X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รถใหม่
17 Feb 2009
เขาเรียกกันว่า สุดยอดรถสปอร์ท
ป่าวร้องให้คนรักสปอร์ท 10 คน มายืนเข้าแถวเรียงกัน โดยไม่จำเป็นต้องไล่ลำดับตามส่วนสูง หรือเส้นรอบพุง แล้วให้เอ่ยชื่อรถสปอร์ทสัญชาติเยอรมันที่นึกได้เป็นชื่อแรก รับประกันได้ว่า ไม่น้อยกว่า 9 คน จะเอ่ยชื่อ โพร์เช 911 (PORSCHE 911) โพร์เช 911 นับเป็นยอดรถสปอร์ทของเมืองเบียร์ ที่มีประวัติความเป็นมาสามารถย้อนหลังไปได้จนถึงปี 1963 อันเป็นปีแรกที่ค่าย โพร์เช ผลิตรถแบบนี้ออกจำหน่ายในตลาด รถรุ่นดังกล่าวซึ่งในช่วงเวลานั้นรู้จักกันในชื่อ โพร์เช 901 (PORSCHE 901) ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1,991 ซีซี ให้กำลังสูงสุดแค่ 130 แรงม้า มีน้ำหนักตัว 1,040 กก. สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ในช่วงเวลา 3 ปี คือ ปี 1963-1965 โพร์เช ผลิตรถรุ่นนี้ออกสู่ตลาดรวมทั้งสิ้น 248 คัน ส่วนรถรุ่นปัจจุบัน ซึ่งมีรหัสโรงงานว่า 997 เริ่มออกจำหน่ายในเยอรมนีเมื่อเดือนกรฎาคม 2004 และเพิ่งได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ "ยกหน้า" เป็นครั้งแรกเมื่อกลางปี 2008 นี่เอง โดยที่การปรับปรุงครั้งนี้ ในส่วนของตัวถังทั้งภายนอก และภายใน มีการปรับปรุงน้อยมากจนสังเกตแทบไม่เห็น หากไม่ใช่คนรักรถที่คุ้นเคยกับรถแบบนี้อย่างจริงๆ จังๆ จุดที่พอสังเกตเห็นได้ คือ กระจกมองข้างมีขนาดโตขึ้นเล็กน้อย ดวงโคมไฟหน้า และไฟท้าย ที่เปลี่ยนรายละเอียดไปนิดหน่อย กับกระทะล้อขนาด 18 และ 19 นิ้ว ที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ความเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ และระบบเกียร์ เครื่องยนต์หลักที่ใช้อยู่ก่อนการปรับปรุงแบบ "ยกหน้า" ครั้งนี้ มีอยู่ 2 ขนาด คือ เครื่อง DOHC 6 สูบนอนยัน (บอกเซอร์) ความจุ 3,596 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 325 แรงม้า ที่ 6,800 รตน. และแรงบิดสูงสุด 37.8 กก.-ม. ที่ 4,250 รตน. กับเครื่อง DOHC 6 สูบนอนยัน (บอกเซอร์) ความจุ 3,824 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 355 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. และแรงบิดสูงสุด 40.8 กก.ม.-ที่ 4,600 รตน. เครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาดนี้ ได้รับการปรับปรุงในลักษณะถอนรากถอนโคน จนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องใหม่ โดยเปลี่ยนระบบป้อนเชื้อเพลิงเป็นระบบฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง ที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า DIRECT INJECTION SYSTEM ซึ่งผลลัพธ์นอกจากพละกำลังที่สูงขึ้น คือ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง กล่าวคือ เครื่อง 3.6 ลิตร มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 20 แรงม้า เป็น 345 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลดลงร้อยละ 14.3 ในขณะที่อัตราคาร์บอนไดออกไซด์ก็ลดลงร้อยละ 15 คือ เหลือแค่ 225 กรัม/กม. ส่วนเครื่อง 3.8 ลิตร กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 30 แรงม้า เป็น 385 แรงม้า และอัตราสิ้นเปลืองลดลงร้อยละ 12.8 นอกจากนั้น โพร์เช ยังยืนยันด้วยว่า เครื่องยนต์ทั้งสองขนาดนี้มีน้ำหนักตัวลดลงถึง 5 กก. แถมเสื้อสูบยังแข็งแรงกว่าเครื่องเดิมถึงร้อยละ 22 ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นผลลัพธ์จากจำนวนชิ้นส่วนที่เคลื่อน ลดลงถึงร้อยละ 40 ในส่วนของระบบเกียร์ เดิมรถแบบนี้มีระบบเกียร์ให้เลือกใช้ 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ทิพทรอนิค เอส (TIPTRONIC S) แต่ในรถที่เพิ่งผ่านการปรับปรุงแบบ "ยกหน้า" นี้ เกียร์ธรรมดายังคงอยู่ แต่เกียร์อัตโนมัติถูกแทนที่ด้วยเกียร์กึ่งอัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ซึ่ง โพร์เช ตั้งชื่อว่าเป็นภาษาเยอรมันยาวเหยียดว่า PORSCHE DOPPEL KUPPLUNGSGETRIEBE และเรียกโดยย่อว่า PDK กล่าวโดยสรุป โพร์เช 911 ที่ได้รับการปรับปรุงแบบ "ยกหน้า" ครั้งนี้ มีอยู่ด้วยกันรวม 10 โมเดล คือตั้งแต่ 911 คาร์เรรา (911 CARRERA) จนถึง 911 ทาร์กา 4 เอส (911 TARGA 4S) ดังที่เห็นในตาราง ส่วนอีก 3 โมเดลที่เหลือ คือ 911 เทอร์โบ (911 TURBO) 911 เทอร์โบ กาบริโอเลต์ (911 TURBO CABRIOLET) และ 911 จีที 2 (911 GT2) ยังคงเป็นรถรุ่นเดิมที่ยังไม่ได้ผ่านการปรับปรุง
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา chusak@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มกราคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/27217
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th