X-Ray คลิพนี้จะพาทุกคนมารู้ถึงเหตุผลของการวางตำแหน่งแบทเตอรีในรถยนต์ ว่าทำไมแต่ละยี่ห้อ หรือแต่ละรุ่นถึงมีตำแหน่งไม่เหมือนกัน และขนาดความจุของแบทเตอรีที่เลือกมาให้จากโรงงานว่ามีความสำคัญอย่างไร
หน้าที่ของแบทเตอรี 12 โวลท์ในรถยนต์มีหลายอย่าง ตั้งแต่สะสมพลังงานไฟฟ้าไว้สำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์/ จ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์อื่นแทนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรืออัลเทอร์เนเตอร์ของรถ เมื่อใช้อุปกรณ์กินไฟในขณะเครื่องยนต์ไม่ทำงาน เช่น จอดฟังวิทยุ หน้าที่ต่อมา คือ เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรอง เมื่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างพร้อมกัน จนกระแสไฟฟ้าที่ใช้มากกว่าที่อัลเทอร์เนเตอร์ผลิตได้ เช่น เมื่อรถติดการจราจรตอนกลางคืน ซึ่งต้องเปิดทั้งไฟหน้า/หลัง ที่ปัดน้ำฝน เครื่องเสียงพร้อมกัน ขณะที่เครื่องยนต์หมุนรอบเดินเบาเท่านั้น
หน้าที่สุดท้าย คือ จ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์บางอย่างทำงานต่อเนื่อง แม้ดับเครื่อง และลอครถแล้ว เช่น ระบบลอคประตูไฟฟ้า หน่วยความจำของวิทยุ ระบบกันขโมย และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อทำหน้าที่เหล่านี้อย่างสมบูรณ์ ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องเลือกให้ดีว่า ควรใช้แบทเตอรีความจุเท่าใดกับรถแต่ละรุ่น และแม้แต่รถรุ่นเดียวกัน ก็ยังใช้แบทเตอรีความจุต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศของประเทศที่รถนั้นถูกใช้งาน หลักสำคัญในการเลือกความจุแบทเตอรี คือ ความสามารถในการสตาร์ท หรือ “ติด” เครื่องยนต์
โดยแบทเตอรีต้องสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ ปัญหาความจุไฟฟ้าของแบทเตอรีไม่พอสตาร์ท ไม่ได้หมายความว่า ประจุไฟฟ้าหมด หรือเกือบหมดก่อนเครื่องยนต์ติด แต่หมายถึงการที่แบทเตอรี ไม่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าให้มอเตอร์ได้มากพอ ที่จะหมุนเครื่องยนต์ให้เร็วจนติดได้ ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ทันสมัย สภาพดีเยี่ยม ก็ไม่ได้หมายความว่า ขยับหมุนช้าๆ แล้วมันจะติด แต่จะต้องมีความเร็วเพียงพอ ให้ระบบจุดระเบิด และระบบจ่ายเชื้อเพลิงทำงานได้ด้วย ตัวอย่างสถานการณ์แย่สุดที่จะทำให้เครื่องยนต์สภาพสมบูรณ์ สตาร์ทติดยาก ตัวอย่างแรก แบทเตอรีมีประจุไฟฟ้าไม่เต็ม เช่น มีเพียง 70 %
ตัวอย่างที่ 2 อุณหภูมิต่ำมาก เนื่องจากความจุของแบทเตอรีรวมทั้งความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าจะลดลงตามอุณหภูมิ พูดง่ายๆ คือ ยิ่งเย็นยิ่งมีไฟน้อย และจ่ายไฟได้น้อยด้วย ตัวอย่างที่ 3 เมื่ออากาศเย็น น้ำมันเครื่องก็ยิ่งข้น หรือหนืด ต้องใช้แรงในการหมุนเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น นั่นหมายถึง ความต้องการกระแสไฟฟ้าของมอเตอร์สตาร์ทที่เพิ่มขึ้นด้วย สวนทางกับความสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าของแบทเตอรีให้พอที่จะติดเครื่องยนต์ในสภาพที่ “แย่” นี้
ดังนั้น การกำหนดความจุของแบทเตอรีจึงต้องผ่านการทดสอบอย่างละเอียดจริงจัง ไม่ใช่เลือกความจุให้มากเข้าไว้แล้วจบ เพราะยิ่งความจุมาก น้ำหนักก็มากตาม ขนาดก็ใหญ่ขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองเนื้อที่ แถมต้นทุนจะสูงตามไปด้วย เมื่อได้ความจุพอสำหรับติดเครื่องยนต์ในหน้าหนาวแล้ว ยังต้องดูว่า สามารถจ่ายกระแสให้อุปกรณ์ไฟฟ้าของรถตอนดับเครื่องยนต์ได้นานพอหรือไม่ โดยเฉพาะรถเล็ก ซึ่งไม่สามารถใช้แบทเตอรีลูกใหญ่ได้ตามใจ ต้องคำนวณค่านี้ให้ดี
บทความแนะนำ