เซบัสเตียง โลบ์ ผงาดคว้าแชมพ์สนามที่ 9 แรลลีชิงแชมพ์โลก สนามนี้เป็นสนามที่ 9 จัดขึ้นที่ประเทศอาร์เจนตินา ใน 8 สนามที่ผ่านมา เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) แห่งทีม ซีตรอง คว้าชัยชนะมา 6 สนาม นับเป็นการทำลายสถิติเท่าที่นักแข่งเคยทำได้ และคาดว่าเมื่อจบการแข่งขันในสนามนี้ โลบ์ ก็น่าจะเป็นตัวเต็งเช่นเดิม คะแนนเก็บสะสมของ เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG) แห่งทีม ซูบารุ ก็ตามติด โลบ์ ไม่ห่าง โดยมี โทนี การ์เดไมสเตอร์ (TONI GARDEMAISTER) ทีม ฟอร์ด ตามมาเป็นอันดับ 3

แรลลีชิงแชมพ์โลก สนามนี้เป็นสนามที่ 9 จัดขึ้นที่ประเทศอาร์เจนตินา ใน 8 สนามที่ผ่านมา เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) แห่งทีม ซีตรอง คว้าชัยชนะมา 6 สนาม นับเป็นการทำลายสถิติเท่าที่นักแข่งเคยทำได้ และคาดว่าเมื่อจบการแข่งขันในสนามนี้ โลบ์ ก็น่าจะเป็นตัวเต็งเช่นเดิม คะแนนเก็บสะสมของ เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG) แห่งทีม ซูบารุ ก็ตามติด โลบ์ ไม่ห่าง โดยมี โทนี การ์เดไมสเตอร์ (TONI GARDEMAISTER) ทีม ฟอร์ด ตามมาเป็นอันดับ 3 สนามนี้จัดขึ้นรอบๆ วิลลา การ์โลส พาซ (VILLA CARLOS PAZ) เมืองเล็กๆ ใกล้กับเมืองหลวงของอาร์เจนตินา คือ โคร์โดบา เป็นอีกสนามหนึ่งที่สร้างความประทับใจไว้ในความทรงจำของนักแข่ง วิลลา การ์โลส พาซ เป็นเมืองที่ตอนกลางวันก็เหมือนกับเมืองทั่วไป แต่พอหลังเที่ยงคืนทุกอย่างในเมืองจะถูกเปลี่ยนให้มีสีสันขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็นไนท์คลับ คาเฟ ภัตตาคารต่างๆ จะมีงานรื่นเริงสนุกสนาน ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวเมืองนี้ แต่ในช่วงเวลากลางวันนักท่องเที่ยวกลับชอบที่จะเลือกเดินป่าหรือล่องแพมากกว่า เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ สภาพอากาศที่นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนประหลาดใจ คือ ตอนเช้าเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนา พอสายอีกสักหน่อยอากาศจะเริ่มเย็น มาถึงตอนบ่ายก็มีฝนตก ทำเอาเส้นทางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อที่เคยเป็นดินลูกรังอยู่ ต้องกลายสภาพเป็นบ่อโคลนทันที พอตกค่ำอากาศก็กลับมาเย็นอีกที อุณหภูมิไม่น่าจะเกิน 20 องศาเซลเซียส ภาพประทับใจที่ผู้ชมอยากเห็น คือ วอเตอร์สแปลช (WATERSPLASH) หรือน้ำกระจาย เมื่อเส้นทางที่ผู้จัดเลือกให้รถของนักแข่งทุกคนวิ่งผ่าน ต้องผ่านเส้นทางที่เป็นแม่น้ำตัดผ่านถึง 61 จุด ในจุดตัดแม่น้ำทั้งหมดนี้ มี 29 จุดที่ระดับน้ำสูงมาก รถที่เตรียมมาไม่พร้อมอาจจะสำลักน้ำตายได้ สำหรับสนามนี้รถในทีม เซอัต ต้องออกจากสนามก่อนกำหนด เนื่องจากรถจมน้ำไม่สามารถวิ่งต่อจนจบการแข่งขันได้ แต่ภาพที่รถของนักแข่งกระโจนลงน้ำจนน้ำแตกกระจาย เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ดู รวมถึงช่างภาพได้ไม่แพ้ภาพที่รถสาดโค้งจนฝุ่นตลบ เริ่มเอสเอส 1 ที่โพร เรซิง 1 (PRO RACING 1) ประเดิมสนามแรก มาร์คุส โกรนโฮล์ม (MARCUS GRONHOLM) ก็ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ในเอสเอสนี้ พอมาถึงเอสเอส 2 ที่โพร เรซิง 2 และเอสเอส 3 ที่การ์โลส พาซ 1 คะแนนนำก็ตกมาเป็นของ โซลเบร์ก แต่แล้วพอมาถึงเอสเอส 4 ที่ลา กุมบเร 1 (LA CUMBRE 1) และเอสเอส 5 ที่อัสโกกินกา 1 ASCOCHINGA 1) โลบ์ ก็เรียกตำแหน่งว่าที่แชมพ์กลับมาครอง มาจนถึงเอสเอส 6 ที่วิลลา จาร์ดีโน 1 (VILLA GIARDINO 1) โลบ์ ก็ยังกันตำแหน่งไว้สุดๆ เพื่อสะสมคะแนนนำในสนามนี้ พอมาถึงเอสเอส 7 ที่ลา กุมบเร 2 โกรนโฮล์ม ในรถ เปอโฌต์ 307 เบอร์ 7 ทำคะแนนได้ดีในเอสเอสนี้ แต่แล้วพอมาถึงเอสเอส 8 ที่อัสโกกินกา 2 และเอสเอส 9 ที่วิลลา จาร์ดีโน 2 มาจนถึงเอสเอส 10 ที่วัลเล เฮอร์โมโซ 1 (VALLE HERMOSO 1) โลบ์ กวาดเรียบอีกตามเคย เห็นทีว่าแชมพ์ของสนามนี้ คงจะไม่เกินฝัน โลบ์ มาถึงเอสเอส 11 ที่ซันตา โรซา เด กาลามู (SANTA ROSA DE CALAMU) โซลเบร์ก ในรถ ซูบารุ อิมพเรซา ก็ขับได้ดีในเอสเอสนี้ พอมาถึงเอสเอส 12 ที่ลาส บาฆาดาส (LAS BAJADAS) มาจนถึงเอสเอส 13 ที่อัมโออิ (AMBOY) ต่อเนื่องมาถึงเอสเอส 14 ที่ซันตา โรซา เด กาลามู โกรนโฮล์ม ก็บังคับควบคุมรถ เปอโฌต์ 307 คันเก่งของเขาทำคะแนนกวาดเรียบทั้ง 3 เอสเอส สำหรับเอสเอส15 ที่การ์โลส พาซ 2 และเอสเอส 16 ที่ตันติ (TANTI) โลบ์ แห่งทีม ซีตรอง ก็ขับรถ ซารา โชว์ลวดลายเก็บคะแนนได้เป็นที่ 1 ทั้งสองเอสเอส สำหรับเอสเอส 17 ที่วัลเล เฮอร์โมโซ 2 โกรนโฮล์ม ก็ได้ฉายามนุษย์เหยี่ยว เนื่องจากขับเป็นที่ถูกใจชาวเมืองเอล กนโดร์ (EL CONDOR) แต่แล้วเอสเอส 18 ที่เอล กนโดร์ 1 โลบ์ ในรถ ซีตรอง ซารา ก็เก็บคะแนนได้เป็นที่ 1 ในเอสเอสนี้อีกตามคาด แต่พอมาถึงเอสเอส 19 ที่มีนา กลาเวโร (MINA CLAVERO) การ์เดไมสเตอร์ ในรถ ฟอร์ด โฟคัส ก็เก็บคะแนนเป็นที่ 1 นับเป็นเอสเอสแรกที่ทำคะแนนได้ดีในสนามอาร์เจนตินานี้ แต่แล้วพอถึงเอสเอส 20 ที่เอล กนโดร์ 2 โซลเบร์ก ก็ทำคะแนนสะสมเพื่อไม่ให้ทิ้งห่างจาก โลบ์ มากนัก จบเอสเอสนี้ โซลเบร์ก ก็เป็นที่ 1 ตามคาด เหลืออีกเพียง 2 เอสเอสก็จะจบสนามนี้แล้ว สร้างความหนักใจให้กับ โซลเบร์ก แห่งทีม ซูบารุ อย่างมาก เพราะถ้าเขาทำคะแนนอีก 2 เอสเอสที่เหลือได้ดี คะแนนรวมก็จะไม่ทิ้งห่างจาก โลบ์ แห่งทีม ซีตรอง มากนัก แต่เอสเอสที่ 20 นี้ โซลเบร์ก ขับได้ดีจนไม่น่าเชื่อ เพราะเขาสามารถทำความเร็วได้เร็วสุดในอันดับ 4 ในสนามนี้ เอสเอสสุดท้ายคือ เอสเอส 22 ที่โพร เรซิง 4 เป็นไปตามคาด โซลเบร์ก ขับ ซูบารุ อิมพเรซา โชว์ลวดลายเก็บคะแนนปิดท้ายได้สวยงามมาก จบการแข่งขัน คะแนนรวมสะสมยังเป็นของ เซบัสเตียง โลบ์ แห่งทีม ซีตรอง ตามติดมาด้วย เพทเทร์ โซลเบร์ก แห่งทีม ซูบารุ มาเป็นอันดับสอง ส่วนที่สามเป็นของ โทนี การ์เดไมสเตอร์ แห่งทีม ฟอร์ด แข่งมาทั้งหมด 9 สนาม ปรากฏว่า เซบัสเตียง โลบ์ กวาดเรียบคนเดียว 7 สนาม นับเป็นการทำลายสถิติที่น่าจับตามอง สนามหน้าเป็นสนามที่ 10 จะจัดขึ้นที่ประเทศฟินแลนด์ บรรยากาศรวมถึงผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามในฉบับหน้า