เล็กพริกขี้หนู...เมดอินเยอรมนี

นำผลงานใหม่ของยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์มาเล่าสู่กันฟังรวม 2 ชิ้น ชิ้นแรกที่เห็นอยู่นี้ คือ โฟล์คสวาเกน โพโล จีทีไอ (VOLKSWAGEN POLO GTI) เป็นรถยนต์นั่งขนาด SUPERMINI ที่ควรคู่เป็นอย่างยิ่งกับสมญานาม "เล็กพริกขี้หนู" โฟล์คสวาเกน โพโล เป็นรถยนต์นั่งขนาดซูเพอร์จิ๋วที่อยู่ในสายการผลิตมานมนานและเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนรักรถทั่วโลก ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ บรรจุรถอนุกรมนี้เข้าสู่สายการผลิตเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1975 และในช่วงเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมาได้เปลี่ยนรุ่นรถอนุกรมนี้ไปแล้วรวม 4 ครั้ง รถรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 5 อวดตัวต่อสายตาคนรักรถเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งที่ 79 เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2009 และเริ่มจำหน่ายในตลาดเมืองแม่ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน ประจักษ์พยานยืนยันคุณภาพของ โฟล์คสวาเกน โพโล รุ่นล่าสุดนี้ คือ รางวัลเกียรติยศ CAR OF THE YEAR หรือ"รถแห่งปี" ประจำปี 2010 (โปรดอ่าน "ข่าวรอบโลก" ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2010) สำหรับ โฟล์คสวาเกน โพโล จีทีไอ ที่กำลังอวดรูปโฉมอยู่นี้ นับเป็นรถโมเดลพิเศษ ออกแบบและพัฒนาสำหรับผู้ใช้รถที่นิยมชมชอบรถขนาดเล็ก แต่ร้อนแรง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า HOT HATCH เพิ่งปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุด เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และขณะนี้ออกจำหน่ายแล้วทั้งแบบพวงมาลัยซ้าย และแบบพวงมาลัยขวา ตัวถัง 3/5 ประตูแฮทช์แบค ยาว 3.976 ม. กว้าง 1.682 ม. สูง 1.452 ม. และมีน้ำหนักตัวพร้อมขับ 1,194 กก. มีรายละเอียดของตัวถังภายนอกที่แตกต่างไปจากรถรุ่นสามัญอยู่หลายจุด ตัวอย่าง คือ แผงกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ออกแบบขึ้นใหม่เป็นพิเศษ ดวงโคมไฟหน้าแบบ BI-XENON ซึ่งมีไฟ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันผนวกอยู่ด้วย สปอยเลอร์ท้ายที่มีสีเดียวกับตัวถัง และกระทะล้ออัลลอยขนาดโตถึง 17 นิ้ว เมื่อก้าวเข้าไปในห้องโดยสารซึ่งนั่งได้รวม 5 คน ก็จะพบจุดสะดุดตาซึ่งผิดแผกไปจากรถรุ่นสามัญอยู่มากมาย ตัวอย่าง คือ เก้าอี้ที่นั่งซึ่งหุ้มด้วยผ้าแฟบริคที่ถักทอด้วยลวดลายเพชร อย่างที่เรียกกันภาษาอังกฤษว่า DIAMOND PATTERN วัสดุหุ้มหลังคา เสา ที่จับประตู และแผงบังแดด ซึ่งล้วนเป็นสีดำ เพื่อเน้นลักษณะสปอร์ท เป็นรถขับล้อหน้า ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง ความจุ 1,390 ซีซี ติดซูเพอร์ชาร์เจอร์ และเทอร์โบชาร์เจอร์ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. และแรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. ที่ 2,000-4,500 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้า เป็นเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ซึ่งเรียกกันอย่างย่อๆ ในภาษาฝรั่งว่า 7-SPEED DSG เครื่องยนต์ และระบบเกียร์ที่ว่านี้ จะพบได้เช่นกัน ในรถประเภทเดียวกันอีก 2 แบบ ที่อยู่ในเครือข่ายของยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์ แต่มีชาติตระกูล และสนนราคาค่าตัวต่ำกว่า คือ เซอัต อีบิซา คูปรา (SEAT IBIZA CUPRA) และ สโกดา ฟาบีอา วีอาร์ 5 (SKODA FABIA VR5) สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 229 กม./ชม. กำหนดให้ใช้เชื้อเพลิงเบนซินแบบซูเพอร์ที่มีค่าออคเทนนัมเบอร์ 98 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.9 ลิตร/100 กม. หรือ 16.9 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 139 กรัม/กม. เป็นตัวเลขที่น่าพอใจสำหรับรถที่เร็วและแรงขนาดนี้ สนนราคาค่าตัวของรถพวงมาลัยขวา ซึ่งเริ่มมีจำหน่ายแล้วในอังกฤษเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เริ่มต้นที่ระดับ 18,275 ปอนด์ หรือเท่ากับประมาณ 914,000 บาทไทย