แจกวาร์ รุ่น เอส-ไทพ์ (S-TYPE) ใหม่ ใช้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่แตกต่างไปจากระบบขับเคลื่อนแบบเดิมที่เป็นระบบออลล์วีลดไรฟ ที่มีใช้ในรุ่น เอกซ์เจ และเอกซ์เค ก่อนหน้านี้ สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่นี้ ได้รับความช่วยเหลือทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาจาก แลนด์ โรเวอร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า แลนด์ โรเวอร์ มีความชำนาญทางด้านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อดีเพียงใด

แจกวาร์ เตรียมอวดโฉม เอส-ไทพ์ 4x4 แจกวาร์ รุ่น เอส-ไทพ์ (S-TYPE) ใหม่ ใช้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่แตกต่างไปจากระบบขับเคลื่อนแบบเดิมที่เป็นระบบออลล์วีลดไรฟ ที่มีใช้ในรุ่น เอกซ์เจ และเอกซ์เค ก่อนหน้านี้ สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่นี้ ได้รับความช่วยเหลือทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาจาก แลนด์ โรเวอร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า แลนด์ โรเวอร์ มีความชำนาญทางด้านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อดีเพียงใด นอกจากระบบขับเคลื่อนแล้ว ในส่วนของเครื่องยนต์ที่วางใน แจกวาร์ เอส-ไทพ์ ก็กลับมาใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบแถวเรียงเหมือนรุ่นในอดีต และยังมี 6 สูบแถวเรียง แต่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกอีกด้วย ในด้านความปลอดภัยของตัวถัง แม้ว่าจะยังไม่มีการรับรองผ่านการทดสอบการชนของสถาบันใดๆ แต่วิศวกรของ แจกวาร์ ก็มั่นใจว่า รถของตัวเองมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถเต็ม 100 % ฟอร์ด วาดฝันรถไฮบริด อนาคตรุ่ง ประมาณปี 2553 หรืออีก 5 ปีข้างหน้านี้ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ค่าย ฟอร์ด ได้ตั้งเป้าการผลิตรถไฮบริด ส่งขายในตลาดทั่วโลก ประมาณ 250,000 คัน/ปี ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นรถใหม่ รุ่น เอกซ์พลอเรอร์ (EXPLORER) วอกซ์ฮอลล์ โชว์ออฟรถแนวคิดคันใหม่ "อันตารา จีทีซี" แล้วก็ถึงเวลาที่ค่าย วอกซ์ฮอลล์ เตรียมส่งรถใหม่รุ่น อันตารา จีทีซี (ANTARA GTC) มาแทนที่รุ่น ฟรนเตรา (FRONTERA) ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน รูปทรงเส้นสายของตัวถังถอดแบบมาจากรถแนวคิด เชฟโรเลต์ เอส 3 เอกซ์ (S3X) ที่เปิดเผยตัวให้สาธารณชนได้เห็นไปแล้ว ในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ที่ผ่านมา รถร่วมค่ายอย่าง เชฟโรเลต์ และโอเพล ก็มีรถในแบบเดียวกับ อันตารา จีทีซี เช่นกัน เชฟโรเลต์ นั้นเป็นชื่อของรถที่เน้นความหรูหราภูมิฐาน แน่นอนว่าราคาของรถต้องแพงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ในการทำรถที่ใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกัน แต่ต่างยี่ห้อ คงต้องอาศัยการตกแต่งภายในตัวรถเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความหรูหรา ในขณะที่ โอเพล เน้นความมีสีสันในแบบฉบับของวัยรุ่น ฐานการผลิตของรถรุ่นนี้ จะใช้โรงงานที่ประเทศเกาหลี แม้ว่าจะใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกัน แต่เมื่อต้องติดยี่ห้อที่แตกต่างกันถึง 3 ยี่ห้อแล้ว ในส่วนของด้านหน้าและด้านท้ายรถ ต้องตกแต่งในแบบที่แตกต่างกันตามไปด้วย จะเห็นว่าจากรถที่เป็นแนวคิดที่นำออกเสนอในงานมหกรรมยานยนต์ เจ้าของค่ายรถเองถือโอกาสเอาเรทิงของผู้เข้าชมมาเป็นตัววัดดัชนีความน่าจะเป็นที่จะนำมาประกอบเป็นรถตลาด หากเรทิงสูง จากรถแนวคิดก็สามารถแปลงร่างมาเป็นรถตลาดที่ออกขายได้จริง โตโยตา เตรียมส่ง โคโรลลา แวร์โซ ลุยตลาดรถครอบครัว ในอีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้านับจากนี้ ค่าย โตโยตา มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น จะส่งรุ่น โคโรลลา แวร์โซ (COROLLA VERSO) ซึ่งเป็นรถเอมพีวี 7 ที่นั่ง ลงลุยในตลาด โดยเน้นขุมกำลังที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล D-4D ความจุ 2.2 ลิตร แวร์โซ รุ่นที่มีขายในปัจจุบัน เป็นรถขนาด 5 ที่นั่ง วางเครื่องยนต์กำลังต่ำเกินไป ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่สำหรับ แวร์โซ ใหม่นี้ จะใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์คอมมอนเรล เป็นตัวดึงดูดความสนใจ เนื่องจากให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด ในขณะที่พละกำลังก็ไม่เป็นรองใครในรถระดับเดียวกัน ทางด้านตัวถังนั้น ได้เสริมความเป็นรถสปอร์ท ด้วยการใส่ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วเข้าไป การตกแต่งภายในไม่มีสไตล์ให้เลือก เพราะตกแต่งมาในแบบเดียวเท่านั้น นิสสัน เปลี่ยนเกียร์ ให้ "มูราโน" ใหม่ นิสสัน มอเตอร์ ฯ ได้ตัดสินใจนำเกียร์ซีวีที (CVT) หรือเกียร์แบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง มาใช้ในรุ่น มูราโน (MURANO) โดยปกติแล้วเกียร์ซีวีที ที่มีใช้โดยทั่วไป การเปลี่ยนเกียร์จะไร้ซึ่งรอยต่อ ทำให้ความเร็วของรถค่อยๆ ปรับเร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยที่คนขับไม่สามารถควบคุมจังหวะของเกียร์ได้เลย แต่สำหรับเกียร์ซีวีที ที่นำมาใช้ในรถ นิสสัน มูราโน ใหม่ ระบบเกียร์จะเอื้ออำนวยประโยชน์ให้คนขับสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ขึ้น/ลงเช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดาได้ โดยการกดปุ่มข้างพวงมาลัยเปลี่ยนเกียร์ให้สูงขึ้นหรือต่ำลงตามแต่รอบความเร็วของรถ ทาง นิสสัน เชื่อว่าเกียร์ซีวีที ใหม่ ที่นำมาใช้ใน มูราโน จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ที่สนใจ ดอดจ์ ส่ง คาลิเบอร์ ขายในถิ่นผู้ดี ดอดจ์ เตรียมส่ง คาลิเบอร์ (CALIBER) ใหม่ ลงเขย่าตลาดรถครอบครัวในเมืองผู้ดีอังกฤษ คาลิเบอร์ ใหม่ เป็นรถครอสส์โอเวอร์ ที่ผสมผสานความเป็นรถสปอร์ท แฮทช์แบค และรถขับเคลื่อนสี่ล้อไว้ในคันเดียวกัน รูปทรงของรถไม่ค่อยจะแตกต่างไปจากรถแนวคิดของ ดอดจ์ ที่ได้เปิดตัวไปในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ที่ผ่านมาแต่อย่างใด ไล่จากกระจังหน้าที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ดอดจ์ บั้นท้ายที่ถูกบรรจงขัดเกลาจนดูแล้วหลายคนต้องเหลียวหลังกลับมามอง แนวเส้นของขอบหน้าต่าง ที่สูง และเสาหลังที่ดูสะดุดตาไม่เหมือนใคร ขุมกำลังที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ของ โฟล์คสวาเกน ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 135 แรงม้า และแรงบิด 31.5 กก.-ม. เหตุผลที่ ดอดจ์ เลือกใช้เครื่องยนต์ของ โฟล์คสวาเกน แทนที่จะเป็นของ เมร์เซเดส-เบนซ์ เพราะความพอดีลงตัวของห้องเครื่องยนต์ใน คาลิเบอร์ นอกจากเครื่องยนต์ดีเซลนี้แล้ว ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน ให้เลือกอีก 3 รุ่นคือ 1.8, 2.0 และ 2.4 ลิตร ที่มาพร้อมกับเกียร์ซีวีที สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใน คาลิเบอร์ จะใช้ระบบอีเลคทรอนิคส์ ในการควบคุมการทำงาน ดอดจ์ ยังมีแผนที่จะผลิตรุ่นร้อนแรง รุ่น เอสอาร์ที (SRT) โดยจะโหลดช่วงล่างของรถให้ต่ำลง ติดตั้งสกูพดักลมที่บนฝากระโปรงหน้า กระจังหน้าแบบครีบลายหวาน และติดตั้งเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่วางใน ไครสเลอร์ พีที ครูเซอร์ เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตร 230 แรงม้า สำหรับผู้ที่สนใจ คาลิเบอร์ ใหม่ ต้องรอไปประมาณกลางปีหน้า ราคาขายเริ่มต้นยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าราคาต้องถูกกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ฟอร์ด เปิดตัว กาแลกซี ใหม่ ฟอร์ด จะเปิดตัวรถรุ่น กาแลกซี (GALAXY) ใหม่ ในแบบของรถโชว์ ก่อนจะมีการผลิตออกมาขายจริงในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท แต่ กาแลกซี ใหม่ จะไม่ได้ใช้ชี่อ กาแลกซี ต่อไปแล้ว จะใช้ชื่อรุ่นว่า แอลเอมวี (LMV) แทน โฟล์คสวาเกน ย้ายโรงงานผลิต ไมโครบัส รถเอมพีวีขนาด 7 ที่นั่งที่ใช้โครงสร้างตัวถังหลักจาก ไครสเลอร์ วอยาเจอร์ (VOYAGER) ในชื่อรุ่น ไมโครบัส (MICROBUS) จากค่าย โฟล์คสวาเกน นี้จะขายในตลาดรถอเมริกันเหนือ แต่ติดตรงที่ต้นทุนที่ใช้ในการผลิต ไม่ว่าจะเป็นส่วนของอะไหล่หรืออุปกรณ์ตกแต่ง ล้วนแล้วแต่มีราคาแพงแทบทั้งสิ้น ถึงจะทำราคาให้ต่ำลงมากที่สุดแล้ว แต่ต้นทุนการผลิตยังคงสูงอยู่ดี เพื่อที่จะให้สามารถส่ง ไมโครบัส ไปขายในตลาดอเมริกาเหนือได้ ต้องย้ายฐานการผลิตจากเยอรมนีไปยังโปรตุเกสแทน ด้วยการตัดสินใจย้ายฐานการผลิตของรถรุ่น ไมโครบัส ในครั้งนี้ จะทำให้ต้นทุนการผลิตของรถรุ่นนี้ต่ำลง มีศักยภาพมากพอที่จะไปแข่งขันทางด้านราคากับคู่แข่งในระดับเดียวกันได้ จีพ ตั้งใจผลิต "คอมพาสส์" รถ 4x4 รถใหม่สองรุ่นจากค่าย จีพ คือ คอมพาสส์ (COMPASS) และแพทริออท (PATRIOT) ที่ก่อนหน้านี้ ยังเป็นแค่รถแนวคิด แต่อีกไม่นานนี้จะกลายมาเป็นโพรดัคชันคาร์ ในปีหน้านี้ ในรุ่น คอมพาสส์ ใหม่ ถือว่าเป็นครั้งแรกของ จีพ ที่ทำรถแหวกแนวฉีกความเป็นราชาแห่งรถวิบาก เพราะ จีพ คอมพาสส์ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานบนเส้นทางวิบากเหมือนรถ จีพ รุ่นอื่นๆ ด้วยช่วงล่างรถที่ต่ำและกระจกบังลมหน้าที่ลาดเอียง โดยรวมแล้วดูละม้ายคล้ายคลึงกับ ดอดจ์ คาลิเบอร์ ส่วน แพทริออท ก็ดูเหมือนแฝดผู้น้องของรถขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นใหญ่ คือ จีพ คอมมานเดอร์ ถึงกระนั้น ขีดความสามารถในเชิงทางวิบาก ทั้ง แพทริออท และ คอมมานเดอร์ ก็แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกัน รถจีน เตรียมบุกตลาดโลก ทุกวันนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศจีน นับว่ามีการเติบโตแบบก้าวกระโดดสูงมาก ดูได้จากในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ที่ผ่านมา มีรถจากค่ายหลังม่านไม้ไผ่ มาอวดโฉมเช่นกัน เดี๋ยวนี้คุณสามารถหาซื้อรถจากประเทศจีน ในประเทศแถบยุโรปได้แล้ว เพราะแม้แต่ในฮอลล์แลนด์ บริษัท เจียงหลิง ฯ (JIANGLING) ก็ยังส่งรุ่น แลนด์วินด์ (LANDWIND) ไปขาย แลนด์วินด์ มีรูปลักษณ์ตัวถังคล้ายกับ วอกซ์ฮอลล์ ฟรนเตรา ขุมกำลังที่วางมีทั้งจาก มิตซูบิชิ ที่เป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 125 แรงม้า และจาก อีซูซุ ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.8 ลิตร 92 แรงม้า ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระ และแบบแหนบในด้านหลัง ภายในตัวรถตกแต่งค่อนข้างจะแย่ไปหน่อย อาจเป็นเพราะต้องการให้มีต้นทุนต่ำสุด GEELY บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ของจีน และเป็นบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้ผลิตรถมามากกว่า 1 แสนคันในระยะเวลา 13 ปี โดยผลิตเองตั้งแต่เครื่องยนต์ เกียร์ ไปจนถึงชิ้นส่วนอื่นๆ เกือบทั้งคัน ในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ คาดว่าจะมีรถจากจีนไปขายในตลาดยุโรป ทั้งนี้ต้องดูความเป็นไปได้จากการตอบรับของผู้เข้าชมรถต้นแบบในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ที่ผ่านมานี้ก่อน ส่วนในแถบเอเชีย นอกจากฐานการผลิตใหญ่ๆ ในประเทศไทย และอินเดียแล้ว อีกไม่นานนับจากนี้ รถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถเอมพีวี หรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อหลายรุ่นจากประเทศจีน จะถูกส่งออกมาขายทั่วโลก โดยเน้นการเปิดตลาดด้วยราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง แต่ทั้งนี้คุณภาพในการประกอบรถ และความไว้วางใจในตัวรถระยะยาวจะเป็นเครื่องพิสูจน์อีกที เอาดี ผลิต คิว 7 ไฮบริด เตรียมรับมือวิกฤตน้ำมันแพง กลุ่ม โฟล์คสวาเกน ที่ประกอบด้วย โฟล์คสวาเกน โพร์เช และเอาดี ได้จับมือร่วมกันที่จะทำรถไฮบริด เพื่อตอบสนองวิกฤตการณ์พลังงานที่กำลังจะหมดลงไป เริ่มจากค่าย เอาดี ที่นำเอาขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน แบบไดเรคท์อินเจคชัน มาไฮบริด ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ประกบขนาบข้างเครื่องยนต์ และเกียร์ในแบบแซนด์วิช โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากสุดถึง 7 คน ขุมกำลังที่ใช้เป็นเครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ FSI ความจุ 4.2 ลิตร 350 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 44.7 กก.-ม. มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งพ่วงเข้าไปจะทำให้มีแรงม้ารวมเพิ่มขึ้นอีก 43 แรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 20.3 กก.-ม. ทำให้รถมีความเร็วเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 28.8 กม./ชม. อัตราเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 6.8 วินาที ซึ่งเร็วกว่ารถสแตนดาร์ดที่ไม่ได้ไฮบริดถึง 0.6 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของรถไฮบริด ดีกว่าถึง 13 % ตำแหน่งที่ติดตั้งแบทเตอรี สำหรับใช้กับมอเตอร์ไฟฟ้า ถูกเลือกติดตั้งในที่เก็บยางอะไหล่ เมื่อ เอาดี นำทางไฮบริด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง โฟล์คสวาเกน และโพร์เช คงจะตามติดในไม่ช้า นักการตลาดหลายสำนักกล่าวว่า ประมาณไม่เกิน 5 ปีนับจากนี้ รถยนต์กว่าร้อยละ 20 ที่วิ่งอยู่บนถนน จะต้องเป็นรถไฮบริด แน่นอน !