ทดสอบ(formula)
HYUNDAI CRETA
ครอสส์โอเวอร์ระดับ บี-เซกเมนท์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า บี-เอสยูวี เป็นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์ทีได้รับความนิยมมากมายในบ้านเรา จากตัวเลือกที่มีหลากหลาย และความลงตัวในแง่ของมิติตัวถัง พละกำลัง และออพชันที่ครบครัน ทำให้มีค่ายรถหลายแห่งส่ง บี-เอสยูวี มาทำตลาดเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจ หนึ่งในนั้น คือ ค่ายรถแดนกิมจิ กับ HYUNDAI CRETA เข้ามาร่วมวงอีกคัน จะโดนใจหรือไม่ ? เรามาทดสอบกัน
EXTERIOR ภายนอก
แนวทางใหม่ของ HYUNDAI
รูปทรงของ HYUNDAI CRETA (ฮันเด กเรตา) คือ เอกลักษณ์ใหม่ของค่าย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบสะท้อนแสงระยิบระยับ กับวัสดุโทนสีดำเข้ม พาดยาวตลอดช่วงความกว้างของส่วนหน้า ซ่อนไฟส่องสว่างบริเวณส่วนมุมอย่างแนบเนียน ขณะที่ไฟส่องสว่างถูกย้ายตำแหน่งมาอยู่บริเวณมุมของกันชนหน้า เสริมความบึกบึนด้วยสันเหลี่ยมของซุ้มล้อ เสา เอ สีดำเพิ่มมาดสปอร์ท ขอบกระจกด้านบนเสา บี และ ซี ใช้วัสดุสีเงิน จุดที่แปลกตา คือ รูปทรงของไฟท้ายมีการเล่นสันเหลี่ยมตัดกันไปมา ทางผู้ผลิตระบุว่าเป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบูเมอแรง ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว โดยรวมแล้ว จัดเป็นครอสส์โอเวอร์ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และไม่จำเจบนท้องถนน
ในแง่ของมิติตัวถัง CRETA มีความยาวที่ 4,315 มม. และระยะฐานล้อ 2,610 มม. จัดเป็นครอสส์โอเวอร์ที่มีความกะทัดรัด เน้นความคล่องตัว ส่วนคู่แข่งระดับเดียวอย่าง NISSAN KICKS E-POWER (นิสสัน คิคส์ อี-เพาเวอร์) รุ่นล่าสุด มีมิติตัวถังที่ 4,290 และ 2,615 มม. มีความใกล้เคียงกันพอสมควร หรือเทียบกับ HAVAL JOLION (ฮาวัล โจไลออน) มีมิติตัวถังในส่วนนี้ที่ 4,472 และ 2,700 มม. นับว่าครอสส์โอเวอร์สัญชาติจีนมีขนาดใหญ่กว่าพอสมควร
INTERIOR ภายใน
เรียบง่าย กว้างขวางเกินคาด
แม้เส้นสายโดยรวมของ HYUNDAI CRETA จะเน้นความคล่องแคล่ว กะทัดรัด แต่ห้องโดยสารกลับมีความกว้างขวางเกินคาด โดยเฉพาะเบาะคู่หน้า จากการออกแบบตัวถังทรงเหลี่ยมสูง คอนโซลหน้าเรียบง่าย เราคิดว่าการออกแบบน่าจะเพิ่มความทันสมัยได้มากกว่านี้ ปุ่มใช้งานต่างๆ ดูไม่ทันสมัยมากนัก ยังดีที่ชดเชยได้บ้างกับรูปทรงของพวงมาลัย และคันเกียร์ที่ดูราวกับของยานอวกาศ ตรงกลางคอนโซลเป็นจอแสดงผลหลักขนาด 8.0 นิ้ว ขณะที่แผงหน้าปัดเป็นแบบดิจิทอลล้วนๆ มีขนาด 10.25 นิ้ว ลักษณะการแสดงผลคล้ายกับ เอมพีวี ร่วมค่ายอย่าง STARIA (สตารีอา) เปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลายตามแต่โหมดการขับขี่ เพิ่มความหรูหราด้วยไฟส่องสว่างเสริมบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เปลี่ยนสีได้หลายรูปแบบ เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มสไตล์ที่ไม่เหมือนใครให้กับครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้
ส่วนเบาะด้านหลังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 2 คน ช่วงขา และช่วงเหนือศีรษะที่เนื้อที่ค่อนข้างมากเช่นกัน แม้แนวหลังคาจะมีความลาดเทพอสมควร เบาะสามารถพับเก็บได้แบบ 60:40 แต่ไม่ถึงกับเก็บราบเป็นแนวระนาบเดียวกับที่เก็บสัมภาระท้าย เพิ่มความโปร่งโล่งของห้องโดยสารด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค แต่การเป็นรถยนต์นำเข้า ทำให้อุปกรณ์บางอย่างไม่ได้ถูกติดตั้งมาด้วย เช่น เบาะนั่งผู้ขับยังคงปรับทิศทางด้วยมือ
ENGINE เครื่องยนต์
เรี่ยวแรงไม่เด่น ตีนปลายดี
ขุมพลังของ HYUNDAI CRETA คือ เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผัน คู่เปรียบเทียบสมรรถนะ คือ คู่แข่งสัญชาติจีนอย่าง HAVAL JOLION กับเครื่องยนต์ไฮบริด กำลังสูงสุดทั้งระบบ 190 แรงม้า และหนึ่งในครอสส์โอเวอร์ที่ได้รับความนิยมอย่าง HONDA HR-V (ฮอนดา เอชอาร์-วี) เครื่องยนต์ไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แต่มีแรงบิดสูง
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. CRETA ทำเวลาได้ที่ 12.6 วินาที JOLION คือ 11.1 วินาที และ HR-V คือ 11.0 วินาที จะเห็นได้ว่าในช่วงตีนต้นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา มีอัตราเร่งที่เสียเปรียบเหล่าครอสส์โอเวอร์เครื่องยนต์ไฮบริดพอสมควร
มาที่ความเร็วตีนปลายกับระยะ 0-1,000 ม. ครอสส์โอเวอร์ของ HYUNDAI ทำเวลาที่ 34.2 วินาที (ที่ความเร็ว 157.4 กม./ชม.) ทาง HAVAL มีตัวเลขที่ 34.1 วินาที (ที่ความเร็ว 149.0 กม./ชม.) สุดท้าย คือ HONDA คือ 33.9 วินาที (ที่ความเร็ว 144.5 กม./ชม.) แสดงให้เห็นว่า CRETA อาจมีช่วงตีนต้นที่อืดเล็กน้อย แต่สามารถเอาคืนได้ในช่วงความเร็วตีนปลาย ซึ่งเป็นคุณสมบัติของเครื่องยนต์เบนซิน อัตราเร่งที่ทำได้จึงใกล้เคียงกับคู่แข่งไฮบริด
ส่วนอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. HYUNDAI CRETA ทำเวลาได้ที่ 6.4 และ 8.7 วินาที ส่วน HAVAL JOLION มีตัวเลขที่ 7.8 และ 8.5 วินาที ขณะที่ HONDA HR-V คือ 5.8 และ 8.8 วินาที สังเกตได้ว่า ช่วงความเร็วไม่สูงมาก อัตราเร่งของ CRETA ทำได้ดีกว่า JOLION ด้วยซ้ำ แต่ยังห่างจาก HR-V แต่พอเป็นช่วงความเร็วสูง ส่วนต่างของอัตราเร่งกลับใกล้เคียงกันมากๆ ในช่วงความเร็วตีนปลาย หรือความเร็วสูง เครื่องยนต์เบนซินยังมีอัตราเร่งที่พอใช้ได้ แต่โดยรวมยังตามหลังคู่แข่งเครื่องยนต์ไฮบริด และอาจโดนทิ้งห่างได้เรื่องของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
SUSPENSION ระบบรองรับ
การขับขี่ลงตัว ระบบความปลอดภัยทันสมัย
แม้พละกำลังของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ของ CRETA จะไม่โดดเด่นมากนัก แต่สิ่งที่ชดเชยได้ คือ การปรับแต่งระบบรองรับ และการบังคับควบคุมที่ลงตัว การตอบสนองเน้นความนุ่มหนึบ แต่ยังคงแม่นยำ และนิ่งในช่วงความเร็วสูง เราคิดว่าความลงตัวแง่ของคุณลักษณะการขับขี่ในหมู่ครอสส์โอเวอร์ระดับ บี-เซกเมนท์ รถยนต์สัญชาติเกาหลีทำได้ดีไม่แพ้ใคร (หากสมรรถนะสูสีกับคู่แข่งมากกว่านี้ จะขับสนุก และน่าสนใจอักโข)
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยหลายรายการ มีชื่อเรียกว่า HYUNDAI SMARTSENSE ประกอบไปด้วย ระบบเตือน และเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ระบบเตือน และควบคุมพวงมาลัย เมื่อมีรถแล่นมาจากจุดอับสายตา ระบบเตือน และเบรคอัตโนมัติขณะถอยรถ ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถแล่นมาด้านข้าง ระบบเตือนลมยางอัตโนมัติ แต่ที่น่าเสียดาย คือ การติดตั้งกล้องมองภาพด้านหลังเท่านั้น ไม่มีกล้องแบบรอบทิศทางแบบที่คู่แข่งหลายรายติดตั้งมาให้
ทางเลือกที่ไม่จำเจ แต่ยังไม่ลงตัว
ทางเลือกของ บี-เอสยูวี อีกรายจากค่ายรถสัญชาติเกาหลีใต้ HYUNDAI CRETA ชูความโดดเด่นของรูปทรงที่ไม่ซ้ำแบบใคร โดยเฉพาะกระจังหน้า และส่วนไฟท้าย กับมิติตัวถังที่กะทัดรัด คล่องตัว ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย เสริมบรรยากาศหรูหราด้วยไฟเสริมแบบเปลี่ยนสีได้ และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค และน่าพอใจที่สุด คือ การขับขี่ที่มีความลงตัว ตามแบบฉบับรถยนต์แดนกิมจิ นุ่มหนึบกำลังดี เสริมด้วยระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ทันสมัย อาจพอช่วยให้ลืมจุดอ่อนสำคัญไปได้บ้าง นั่นคือ พละกำลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ที่มีอัตราเร่งส่วนใหญ่เป็นรองคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด (รวมถึงการประหยัดเชื้อเพลิงด้วย) รวมถึงการออกแบบห้องโดยสารที่ยังขาดความโดดเด่น แม้ราคาจะอยู่ในระดับ 9 แสนกว่าบาทใกล้เคียงกับคู่แข่งระดับเดียวกัน หากแก้ไขจุดนี้ได้ เชื่อว่า CRETA จะได้รับความสนใจมากกว่านี้อย่างแน่นอน