Need To Know ในคลิพนี้จะขอแนะนำ 5 วิธีการดูแลรถยนต์ช่วงจอดนิ่ง หากจอดเก็บที่บ้าน ต้องดูแลรักษารถยนต์อย่างไรให้ไม่พัง และตัวรถยนต์ยังคงสมบรูณ์ จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย !
รถที่จอดไว้นานๆ ต้องเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติประมาณ 5-10 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อให้มีลมมากพอที่จะรักษารูปทรงของโครงยางให้เป็นปกติ และทำให้ยางรถสามารถรับน้ำหนักที่กดทับลงมาเป็นเวลานานได้ ซึ่งหากเติมลมตามปกติแล้วจอดทิ้งไว้นานๆ เมื่อลมยางอ่อนจะทำให้น้ำหนักของรถกดทับยางจนเสียรูป และเสื่อมสภาพในที่สุด
จากนั้น เติมน้ำมันให้เต็มถัง การเติมน้ำมันให้เต็มถังสามารถป้องกันความชื้นที่จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำได้ และช่วยป้องกันการเกิดสนิมภายในถังน้ำมัน สำหรับกรณีถังเป็นโลหะ อีกทั้งต้องหมั่นตรวจเชคของเหลวต่างๆ ภายในรถว่ามีคุณภาพดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ ก็จะช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ได้ เนื่องจากน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วมักมีสิ่งปนเปื้อน และมีสภาพเป็นกรด ซึ่งอาจทำร้ายชิ้นส่วนของเครื่องยนต์
อย่าลืมนำรถไปล้าง เคลือบสี แล้วคลุมผ้า โดยใช้ผ้าสะอาดเนื้อนุ่มล้างเอาคราบสกปรกที่ติดแน่น และทำร้ายพื้นผิวรถยนต์ออก โดยเลือกน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างรถให้เหมาะสม เมื่อล้างรถจนสะอาด และเช็ดพอหมาด ให้ใช้น้ำยาเคลือบสีรถเทใส่ผ้านุ่มๆ แล้วเช็ดวนเป็นก้นหอยให้ทั่วรถ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วเช็ดออก จากนั้นให้คลุมรถด้วยผ้าคลุมที่มีคุณภาพ ระบายความร้อน และความชื้นได้ดี ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้พื้นผิวรถมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น
ก่อนคลุมผ้าเลี่ยงดึงเบรคมือ เมื่อต้องจอดรถนานๆ การไม่ดึงเบรคมือนั้นดีที่สุด เพราะการดึงเบรคมือทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะทำให้เบรคติด และอาจเจอปัญหาขยับรถไม่ได้หากไม่ต้องการให้รถไหล ให้ใช้บลอคไม้ หรือวัสดุอื่นที่ไม่ทำความเสียหายให้กับยางรถยนต์ วางไว้ที่ล้อแทนการดึงเบรคมือ และหมั่นเปิดประตู หรือกระจกเพื่อระบายอากาศบ้างในบางเวลา
กลับมาสตาร์ทรถสัปดาห์ละครั้ง โดยให้สตาร์ททิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที เพื่อชาร์จไฟ และป้องกันไม่ให้แบทเตอรี รวมถึงระบบต่างๆ ของรถยนต์เสื่อมสภาพ อีกวิธี คือ การต่อเครื่องชาร์จไฟอัตโนมัติ ที่จะทำให้แบทเตอรีได้มีการชาร์จไฟอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งก็เป็นการดูแลรักษาแบทเตอรีให้ใช้งานได้คงทน และยาวนาน