตภิบาล ส่วนงานกิจกรรมเพื่อสังคมอื่น หากเป็นประโยชน์และบริษัท ฯ สามารถเข้าร่วมได้ ก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้น
และสุดท้ายการนำเสนอข้อเท็จจริงแก่ผู้บริโภค ล่าสุด บริษัท ฯ ได้ร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมทดสอบฟีล์มกรองแสงลามินา กับระบบการรับ-ส่งสัญญาณ อีซี พาสส์ ซึ่งส่วนใหญ่ฟีล์มที่มีส่วนผสมของสารปรอทสูง หรือมีความหนาแน่นของฟีล์มมากกว่าปกติ จะทำให้ระบบไม่สามารถอ่านบัตร โดยฟีล์มกรองแสงลามินา รุ่นที่ผ่านการทดสอบ ได้แก่ รุ่น L65, 75 และ 808L, APL 65NX,50BX,50N,45NX,35N,35C,20C,20BX และ 20NX รุ่น RL50SI ANL35N และ DL30GN รุ่น POP50SI.50N,35N และ 20C
ฟอร์มูลา : เป้าหมายต่อไปของ ลามินา คือ อะไร ?
จันทร์นภา : การสร้างองค์กรให้มั่นคง เป็นปึกแผ่น โดยสร้างระบบ พัฒนางาน สร้างคนรุ่นใหม่ สืบต่อรุ่นต่อรุ่น เน้นในเรื่องความมั่นคง ซึ่งไม่ได้อยู่กับตัวบุคคล พอรุ่นเปลี่ยนรุ่นใหม่ องค์กรก็ยังคงเดินหน้าต่อไป
ฟอร์มูลา : แผนงานด้านตัวแทนจำหน่ายเป็นอย่างไร ?
จันทร์นภา : ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่าย 400 แห่ง เป็นเอกซ์คลูซีฟ 52 แห่ง เน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะในเรื่องของจำนวนไม่ได้เพิ่ม 5-6 ปีแล้ว แต่จะเน้นเรื่องการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน และการทำการค้าอย่างยั่งยืน คือ ไม่แสวงหาผลกำไร โดยประโยชน์ที่ได้รับสำหรับร้านค้าขายสินค้าในราคาเหมาะสม เจ้าของรถได้สินค้าคุ้มค่ากับราคา
ฟอร์มูลา : บริษัท ฯ มีการลงทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?
จันทร์นภา : บริษัท ฯ ได้ลงทุน 20 ล้านบาท เพื่อสร้างออฟฟิศใหม่ โดยปัจจัยหลักเนื่องจากสถานที่ทำงานไม่เพียงพอ ซึ่งการที่จะทะนุบำรุงสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัท ฯ จำเป็นที่จะต้องคิดถึงพนักงานก่อน เมื่อสถานที่ทำงานคับแคบจึงจำเป็นต้องขยายอาคารใหม่ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและผู้มาติดต่อกับบริษัท
ฟอร์มูลา : คุณมองว่าตลาดฟีล์มกรองแสงในปัจจุบัน และอนาคตจะเป็นอย่างไร ?
จันทร์นภา : ถ้าหากมองถึงธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ภาพรวมตลาดหดตัว ซึ่งเป็นผลมาจากค่ายรถต่าง ๆ ได้ติดอุปกรณ์ครบเพียงพอกับความต้องการ และการใช้งาน ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการประดับรถยนต์ทำตลาดฟีล์มกรองแสงเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดรถยนต์โดยรวมเติบโตขึ้นมาก แต่เมื่อมีรายใหม่เข้ามา รายเก่าก็หายไป
ตลาดฟีล์มกรองแสงอาคาร ปัจจุบันมองตลาดยาก ในอดีตจะให้ความสำคัญเรื่องงบประมาณแก่ราชการในการปรับปรุงอาคาร การอนุรักษ์พลังงาน ช่วงนั้นมีความเคลื่อนไหวของสำนักงานที่ได้รับงบประมาณจากรัฐ บาล เป็นในช่วง 5-6 ปีก่อน แต่หลังจากไม่มีงบประมาณสนับสนุนฟีล์มอาคารเปลี่ยนแปลงไปตามโครงการในแต่ละปี ส่วนใหญ่ลูกค้า ของ ลามินา จะเป็นอาคารสำนักงาน เนื่องจากบ้านพื้นที่ใช้สอยฟีล์มน้อยมาก ซึ่งโครงการใหญ่ที่บริษัท ฯ ได้รับคือ การติดตั้งฟีล์มในห้องโถงผู้โดยสาร ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ตลาดฟีล์มกรองแสงรายใหม่ที่เข้ามาใหม่ และรายเก่า มีจำนวนมาก แต่ฟีล์มที่ได้รับความไว้วางใจมีน้อยมาก ส่วนฟีล์มพรีเมียม ลามินา มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 80 % คู่แข่งรายใหญ่มีไม่มาก ทำให้มีรายใหม่เข้ามาแข่งในตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นธรรมชาติของตลาดเสรี
ปัจจุบันรูปแบบการตลาดของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ในตลาดของฟีล์มกรองแสงก็มีเช่นกัน และที่น่ากลัวมากที่สุดในตอนนี้ คือ การโจมตีที่ไร้เหตุผล ซึ่ง ลามินา ยืนยันการเป็นตัวแทนจำหน่ายฟีล์มกรองแสง ลามินา ของบริษัท ซีพีฟีล์ม จำกัด จากสหรัฐอเมริกา นำลูกค้าไปชมโรงงาน ก็ยังโดนโจมตีว่าผลิตจากประเทศในแถบเอเชีย บางครั้งสื่อที่เป็น ดิจิทอล หรือ โซเชียล มีเดีย เข้าถึงทุกคนได้ง่าย ข้อมูลต่างๆ ทุกคนจะต้องกลั่นกรอง ซึ่งเคยเข้าไปอ่านเหมือนกันรู้ทันทีว่าไม่ได้โพสต์จากผู้ใช้ แต่เป็นการโจมตีโดยใช้สื่อมากกว่า น่าเป็นห่วงผู้บริโภคในการที่จะต้องคัดสรร คัดกรองในการรับข้อมูลอย่างยิ่ง ที่ผ่านมา ลามินาชัดเจนมาตลอดว่าเป็นฟีล์มที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังมีผู้บิดเบือนข้อมูล
ฟอร์มูลา : เราวางแผนการแก้ไขไว้อย่างไรบ้าง ?
จันทร์นภา : ความจริงก็คือความจริง บริษัท ฯ สบายใจมากที่เขาโจมตีเรื่องไม่จริง หน้าที่บริษัท คือ เผยแพร่ความจริงให้ปรากฏ โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ นักการตลาดที่กล้าประชาสัมพันธ์สินค้าว่าตัวเองเป็นใคร ทำให้ผู้บริโภคตามหาได้ถูกต้อง แต่ฟีล์มบางยี่ห้อเข้าสู่ตลาดโดยโจมตีลามีนา ในฐานะที่อยู่ในตลาดมา 15 ปี ธุรกิจแข่งขันกันให้บริการ และนำเสนอสินค้าที่ดีที่สุด และเหนือกว่าคู่แข่งจะดีกว่าการโจมตีกันอย่างไร้เหตุผล
ฟอร์มูลา : ตลาดฟีล์มกรองแสงในปัจจุบัน และอนาคต จะเป็นอย่างไร ?
จันทร์นภา : การเติบโตของตลาดฟีล์มกรองแสงในปี 2552 ถือว่าใกล้เคียงกับปี 2551 ซึ่งประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการเมืองภายใน แต่ในปี 2553 ตลาดฟีล์มกรองแสงเหนือความคาดหมายอย่างมาก เห็นได้จากตลาดรถยนต์โดยรวมในปีนี้ ตั้งเป้ามียอดขายรวม 650,000 คันเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มียอดจำหน่าย 550,000 คัน แต่ขณะนี้ตลาดโดยรวมปรับเป้าเพิ่มเป็น 750,000 คัน รวมถึง จีดีพี ภาพรวมของประเทศคาดการณ์ 7 % ซึ่งจากเดิม 2.5-4.5 % หลายสิ่งหลายอย่างบอกให้เห็นว่าประเทศกำลังฟื้นฟู และเจริญก้าวหน้า ถ้าไม่มีอุบัติระหว่างทางเสียก่อน และจากภาพรวมธุรกิจเติบโต ทำให้ธุรกิจฟีล์มกรองแสงที่ผูกมากับรถยนต์เติบโตเพิ่มขึ้นด้วย
คาดการณ์ว่าตลาดฟีล์มโดยรวมน่าจะอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ฟีล์มพรีเมียมมีส่วนแบ่งอยู่ 35-40 % โดย ลามินา มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่กว่า 80 %
ฟอร์มูลา : ในอนาคตจะมีฟีล์มกรองแสงรายใหม่ในตลาดอีกหรือไม่ ?
จันทร์นภา : ฟีล์มกรองแสงรายใหม่ๆ คงจะมีอย่างต่อเนื่อง แต่ที่น่าเป็นห่วงจะเป็นเรื่องของสินค้าทดแทนฟีล์ม มีเทคโนโลยีช่วยกันความร้อนกระจกรถยนต์ แต่มีราคาแพงมาก ทำให้ฟีล์มกรองแสงยังได้รับความนิยมอยู่ แต่การจะมาช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับรูปแบบการวิจัย และพัฒนา เทคโนโลยี รวมถึงเรื่องความเข้มของกระจกแต่ละประเทศ มีความแตกต่างกัน เป็นเรื่องยากของนักวิทยาศาสตร์ในการคิดค้นและพัฒนา เป็นข้อจำกัดหลายด้าน คาดว่า 3 ปีข้างหน้า คงยังไม่มี แต่ถ้ามีก็คงจะมีราคาแพงมาก
ฟอร์มูลา : คุณพบอุปสรรคในการทำงานที่ผ่านมามากน้อยเพียงใด ?
จันทร์นภา : อุปสรรคมีตลอด 15 ปี ไม่แตกต่างจากเจ้าของธุรกิจอื่น การยืนหยัดต้องไม่ยอมแพ้ และต่อสู้ ทุกอย่าง มีมุมดี และเสีย ลามินา ดี คือ การเป็นผู้นำตลาด ขณะเดียวกันทำให้รายใหม่ที่เข้ามาในตลาดโจมตีบริษัท ฯ ทำให้ บริษัท ฯ ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง กับร้านค้า ตัวแทนจำหน่าย
แต่ด้วยหลักการทำธุรกิจ เผชิญปัญหา พูดความจริง ไม่หลอกตัวเอง ไม่ยอมแพ้ ปัญหามีไว้เพื่อพัฒนา นอกเหนือจากนั้นคุณธรรมในการทำการค้า เชื่อว่าคุณธรรมจะทำให้ธุรกิจยั่งยืน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
การทำอะไรสักอย่าง ต้องศึกษาให้รู้จริง ทำความเข้าใจ หลังจากนั้นศึกษาวางแผนโดยไม่เล็งผลเลิศ มองถึงดีที่สุด ปานกลาง แย่ เพื่อเตรียมการรองรับ ต่อมา คือ การนำไปปฏิบัติ ผู้บริหารยุคใหม่น่าจะคุ้นเคยกับการเป็นผู้ปฏิบัติมากกว่าสั่ง ต้องเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับทีมงาน รวมถึงการซื่อสัตย์ กตัญญู ไม่ลืมผู้มีอุปการคุณที่ ให้ความช่วยเหลือ
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ nussara@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2553
คอลัมน์ Online : พิเศษ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/29074