ทดสอบ
CHEVROLET CAPTIVA VS MG HS
เครื่องยนต์เล็กติดเทอร์โบเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ใหญ่ แม้แต่ในรถสไตล์ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ด้วยกำลัง แรงบิดที่เทียบเท่าใกล้เคียงเครื่องยนต์ใหญ่ หรือมากกว่า และความประหยัด ทั้งในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซล และเบนซิน ล่าสุดก็มี เชฟโรเลต์ แคพทีวา เจเนอเรชันล่าสุด และเอมจี เอชเอส ที่เลือกเครื่องยนต์เบนซินตัวเล็ก 1.5 ลิตร ติดเทอร์โบ มาใช้เป็นขุมกำลังหลัก และครั้งนี้ เราจับทั้งคู่มาปะทะกัน นอกจากได้รับรู้ถึงจุดเด่นของรถแต่ละคัน ยังได้เห็นข้อมูลจากการทดสอบ และวัดสมรรถนะด้วยเครื่องมือดาทรอนอีกด้วย
EXTERIOR ภายนอก
CHEVROLET CAPTIVA
เชฟโรเลต์ แคพทีวา รุ่นใหม่ล่าสุด มีเส้นสายคมเข้มขึ้น และขนาดตัวใกล้เคียงกับรุ่นเดิม โดยตัวถังสั้น และแคบกว่า 18/14 มม. แต่สูงขึ้น 4 มม. และฐานล้อยาวขึ้น 43 มม. รูปลักษณ์โดยรวมดูแตกต่างไปจากรุ่นเดิมโดยสิ้นเชิง ซึ่งการปรากฏตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ครั้งล่าสุด หลายคนมองว่ามันเป็นครอสส์โอเวอร์ที่ผสมผสานระหว่างเอมพีวี และเอสยูวี มากกว่าจะถูกออกแบบให้เป็นเอสยูวี
ถ้าเทียบกับครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ในกลุ่ม ซี–เซกเมนท์ จะเห็นได้ว่า เชฟโรเลต์ แคพทีวา รุ่นใหม่ ยาวกว่า น้องใหม่ เอมจี เอชเอส ที่มาแทน เอมจี จีเอส อยู่ 81 มม. ฮอนดา ซีอาร์-วี 84 มม. และมาซดา ซีเอกซ์-5 ถึง 105 มม. แต่สั้นกว่า นิสสัน เอกซ์-ทเรล 35 มม. กว้างกว่า ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 15 มม. และมีระยะฐานล้อยาวกว่าทุกคันในกลุ่มนี้ โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เริ่มจาก 5 ที่นั่ง รุ่น แอลเอส (LS) กับแบบ 7 ที่นั่ง 2 รุ่น แอลที (LT) และรุ่นทอพ หรือ พรีเมียร์ (PREMIER) ที่นำมาทดสอบในครั้งนี้
MG HS
เอมจี เอชเอส รถรุ่นใหม่ที่มาทำตลาดแทน จีเอส (GS) ในกลุ่ม ซี–เซกเมนท์ ช่วงปลายปีที่แล้ว ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีคันนี้ได้รับการกล่าวถึงอยู่ตลอด ทั้งจากรูปลักษณ์ภายนอก และห้องโดยสารที่โดนใจ รวมถึงเครื่องยนต์เบนซินบลอคเล็กติดเทอร์โบ และระบบความปลอดภัย กับระบบช่วยเหลือการขับขี่ ที่ให้มาแบบจัดเต็ม กับราคาที่น่าคบ โดยแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย เริ่มจาก ซี, ดี และรุ่นทอพ เอกซ์
เอมจี เอชเอส ผสมผสานความหรูหรากับความสปอร์ทเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เส้นสายตัวถังเน้นความโค้งมน กระจังหน้าดีไซจ์นมีเอกลักษณ์ ไฟหน้าแอลอีดี พโรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน และไฟท้ายแบบแอลอีดี โดยใช้ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้า/หลัง ที่แสดงผลเรียงลำดับ (SEQUENTIAL)
เอมจี เอชเอส มีขนาดตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,574/1,876/1,664 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. เปรียบเทียบกับ เอมจี จีเอส จะยาว และกว้างกว่า ส่วนฐานล้อยาวกว่า 70 มม. เทียบกับคู่แข่งสั้นกว่า นิสสัน เอกซ์-ทเรล 116 มม. แต่กว้างกว่า 46 มม. อวบกว่า ฮอนดา ซีอาร์-วี และ มาซดา ซีเอกซ์-5 นิดหน่อย
INTERIOR ภายใน
CHEVROLET CAPTIVA
ห้องโดยสารหรูหรา ทันสมัย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจออินโฟเทนเมนท์ ขนาด 10.4 นิ้ว บริเวณคอนโซลกลาง เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น โดยใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 8.0 แล้วครอบทับด้วยระบบ เชฟโรเลต์ ลิงค์ สำหรับเชื่อมต่อการสื่อสาร และความบันเทิง รองรับการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ เครื่องเสียง INFINITY BY HARMAN ลำโพง 9 ตัว รวมซับวูเฟอร์ และพอร์ทเชื่อมต่อยูเอสบี 4 ตำแหน่ง พร้อมกล้องมองภาพด้านหลัง เส้นกะระยะ กล้องมองภาพ 360 องศา เซนเซอร์กะระยะรอบคัน ระบบตรวจวัด และแจ้งเตือนแรงดันลมยาง
รุ่น พรีเมียร์ แผงหน้าปัดเป็นจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว มองเห็นชัดเจน อ่านง่าย พร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ มีช่องแอร์แยกสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ซันรูฟ ขนาดใหญ่เต็มหลังคา พาโนรามิคซันรูฟ (PANORAMIC SUNROOF) เบาะแถว 2 สามารถพับด้วยการดึงสลักเพียงครั้งเดียว พร้อมเลื่อนตำแหน่งหน้า/หลัง เพิ่มพื้นที่วางขาให้แก่ผู้โดยสารแถวที่ 3
การป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกทำได้ดีกว่ารุ่นเดิม ผลการทดสอบระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสารของ เชฟโรเลต์ แคพทีวา พรีเมียร์ ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. มีตัวเลขเพียง 63 เดซิเบล จัดว่าอยู่ในระดับที่เงียบ
MG HS
ภายในห้องโดยสารเน้นความโค้งมน บริเวณคอนโซลหน้า และแผงข้างประตู ใช้วัสดุที่ให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) ในรุ่น เอกซ์ เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ทปรับไฟฟ้าสีดำสลับแดง ส่วนเบาะหลังนั่งสบาย พับแบบ 60:40 พนักพิงปรับองศาได้ และใช้ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบปรับโทนแสงได้มากถึง 64 เฉดสี (INTERACTIVE AMBIENT LIGHT) หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (PANORAMIC SUN ROOF) ขนาดใหญ่ยักษ์ มีพื้นที่ถึง 1.1 ตรม.
สิ่งอำนวยความสะดวกติดตั้งมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลที่มีมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ I-SMART และกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ฝาท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า และเสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด
ผลการทดสอบระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสารของ เอมจี จีเอส ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. มีตัวเลขเพียง 62 เดซิเบล จัดว่าเงียบ และดีกว่าคู่แข่งอย่าง ฮอนดา ซีอาร์-วี มาซดา ซีเอกซ์-5 นิสสัน เอกซ์-ทเรล และซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ใกล้เคียงกับ เชฟโรเลต์ แคพทีวา
ENGINE เครื่องยนต์
CHEVROLET CAPTIVA
เชฟโรเลต์ แคพทีวา ใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 5,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. ที่ 2,400 รตน. ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติซีวีที 8 จังหวะ มีโหมดบวก/ลบ ที่คันเกียร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า แทนเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ 2.4 ลิตร และดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร การตอบสนองของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง เหมือนต้องใช้เวลาคิดชั่วครู่ และน้ำหนักตัวระดับ 1.5-1.6 ตัน ก็เป็นภาระไม่น้อย
ผลทดสอบด้วยดาทรอน เชฟโรเลต์ แคพทีวา ใหม่ ทำอัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ในเวลา 12.7/18.9 วินาที ส่วนความเร็วปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 34.6 วินาที ใกล้เคียงกับรุ่นเดิมที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ (13.3/19.0/34.6) และดีเซล เทอร์โบ (12.5/18.5/34.0) พอๆ กับ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (12.8/19.1/34.1) แต่ช้ากว่า เอมจี เอชเอส (10.6/17.9/32.4) ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีน้องใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร เช่นเดียวกัน
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ความเร็ว 60/80/ 100/120 กม./ชม. เชฟโรเลต์ แคพทีวา ใหม่ อยู่ที่ 21.4/18.6/13.4/9.8 กม./ลิตร ขณะที่ เอมจี เอชเอส ประหยัดกว่าด้วยตัวเลข 23.8/19.2/14.7/11.0 กม./ลิตร
MG HS
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. แบบฟแลททอร์ค ที่ 1,700-4,400 รตน. รองรับแกสโซฮอล อี 85 ส่งกำลังด้วยเกียร์ TST (TWIN CLUTCH SPORTRONIC TRANSMISSION) แบบ 7 จังหวะ มีโหมดการขับขี่ให้เลือก ได้แก่ NORMAL, ECO, SPORT, CUSTOM และยังมีปุ่ม SUPER SPORT บน พวงมาลัย ซึ่งเป็นโหมดที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่สูงสุด
ผลทดสอบด้วยดาทรอน อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ความเร็วปลาย 0-1,000 ม. เอมจี เอชเอส ทำได้ 10.6/17.9/32.4 วินาที ใกล้เคียง ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.4 อีแอล (11.0/18.1/32.2) และนิสสัน เอกซ์-ทเรล 2.5 วี ขับเคลื่อน 4 ล้อ (10.7/17.8/32.0) ดีกว่า ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (12.8/19.1/34.1)
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. เอมจี เอชเอส อยู่ที่ 23.8/ 19.2/14.7/11.0 กม./ลิตร แม้ไม่ประหยัดเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ใน มาซดา ซีเอกซ์-5 ที่ทำได้ 30.1/24.5/18.6/14.5 กม./ลิตร และฮอนดา ซีอาร์-วี ที่ทำได้ 25.3/20.5/17.4/13.9 กม./ลิตร แต่ก็ดีกว่า เชฟโรเลต์ แคพทีวา ใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร เหมือนกัน ซึ่งทำได้เพียง 21.4/18.6/13.4/9.8 กม./ลิตร
SUSPENSION ระบบรองรับ
CHEVROLET CAPTIVA
ระบบรองรับเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลัง มัลทิลิงค์ ระบบเบรคแบบจาน 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบาย ความร้อน ทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้ง เอบีเอส, อีบีดี, บีเอ, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบควบคุมเสถียรภาพ, ระบบ ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ฯลฯ
การบังคับควบคุมยังไม่เฉียบคม ส่วนเรื่องการเบรคและหยุดนอกจากน้ำหนักตัวมากกว่า 1.6 ตัน ประกอบกับยางขนาด 215/60 R17 ซึ่งใกล้เคียงกับรถซีดานขนาดกลาง ก็มีผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น จากผลทดสอบเบรคที่ความเร็ว 60/80/100-0 กม./ชม. เชฟโรเลต์ แคพทีวา ใหม่ ทำได้ 17.3/30.4/46.8 ม. อยู่ในเกณฑ์ที่แย่กว่าเดิม โดยรุ่นเดิม อยู่ที่ 15.2/27.6/ 43.1 ม. ขณะที่ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีในกลุ่ม ซี–เซกเมนท์ คันอื่นๆ รวมทั้ง เอมจี เอชเอส ดีกว่าในทุกช่วงความเร็ว
MG HS
ระบบรองรับที่พัฒนาตามแบบ EURO TUNING SUSPENSION ได้รับการปรับตั้งให้ เหมาะสมกับทุกสภาวะ การยึดเกาะถนนอย่างมีประสิทธิภาพแม้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ซึมซาบแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี พวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันมีน้ำหนักเหมาะสม
จากผลทดสอบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100-0 กม./ชม. เอมจี เอชเอส ทำได้ 15.0/27.1/41.8 อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย ใกล้เคียงกับ ฮอนดา ซีอาร์-วี มาซดา ซีเอกซ์-5 และซูบารุ ฟอเรสเตอร์
นอกจากนี้ เอมจี ยังเสริมความปลอดภัยให้ เอชเอส ด้วยระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ (FCW) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน (LDP) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
CHEVROLET CAPTIVA
เชฟโรเลต์ แคพทีวา ใหม่ ขนาดของตัวรถ อรรถประโยชน์ในห้องโดยสาร ฟีเจอร์ และ ฟังค์ชันต่างๆ ที่มีให้เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกเยอะ หรือผู้ที่ชอบการเดินทางไกล แต่ไม่เน้นสมรรถนะ และความประหยัด เทียบกับราคาจำหน่าย 1,199,000 บาท เชฟโรเลต์ แคพทีวา พรีเมียร์ ก็พอจะรับได้ แต่ถ้าไม่เอาซันรูฟ ก็ยังมี รุ่น แอลเอส 999,000 บาท หรือ แอลที 1,099,000 บาท ให้เลือก
MG HS
เอมจี เอชเอส ก็ถือว่าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในครอบครัว ระบบความปลอดภัยเพียบ ผสมผสานความเป็นยุโรป และเอเชียได้อย่างลงตัว บวกกับราคารุ่นทอพ เอกซ์ 1,119,000 บาท กับสิ่งที่ให้ ทำให้มันเอาชนะคู่แข่งที่มีราคาแพงกว่าได้อย่างสบายๆ หรือจะเริ่มที่รุ่น ซี ราคา 919,000 บาท ก็ใช้งานได้แล้ว เพิ่มฟังค์ชันฝาท้ายไฟฟ้าในรุ่น ดี กับราคา 1,019,000 บาท