TOYOTA FORTUNER 3.0V

โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ เอสยูวีที่เป็นผลผลิตจากโครงการ ไอเอมวี (IMV: INTERNATIONAL MULTI-PURPOSE VEHICLE) แม้ใช้โครงสร้างพื้นฐาน และขุมกำลัง ร่วมกับกระบะ ไฮลักซ์ วีโก แต่รูปทรงภายนอก และระบบรองรับ นั้นทันสมัยและแตกต่างพอสมควร แม้จะเป็นเอสยูวีที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานมาจากพิคอัพดัดแปลง หรือ พีพีวี ก็ตาม แต่ด้วยเอกลักษณ์ ความใหญ่โตน่าใช้ ทำให้มันเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี หลังจากทำตลาดมากว่า 6 ปี ฟอร์ทูเนอร์ ได้รับการปรับโฉม และเพิ่มเซกเมนท์ใหม่ๆ ให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น 4 WHEELS นำ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ เซกเมนท์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการใช้งานรถอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวัน และยังสามารถขับท่องเที่ยวสบายๆ ได้ในวันหยุด

EXTERIOR ภายนอก

 

ฟอร์ทูเนอร์ ปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด เพิ่มเส้นสายเข้ามา ช่วยให้ตัวรถดูแข็งแกร่ง ทันสมัย โดดเด่น ด้วยมิติ ยาว/กว้าง/สูง 4,705/1,840/1,795 มม. ความยาวช่วงล้อ 2,750 มม. สัดส่วนค่อนข้างลงตัว ยาวขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท แล้ว ฟอร์ทูเนอร์ ยาวและกว้างกว่าเล็กน้อย ส่วนความสูงยังเป็นรอง สำหรับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ นั้น ฟอร์ทูเนอร์ กว้างกว่าชัดเจน แต่ความยาวและความสูงยังเป็นรองนิดหน่อย เทียบกับ เชฟโรเลต์ ทเรลบเลเซอร์ (4,878/1,902/1,831 มม.) น้องใหม่ล่าสุดแล้ว ฟอร์ทูเนอร์ สัดส่วนยังเป็นรองในทุกมิติ

ด้านหน้ามีรูปทรงคมเข้มขึ้น ไฟหน้าทรงเรียวกว่าเดิม ไฟหน้า HID ปรับระดับสูง/ต่ำอัตโนมัติ พร้อมหัวฉีดน้ำทำความสะอาด กระจังหน้าขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ขึ้นรูปรับกับกันชนใหม่ที่ออกแบบช่องดักลมเป็นช่องยาวแนวนอนได้อย่างลงตัว เพิ่มมิติทางสายตาด้วยช่องรับอากาศขนาดใหญ่พาดตลอดแนวความกว้างของกันชนพร้อมไฟตัดหมอกที่มุมทั้ง 2 ด้าน เสริมความดุดันด้วยสกูพดักอากาศบนฝากระโปรง ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น บึกบึนด้วยโป่งซุ้มล้อที่ติดตั้งเพิ่มเติมทั้ง 4 จุด ส่วนประตูบานท้ายแถมโครเมียมสลักชื่อรุ่นขนาดใหญ่เห็นชัดเจน ชุดไฟท้ายกรอบใสด้านในเป็นเลนส์สะท้อนสีแดง เปลี่ยนรูปแบบการจัดเรียงไฟแอลอีดี กรอบไฟหักมุมเล็กน้อย เน้นดีไซจ์นที่แตกต่างจากเดิม ส่วนล้อแมกมีขนาด 17 นิ้ว เข้าชุดกับยางขนาด 265/65 R17

---

INTERIOR ภายใน

 

ห้องโดยสารหรูหราและโอ่อ่ามากขึ้น คอนโซลหน้าแบบใหม่ ติดตั้งจอขนาด 2 DIN ระบบสัมผัส แสดงผลของชุดเครื่องเสียง ระบบนำทางด้วยดาวเทียม และกล้องมองหลัง พร้อมช่องต่อพ่วงอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ได้แก่ USB AUX หรือ IPOD/IPHONE เหนือจอมอนิเตอร์เป็นส่วนแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอล

เช่นเดียวกับระบบปรับอากาศ ที่ใช้หน้าจอแบบดิจิทอล พร้อมระบบแอร์แยกส่วนหน้า/หลัง ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถว 2/3 ติดตั้งบนหลังคา ให้ความเย็นทั่วถึง ดูลงตัวมากขึ้น เบาะนั่งแถว 3 พับเก็บด้านข้างแบบ 50/50 เบาะนั่งแถว 2 ปรับพับแบบ 60/40 นอกจากนี้ยังสามารถปรับเอนได้ตามต้องการ พร้อมหัวหมอนปรับสูง/ต่ำ เพื่อความสะดวกสบายในการนั่งโดยสาร พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันรูปทรงใหม่ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินวาว ดูคล้ายกับของซีดานหรูร่วมค่ายอย่าง แคมรี

ผลการวัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 2 ล้อ อยู่ในระดับพอใช้ในทุกช่วงความเร็ว ตั้งแต่ 60/80/100/120 กม./ชม. โดยมีระดับเสียงอยู่ที่ 59/63/66/69/72 เดซิเบล เป็นรอง ฟอร์ทูเนอร์ รุ่นแรก ที่ใช้ล้อขนาด 16 นิ้ว ยาง 265/70 R16 เคยทำไว้ 53/58/64/66/69 เดซิเบล ซึ่งอาจเป็นเพราะขนาดล้อและยางที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

---

ENGINE เครื่องยนต์

 

เครื่องยนต์รหัส 1KD-FTV 3.0 ลิตร ดีเซล คอมมอนเรล บลอคเดิม พัฒนาความแข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยี ไดมอนด์เทค ที่ทำงานผสานกันระหว่างกล่องอีซียู 32 บิท หัวฉีดและเทอร์โบแปรผัน ให้กำลัง 163 แรงม้า ที่ 3,400 รตน. แรงบิดสูงสุด 35.0 กก.-ม. ที่ 1,400-3,200 รตน. ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ผ่านมาตรฐานยูโร 3 และยังรองรับน้ำม้นดีเซล บี 5 ได้

โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ เน้นในเรื่องความแข็งแกร่งทนทานของเครื่องยนต์เป็นหลัก โดยไม่ได้เพิ่มเติมในเรื่องสมรรถนะความแรงแต่อย่างใด อารมณ์การขับขี่จึงไม่ค่อยแตกต่าง

จากรุ่นเดิมนัก

ผลการทดสอบจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. 0-400 ม. และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ในระดับค่อนข้างดี อัตราเร่งดีกว่า โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพียงเสี้ยววินาที

เทียบกับคู่ปรับตัวแรงในเซกเมนท์อย่าง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท 2.5 ลิตร วีจี เทอร์โบ 178 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ อัตราเร่งตีนต้น และอัตราเร่งตีนปลาย ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 2 ล้อ จี้ติดชนิดหายใจรดต้นคอ

หัวข้ออัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง ฟอร์ทูเนอร์ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ความเร็วขณะเร่งแซงในเมือง 60-100 กม./ชม. และความเร็วช่วงเร่งแซงบนถนนใหญ่ 80-120 กม./ชม. ทำได้ค่อนข้างดี ตอบสนองเร็วทันใจ ตามติดกับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท 2.5 วีจี เทอร์โบ 178 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ

วัดอัตราสิ้นเปลืองของ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ จากความเร็วคงที่ พบว่าอัตราสิ้นเปลือง ความเร็วคงที่ช่วง 60-80 กม./ชม. อยู่ในเกณฑ์ที่ดีและประหยัด แต่พอความเร็วสูงขึ้นช่วง 100-120 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองมากขึ้นเล็กน้อย อยู่ในเกณฑ์พอใช้

เทียบอัตราสิ้นเปลืองกับคู่แข่งในตลาดด้วยกันแล้ว โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ มีอัตราสิ้นเปลืองดีที่สุดในตลาด ในทุกช่วงความเร็ว โดยเฉพาะที่ความเร็ว 60-80 กม./ชม. ทำได้ประหยัดดี โดยทำไว้ 20.3/17.7 กม./ลิตร

---

SUSPENSION ระบบรองรับ

 

ช่วงล่างหน้าอิสระ ดับเบิลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังแบบโฟร์ลิงค์ คอยล์สปริง พร้อมชอคอับแกสหน้า/หลัง บุแผ่นรองใต้ท้องรถเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้น เสริมเรื่องของการบังคับควบคุม ติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ทแรคชันคอนทโรล  ป้องกันล้อหมุนฟรี วีเอสซี ควบคุมการทรงตัว โดยมีระบบเสริมแรงเบรค บีเอ และระบบช่วยกระจายแรงเบรค อีบีดี ที่คอยสนับสนุนการทำงานของเบรคเอบีเอส ป้องกันล้อลอค

ผลทดสอบเบรคจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ มีระยะเบรค ในทุกช่วงความเร็วอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ลองเทียบกับ ฟอร์ทูเนอร์ รุ่นที่แล้ว ช่วงเบรคที่ความเร็ว 60/80 กม./ชม. ยังไม่ดีเท่ารุ่นเดิม แต่เบรคที่ความเร็วสูง 100 กม./ชม. กลับทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยระยะเบรค 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. ทำได้ 16.6/29.1/46.3 ม. ตามลำดับ

เมื่อเทียบกับคู่ปรับในตลาด โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 2 ล้อ มีระยะหยุดที่ดีกว่า ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.0 แอลทีดี ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ยังเป็นรอง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท 2.5 วีจี เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่นกัน

---

โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่นนี้ เป็นเอสยูวีที่โดดเด่นตรงใจลูกค้ามากรุ่นหนี่งในตลาด เครื่องยนต์สมรรถนะดี แรงพอตัว อัตราสิ้นเปลืองประหยัดที่สุดในเซกเมนท์นี้ และประหยัดกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้งานคล่องตัวทั้งในและนอกเมือง เทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน ฟอร์ทูเนอร์ ยังให้ความหรูหรา รวมทั้งความปลอดภัย มาอย่างครบครัน