โดยปกติเมื่อซีวีจอยท์ยังทำงานได้อยู่ มันก็จะทำงานไปโดยไม่มีอะไร แต่หากเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้ว คุณก็จะได้ยินเสียงแตก และเพลาด้านนั้นก็จะไม่มีแรงขับเคลื่อน และแม้ว่าเพลารถของคุณจะมีดิฟฟ์ลอค แต่ก็ช่วยให้คุณขับเคลื่อนไปได้เพียง 3 ล้อเท่านั้น เมื่อหมุนพวงมาลัยจากด้านหนึ่งมายังอีกด้านหนึ่งคุณจะได้ยินเสียงคลิคและเสียดสีอยู่ในชุดเลี้ยว อันตรายมากหากชิ้นส่วนที่แตกไปขัดการหมุนในขณะเลี้ยว คุณต้องถอดเอาซีวีจอยท์ข้างที่เสียนั้นออก แม้ว่าจะยุ่งยากในการถอด แต่ก็ต้องทำ

ซีวีจอยท์ โดยปกติเมื่อซีวีจอยท์ยังทำงานได้อยู่ มันก็จะทำงานไปโดยไม่มีอะไร แต่หากเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้ว คุณก็จะได้ยินเสียงแตก และเพลาด้านนั้นก็จะไม่มีแรงขับเคลื่อน และแม้ว่าเพลารถของคุณจะมีดิฟฟ์ลอค แต่ก็ช่วยให้คุณขับเคลื่อนไปได้เพียง 3 ล้อเท่านั้น เมื่อหมุนพวงมาลัยจากด้านหนึ่งมายังอีกด้านหนึ่งคุณจะได้ยินเสียงคลิคและเสียดสีอยู่ในชุดเลี้ยว อันตรายมากหากชิ้นส่วนที่แตกไปขัดการหมุนในขณะเลี้ยว คุณต้องถอดเอาซีวีจอยท์ข้างที่เสียนั้นออก แม้ว่าจะยุ่งยากในการถอด แต่ก็ต้องทำ ดิฟเฟอเรนเชียล ความรุนแรงของดิฟเฟอเรนเชียล หรือดิฟฟ์แตก น้อยกว่าซีวีจอยท์พัง แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้แม้แต่รถที่แพงๆ และเมื่อดิฟฟ์พังคุณจะรู้สึกได้โดยการขับเคลื่อนจะเหลือเพียงแค่ 2 ล้อ สามารถตรวจสอบได้โดยยกแม่แรงตั้งล้อคู่นั้นขึ้นแล้วหมุนล้อและเพลาขับ จะได้ยินเสียงเสียดสีที่ดิฟฟ์ แต่ที่ล้อกลับไม่ดัง ถ้ารถคุณเป็นแบบพาร์ทไทม์ก็แก้ไขได้โดยปลดลอคฮับ หรือเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจาก 4 ล้อ มาเป็น 2 ล้อ แต่ถ้าเป็นฟูลล์ไทม์ คุณจะต้องปลดเพลาขับด้านที่ดิฟฟ์แตกออก เพื่อตัดกำลังที่ส่งไปยังดิฟฟ์ด้านนั้นๆ แล้วคุณจะต้องเข้าเซนเตอร์ดิฟฟ์ลอค เพื่อให้สามารถขับเคลื่อน 2 ล้อได้ หม้อน้ำ ถ้าหม้อน้ำเกิดเป็นรูรั่ว โดยทั่วไปสามารถแก้ไขได้โดยการปะด้วยอีพอกซี-พุทที แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะ ที่เราอุดไว้ก็เกิดการหลุดออกและรั่วอีก เนื่องจากการไหลเวียนของน้ำในหม้อน้ำทำให้วัสดุที่เราอุดไว้เกิดการหลุดออก การใช้คีมบีบท่อในตำแหน่งที่รั่วดูจะเป็นทางออกที่ดีกว่า หรือใช้ถ่านสำหรับแคมพ์ไฟมาหลอมฟิวส์ที่ใช้ในรถยนต์เพื่ออุดรูรั่วของหม้อน้ำนั้น แม้ว่าตะกั่วและอลูมิเนียมจะไม่สามารถเข้ากันได้ แต่ก็พอที่จะพารถคุณออกมาจากป่า แล้วกลับบ้านได้ คลัทช์ ปัญหาที่เกิดกับคลัทช์มี 2 อย่าง คือ คลัทช์ลื่น กับคลัทช์ไม่จาก คลัทช์ลื่นมักจะเกิดจากการเลี้ยงคลัทช์เมื่อวิ่งบนทางทรายจนทำให้หน้าคลัทช์ร้อน ต้องรอให้คลัทช์เย็นถึงจะใช้งานใหม่ได้ สำหรับส่วนของกลไกคลัทช์ที่มีทั้งแบบสายและไฮดรอลิคนั้น ถ้าไฮดรอลิคเสียจะใช้คลัทช์ไม่ได้ แต่ถ้าหากสายคลัทช์เปื่อยจะทำให้คลัทช์จากได้ไม่สุด เกิดอาการคลัทช์ลื่น แต่ถ้าสายคลัทช์ขาด สามารถแก้ไขได้โดยสตาร์ทเครื่องในขณะที่เข้าเกียร์ 2 อยู่ แล้ววิ่งไปโดยหาจังหวะเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัทช์ และอย่าให้รถหยุดนิ่ง ฮาล์ฟชาฟท์ ฮาล์ฟชาฟท์ หรือเพลาขับ ถ้าด้านใดด้านหนึ่งเกิดเสียหายขึ้นมา จะมีผลทำให้รถของคุณต้องเปลี่ยนจากขับเคลื่อน 4 ล้อ มาเป็น 2 ล้อทันที ปกติเมื่อฮาล์ฟชาฟท์เสียจะไม่ไปทำความเสียหายกับดิฟฟ์ลูกปืน หรือภายในของเพลาเอง แต่ถ้าฮาล์ฟชาฟท์เป็นส่วนหนึ่งของระบบรองรับอิสระ คุณจะต้องถอดมันออก เพราะหากปล่อยไว้จะยิ่งเพิ่มความเสียหายมากขึ้นไปอีก ขั้นตอนการถอดเอาฮาล์ฟชาฟท์ทางด้านหน้าออกนั้น คล้ายกับการถอดเอาซีวีจอยท์ออก ระบบห้ามล้อ สาเหตุส่วนใหญ่ที่มักจะเกิดกับระบบเบรค จนทำให้เบรคไม่สามารถใช้งานได้ก็คือ สายท่อเบรคฉีกขาด จนทำให้น้ำมันเบรคไหลออกจากระบบ การวิ่งใช้งานบนทางวิบากโดยไม่มีเบรคนั้นไม่อันตรายเท่ากับวิ่งบนทางเรียบ ถ้าวิ่งอยู่ในช่วงเกียร์โลว์เรนจ์ด้วยแล้ว รถคุณเคลื่อนที่ไปได้ช้ามากเพราะมีเอนจินเบรคคอยรั้งอยู่ หากจำเป็นต้องใช้เบรคจริงๆ ให้ซ่อมท่อเบรคที่ขาดและเติมน้ำมันเบรค แต่ถ้าไม่มีให้หาน้ำมันเกียร์อัตโนมัติใส่แทนได้ แต่อย่าลืมไล่ลมออกจากระบบเบรค ยางอะไหล่ ถ้าบังเอิญรถของคุณไม่มียางอะไหล่ติดรถมาแล้วคุณจำเป็นต้องใช้ ให้ตรวจสอบดูว่าคันอื่นที่ร่วมขบวนมากับคุณมีล้อและยางขนาดเดียวกับรถคุณหรือไม่ รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีนอทลอคล้อ 6 ตัว แต่ต้องดูว่ากระทะล้อมีส่วนใดไปเบียดกับกลไกเบรคหรือไม่ รถส่วนใหญ่จะมีชุดเบรคหลังเล็กกว่าด้านหน้า ล้อที่ใส่กับชุดเบรคหน้าไม่ได้อาจจะใส่ล้อหลังได้ แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ แล้ว อาจต้องถอดยาง เอายางอะไหล่รถคันอื่นมาใส่แทน เพื่อให้รถวิ่งลุยต่อไปได้ อัลเทอร์เนเตอร์ ดินโคลนและน้ำที่กระเซ็นเข้าไปในอัลเทอร์เนเตอร์ จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง เมื่อตรวจพบควรทำการไล่สิ่งสกปรกและความชื้นออกด้วยสเปรย์น้ำยาไล่ความชื้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราต้องขอพ่วงแบทเตอรีจากรถที่ร่วมขบวนมา เพื่อทำการสตาร์ทรถ แต่ถ้าคุณไม่มีเพื่อนร่วมทางไปด้วย การสตาร์ทรถด้วยการเข็นกระตุกดูจะดีกว่า และต้องไม่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆ ในรถ เพราะกลไกที่ควบคุมการฉีดน้ำมันในเครื่องยนต์ดีเซลจะไม่มีกำลังไฟจากแบทเตอรี มาเลี้ยงมากพอ