ทดสอบ
แฮทช์แบคสวยเด่น สปอร์ททุกอณู
มาซดา 2 แมกซ์ซ์ สปอร์ท 1.5 ลิตร 4 สูบ 103 แรงม้า ราคา 690,000 บาท
คู่แข่งในตลาด
ฮอนดา แจซซ์ เอสวี เอสอาร์เอส 1.5 ลิตร 4 สูบ วีเทค 120 แรงม้า ราคา 705,000 บาท
โตโยตา ยารีส เอส 1.5 ลิตร 4 สูบ วีวีทีไอ 103 แรงม้า ราคา 694,000 บาท
ซูซูกิ สวิฟท์ จีแอล 1.5 ลิตร 4 สูบ วีวีที 100 แรงม้า ราคา 649,000 บาท
ข้อเด่น
- รูปทรงสะดุดตา สไตล์สปอร์ท
- อัตราเร่งช่วงต้นดีเกินคาด
- คอนโซลกลางออกแบบได้ทันสมั
- ช่วงล่างเกาะถนนดี ขับสนุก
- ระยะเบรคหยุดได้ดีกว่าคู่แข่ง
ข้อด้อย
- พื้นที่ภายในแคบ
- ประโยชน์ใช้สอยน้อยไปหน่อย
- อัตราเร่งช่วงปลายมีแผ่ว
- ช่วงล่างแบบสปอร์ทมีเฉพาะในรุ่นสูงเท่านั้น
ฟันธง
- สปอร์ทแฮทช์แบคตัวเล็ก ขับเท่ก็ได้ สนุกก็ดี
นับว่าได้รับความนิยมอย่างล้นหลามกับ มาซดา 2 ไม่ต้องพูดถึงยอดขายที่ถล่มทลายในงาน มหกรรมยานยนต์ ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ถูกใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ผนวกกับการโหมโฆษณาอย่างจริงจัง "ฟอร์มูลา" ได้โอกาสทดสอบแฮทช์แบคยอดนิยมคันนี้ ล้วงลึกกันดูว่าภายใต้รูปทรงที่โฉบเฉี่ยว รถคันนี้มีดีอะไร ถึงได้แจ้งเกิดดังลั่นเหมือนจุดพลุ และของเด็ดที่จะทำให้มันเอาตัวรอดในสมรภูมิรถเล็กที่ดุเดือดนี้ได้อย่างไร
ภายนอก (4 ดาว)
สวยโฉบเฉี่ยว สะดุดตา
มาซดา 2 เปิดตัวในตลาดโลกมาหลายปีแล้ว ล่าสุดปรับโฉมใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ นำมาเปิดตัวที่ไทย เป็นประเทศแรกๆ มีการออกแบบสันโค้งของโป่งล้อหน้าให้ดูเข้มแข็ง และเส้นข้างคมเข้มพาดเฉียงขึ้น ให้ความรู้สึกปราดเปรียว ยาวจรดไฟท้าย
รถที่นำมาทดสอบเป็นรุ่น แมกซ์ซ์ สปอร์ท มิติตัวถัง ยาว/กว้าง/สูง 3,913/1,695/1,478 มม. ตามลำดับ (ฮอนดา แจซซ์ 3,920/1,695/1,525 มม. โตโยตา ยารีส 3,785/1,695/1,520 มม. และ ซูซูกิ สวิฟท์ 3,755/1,690/1,510 มม.)
จากตัวเลขจะเห็นว่า มาซดา 2 มีความยาวเทียบเคียงกับ แจซซ์ ที่มีตัวถังใหญ่สุดในตลาดกลุ่มนี้ โดยมีหลังคาเตี้ยสุดเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น เนื่องจากตัวถังเน้นความปราดเปรียว และช่วงล่างแบบสปอร์ท กดตัวรถให้ต่ำลงเล็กน้อย (ใช้ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว เท่ากับ แจซซ์)
ภายใน (3 ดาว)
ออกแบบทันสมัย พื้นที่ไม่กว้างมาก
ภายในของ มาซดา 2 ออกแบบได้ทันสมัย คอนโซลกลางทรงสี่เหลี่ยมมน ชวนให้นึกถึงรถสปอร์ทร่วมค่ายอย่าง เอมเอกซ์5 (MX-5) ไม่น้อย พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน น่าแปลกที่ระบบสตาร์ทรถเป็นแบบ KEYLESS แต่ยังต้องหมุนลูกบิดด้านข้างคอพวงมาลัย แทนที่จะเป็นแบบกดปุ่มตามสมัยนิยม นอกจากนี้ หลุมวางแก้ว หรือขวดน้ำ มีอยู่น้อยจุด และไม่มีมือจับเหนือประตูสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็มีผลเล็กน้อยต่อความสะดวกสบาย
ระยะฐานล้อของ มาซดา 2 วัดได้ 2,490 มม. (แจซซ์ 2,500 มม. ยารีส 2,460 มม. และสวิฟท์ 2,390 มม.) เมื่อดูจากตัวเลข เราออกจะคาดหวังความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร ในระดับเดียวกับคู่แข่ง
ขณะเข้าไปนั่งพบว่าที่ว่างเหนือศีรษะของผู้ขับมีเหลือเฟือ แต่บริเวณเข่าซ้ายจะโดนกินเนื้อที่เล็กน้อยโดยฐานคันเกียร์ที่ถูกออกแบบให้ยื่นออกมา ขณะที่ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่พอเพียง รองรับผู้โดยสาร 3 คนได้ หลังจากที่เราทดลองนั่งเปรียบเทียบกับ แจซซ์ รู้สึกได้ว่า มาซดา 2 คับแคบกว่าเล็กน้อย
เครื่องยนต์ (4 ดาว)
ดีเกินคาด ช่วงต้นฉับไว
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส MZR พิกัด 1.5 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ให้กำลัง 103 แรงม้า ดูเหมือนจำนวนแรงม้าที่โชว์จะน้อยไปนิด เมื่อเทียบกับบรรดาคู่รักคู่แค้น (แจซซ์ 120 แรงม้า และยารีส 109 แรงม้า) แต่เมื่อทดสอบจริง เราค่อนข้างแปลกใจกับผลตัวเลขที่ทำได้
คณะทดสอบของเรานำข้อมูลของ มาซดา 2 มาประกบกับคู่ ท้าชิง กันตรงๆ กับเจ้าตลาดแฮทช์แบคอย่าง แจซซ์ และรองแชมพ์อย่าง ยารีส เริ่มจากอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. มาซดา 2 ทำได้ในเวลา 12.7 วินาที ตามหลัง แจซซ์ เล็กน้อย ที่ทำเวลาได้ 12.1 วินาที และเฉือนกันไม่ลงกับ ยารีส ที่ทำเวลาเท่ากันที่ 12.7 วินาที สรุปได้ว่าตัวเลขแรงม้าน้อย แต่ไม่ได้ด้อยกว่า
อัตราเร่งยืดหยุ่นช่วง 80-120 กม./ชม. มาซดา 2 ทำได้ 10.2 วินาที โดนยืดระยะห่างจาก แจซซ์ ที่ทำได้ 9.0 วินาที ส่วน ยารีส ทำได้ 9.3 วินาที พิจารณาแล้วความเร็วที่มากกว่า 100 กม./ชม. ขึ้นไป แฮทช์แบคของ มาซดา เริ่มมีอาการแผ่วให้เห็นเล็กน้อย
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ความเร็วคงที่ 80 กม./ชม. มาซดา 2 ทำได้ 17.3 กม./ลิตร และที่ 100 กม./ชม. ทำได้ 16.2 กม./ชม. (ขณะที่ แจซซ์ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 19.6 และ 17.8 กม./ลิตร ตามลำดับ) เป็นไปได้ว่าระบบเกียร์อัตโนมัติอาจจะมีผล เพราะ แจซซ์ ใช้เกียร์ 5 จังหวะ ขณะที่ มาซดา 2 ยังเป็น 4 จังหวะ
การบังคับควบคุม (4 ดาว)
เกาะถนนดี เบรคเหนือกว่าใคร
มาซดา ปรับแต่งช่วงล่างแบบสปอร์ท ให้มีความหนึบแน่นกว่ารุ่นมาตรฐาน เมื่อลองหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนไปมา ตัวรถโยนตัวเพียงเล็กน้อย ขณะเข้าโค้งก็ยังสามารถควบคุมรถได้เชื่องมือ ทั้งยังให้ความรู้สึก ซูม-ซูม ขับสนุกพอหอมปากหอมคอ สำหรับคนที่อยากจะโชว์ลวดลายเหมือนในหนังโฆษณา
ตามข้อมูลที่ระบุจากโรงงาน ระบบเบรคด้านหน้าเป็นแบบจาน ขณะที่ด้านหลังเป็นแบบดุม ซึ่งดูเหมือนจะด้อยกว่าระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ของ แจซซ์ แต่ผลที่ออกมาก็ พลิกลอค อีกครั้ง
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. เบรคจนหยุดสนิทภายในระยะทางเพียง 15.6 เมตร สั้นกว่า แจซซ์ ที่ถลำไปข้างหน้าเล็กน้อยที่ระยะ 16.4 ม. ขณะที่ ยารีส ไม่น้อยหน้าน้องใหม่ ทำระยะเบรคที่ 16.0 ม. และหากเพิ่มความเร็วเป็น 80 กม./ชม. แฮทช์แบคจาก มาซดา ทำได้ 27.6 ม. ส่วนคู่แข่งเจ้าตลาดยังคงใช้ระยะเบรคมากกว่ากันที่ 30.5 ม. ส่วน ยารีส ยังทำได้ดีที่ 28.3 ม. จุดเด่นข้อนี้ของ มาซดา อาจเป็นเพราะช่วงล่างที่หนึบแน่น บวกกับตัวรถที่มีความสูงน้อยกว่าคู่แข่ง มีส่วนช่วยเรื่องจุดศูนย์ถ่วงไม่มากก็น้อย
สรุป
แฮทช์แบคเน้นขับสนุก ช่วงล่างมั่นใจได้
แม้จะปล่อยให้บรรดาค่ายคู่แข่งทำตลาดล่วงหน้าหลายปี แต่การมาทีหลังของผู้ท้าชิงรายล่าสุดก็ไม่ธรรมดา ด้วยสมรรถนะด้านอัตราเร่งช่วงต้นที่ทันใจ ช่วงล่างแบบสปอร์ทเน้นความหนึบแน่น และระบบเบรคที่เอาอยู่ อีกทั้งรูปทรงองค์เอวที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจของใครหลายคน และจะดีมากหาก มาซดา ปรับแต่งอุปกรณ์ประโยชน์ใช้สอยภายในห้องโดยสาร รับรองว่ามันจะยืดความร้อนแรงแบบ ซูม-ซูม ไปได้อีกนาน
ข้อมูลจำเพาะ
มาซดา 2
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2686-4900
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,913/1,695/1,478
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,465/1,455
ฐานล้อ (มม.) 2,490
น้ำหนัก (กก.) 1,060
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 43
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว S-VT
ความจุ (ซีซี) 1,498
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 78.0/78.4
อัตราส่วนกำลังอัด 10.0:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 103/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 14.0/4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค วาล์วแปรผัน
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 4
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 ล้อหน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง ทเรลิงอาร์ม คอยล์สปริง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน เพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส พร้อมระบบเสริมแรงเบรค อีบีดี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 690,000
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 5.6
0-80 กม./ชม. 9.0
0-100 กม./ชม. 12.7
0-120 กม./ชม. 19.3
0-140 กม./ชม. 27.6
0-160 กม./ชม. -
0-400 ม. 18.9 ที่ความเร็ว 119.2 กม./ชม.
0-1,000 ม. 34.6 ที่ความเร็ว 150.1 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
40-120 กม./ชม. 15.7
60-100 กม./ชม. 7.2
80-120 กม./ชม. 10.2
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม. 15.6 (0.91)
80-0 กม./ชม. 27.6 (0.91)
100-0 กม./ชม. 44.2 (0.89)
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม.
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม.
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 60
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 80
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 100
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 120
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. -
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 21.1 4.8
80 17.3 5.8
100 16.2 6.2
120 13.4 7.5
140 - -
หมายเหตุ: รถใหม่
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2553
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/28502