ทดสอบ(4wheels) 23 Dec 2017
AUDI Q2 35 TFSI VS MERCEDES-BENZ GLA 200 URBAN
4 WHEELS นำครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีหรู สัญชาติเยอรมัน เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ และเมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน มาทดสอบด้วยเครื่องมือดาทรอน ตลาดคอมแพคท์ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีระดับพรีเมียม เริ่มแข่งขันกันดุเดือดมากขึ้น หลังการก้าวเข้ามาของบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ เอาดี ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าชาวไทยมากขึ้น โดยไม่ปล่อยให้คู่แข่งสัญชาติเดียวกันอย่าง เมร์เซเดส-เบนซ์ (จีแอลเอ) และบีเอมดับเบิลยู (เอกซ์ 1) ทำตลาดอยู่ฝ่ายเดียว นอกจากนี้ ยังมีค่าย มีนี (คูเพอร์ คันทรีแมน) สอดแทรกเข้ามาทำตลาดในเซกเมนท์นี้อีกด้วย
EXTERIOR ภายนอก
เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีน้องเล็กสุดของค่าย เอาดี รูปลักษณ์ปราดเปรียว สวยโดนใจหนุ่ม/สาวรุ่นใหม่วัยทำงาน คู่แข่งโดยตรงกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 และเมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ เพื่อนร่วมชาติเดียวกัน
คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ พัฒนาขึ้นบนพแลทฟอร์ม MQB เช่นเดียวกับ เอาดี เอ 3 โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ หรือ สโกดา โคดิอัค และเซอัต อเตกา เพื่อนร่วมชายคา โฟล์คสวาเกน กรุพ เน้นความคล่องตัวในการใช้งานด้วยโอเวอร์แฮงหน้า/หลังสั้น มิติตัวรถ ยาว 4,191 มม. กว้าง 1,794 มม. สูง 1,508 มม. และระยะฐานล้อ 2,601 มม.
ภายนอกติดตั้งไฟหน้าแบบแอลอีดี พร้อมระบบฉีดน้ำ ไฟเดย์ไทม์ รันนิง ไลท์ ส่องสว่างกลางวัน แบบแอลอีดี ติดตั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมไล่ฝ้า ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และยางขนาด 215/55 R17
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน รุ่นปรับโฉมใหม่ พัฒนาจาก เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ รุ่นแรก โดยรุ่นล่าสุด ทำตลาดในชื่อ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน มีรุ่น 250 เอเอมจี ไดนามิค เป็นรุ่นทอพ และจีแอลเอ 45 4 เมทิค ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวแรงชูโรง
เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน ใหม่ มิติตัวรถ ยาว 4,424 มม. กว้าง 1,804 มม. และสูง 1,494 มม. ระยะฐานล้อ 2,699 มม. ได้รับการปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ เช่น รูปทรงของเสาเอ ดูลาดเอียงและโค้งขึ้น กรอบกระจกรอบตัวถังสอดรับกับหลักอากาศพลศาสตร์ ปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศใต้ท้องรถ ปรับแต่งปลายขอบตัวถังส่วนล่างของรถให้ลู่ลม ปรับแต่งบริเวณส่วนกลางของเพลาหลังและท่อเก็บเสียงด้านหลัง ติดตั้งสปอยเลอร์หลังคาพร้อมไฟเบรค และสปอยเลอร์ที่ด้านข้างตัวรถทั้ง 2 ด้าน เพื่อควบคุมการไหลเวียนของอากาศทางด้านท้าย
เปลี่ยนกันชนใหม่พร้อมไฟตัดหมอกหน้า ไฟหน้าแบบ LED HIGH PERFORMANCE ทดแทนไฟหน้าแบบ BI-XENON เดิม โดยมีอุณหภูมิแสงที่ใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์ ช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาผู้ขับขี่ขณะขับรถในเวลากลางคืน พร้อมระบบ ADAPTIVE HIGH BEAM ASSIST ช่วยปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเปิด/ปิดประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า ราวหลังคาอลูมิเนียม ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ และล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว
INTERIOR ภายใน
ภายในดูสปอร์ท แนววัยรุ่น จากลายคาร์บอนไฟเบอร์ที่คอนโซลหน้า ลายช่องแอร์แบบไอพ่น มีไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบ AMBIENT LIGHT ที่ปรับได้ถึง 10 สี เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ทหุ้มหนัง เบาะโดยสารด้านหลังพับได้ พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันแบบ 3 ก้าน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เครื่องเสียง AUDI SOUND SYSTEM หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิง (AUDI MUSIC INTERFACE) ระบบ เอมเอมไอ เรดิโอ พลัส รองรับ BLUETOOTH AUX USB CD MP3 และ SD CARD
ห้องโดยสารเพิ่มความหรูหรามากขึ้น เช่น อัพเกรดระบบมัลทิมีเดียใหม่ หน้าจอ 8 นิ้ว ติดตั้งมาตรวัดรุ่นใหม่พร้อมเข็มสีแดง ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ แบบ 2 โซน พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน วิทยุ/ซีดี MB AUDIO 20 รองรับการใช้งานระบบนำทาง ฟังค์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์ มือถือระบบปฏิบัติการ APPLE CAR PLAY และ MB APPS ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 12 สี
เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับ 60:40 มีช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลท์ บริเวณที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
วัดระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสารของ เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน ใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขณะความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ได้ 59/63/65/68 เดซิเบล อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ใกล้เคียงกับคู่แข่ง
ENGINE เครื่องยนต์
วัดระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขณะความเร็วคงที่ 60/80/100/ 120 กม./ชม. ได้ 60/62/64/67 เดซิเบล อยู่ในเกณฑ์พอใช้
เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ ซีโอดี เครื่อง ยนต์เบนซิน พร้อมเทอร์โบชาร์จ ขนาด 1.4 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. หรือ 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รตน. ติดตั้งเทคโนโลยี CYLINDER ON DEMAND ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ เอสทรอนิค (S TRONIC) 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า รหัส ซีโอดี (COD) หมายถึง ระบบ CYLINDER ON DEMAND ทำหน้าที่หยุดการจุดระเบิดลูกสูบในบางจังหวะ
สมรรถนะอัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทำได้ 9.7/17.2 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 31.0 วินาที ออกนำคู่แข่งทั้ง 2 ค่าย โดย เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน ทำได้ 10.4/17.5 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ใน 31.0 วินาที และบีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. อยู่ที่ 10.6/17.6 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ใน 31.7 วินาที ตามติดชนิดหายใจรดต้นคอ
อัตราเร่งยืดหยุ่นและจังหวะเร่งแซง ขณะใช้งานในเมือง 60-100 และ 80-120 กม./ชม. ช่วงเร่งแซงบนถนนใหญ่ เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ 1.4 ลิตร 150 แรงม้า ทำได้ 4.8/6.1 วินาที อยู่ในเกณฑ์ดี ส่วน เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน ทำได้ 5.2/7.1 วินาที และบีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล ทำได้ 5.5/6.9 วินาที
รถคันนี้ติดตั้งเทคโนโลยี CYLINDER ON DEMAND ที่ลดการทำงานของกระบอกสูบเหลือ 2 กระบอกสูบ (จาก 4 กระบอกสูบ) แสดงผลไว้ที่หน้าจอ TFT บนเรือนไมล์ด้วย ลองขับนิ่งๆ ระบบนี้สามารถขับเคลื่อนด้วยการทำงาน 2 สูบ ถึงช่วงความเร็วประมาณ 70 กม./ชม.
อัตราสิ้นปลือง วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/ 100/120 กม./ชม. ทำได้ 30.6/23.9/18.0/14.1 กม./ลิตร ประหยัดทุกช่วงความเร็ว ดีกว่า เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน และประหยัดพอๆ กับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล ในช่วงความเร็วคงที่ 60 กม./ชม. อีกด้วย
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รตน. แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. ที่ 1,250-4,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
สมรรถนะอัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทำได้ 10.4/17.5 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 32.0 วินาที ตามติดชนิดหายใจรถต้นคอ เอาดี คิว 2 ที่ทำไว้ 9.7/17.2 วินาที และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 31.0 วินาที เบียดบี้กันอย่างสนุกกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล ที่มีอัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. อยู่ที่ 10.6/17.6 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ใน 31.7 วินาที
อัตราเร่งยืดหยุ่นและจังหวะเร่งแซง ขณะใช้งานในเมือง 60-100 และ 80-120 กม./ชม. ช่วงเร่งแซงบนถนนใหญ่ ทำได้ 5.2/7.1 วินาที อยู่ในเกณฑ์ดี พอๆ กับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอส ดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล ที่ทำได้ 5.5/6.9 วินาที โดยมี เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ ที่เร็วกว่าเล็กน้อย ทำได้ 4.8/6.1 วินาที
อัตราสิ้นปลือง วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/ 100/120 กม./ชม. ทำได้ 21.5/20.9/16.7/12.5 กม./ลิตร เทียบกับ เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ พบว่ามีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่าทุกช่วง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์พอใช้ โดยมี บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล ทำได้ประหยัดสุดในกลุ่ม กินขาดในเรื่องนี้
ติดตั้งระบบช่วยเบรคแบบแอคทีฟ (ACTIVE BRAKE ASSIST) แจ้งเตือนผู้ขับขี่ และยังสามารถสั่งชะลอความเร็วโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะที่เหมาะสม และสั่งหยุดรถอัตโนมัติได้
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบความปลอดภัย มีทั้งระบบป้องกัน PRE SENSE แบบพื้นฐาน (AUDI PRE SENSE BASIC) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ระบบควบคุมการทรงตัว อีเอสซี ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เอเอสอาร์ ระบบเบรคป้องกันล้อลอค เอบีเอส เบรคมือไฟฟ้า เซนเซอร์ช่วยจอดหน้า/หลัง ฯลฯ
ประสิทธิภาพเบรคจนถึงจุดหยุดนิ่ง ช่วงความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. ทำได้ 14.3/25.3/39.5 ม. ให้ความมั่นใจมาก ทำได้ดีพอๆ กับ เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน และบีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล
อุปกรณ์ความปลอดภัยตามมาตรฐานครบครัน มีพโรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ อีเอสพี ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เอเอสอาร์ ระบบเบรค อแดพทีฟ พร้อมฟังค์ชันเบรคโฮลด์ และช่วยออกตัวขณะขึ้นทางชัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและจำกัดความเร็ว
ประสิทธิภาพเบรคจนถึงจุดหยุดนิ่ง ช่วงความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. ทำได้ 13.7/25.0/38.4 ม. ให้ความมั่นใจมาก แถมค่าแรงหนีศูนย์ ทำได้ 1.0-1.03 อีกด้วย แสดงถึงการเซท รถและช่วงล่างที่ดีมาก ระยะเบรคดีพอๆ กับ เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ และบีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1 เอสดไรฟ 18 ดี เครื่องยนต์ดีเซล
AUDI Q2 35 TFSI
เอาดี คิว 2 35 ทีเอฟเอสไอ ได้ความสดใหม่ในตลาด สีสันสดใส ดีไซจ์นโดนใจวัยรุ่น มีเอกลักษณ์ของค่าย 4 ห่วงที่โดดเด่น ภายในสปอร์ท แม้จะอ่อนออพชันกว่าคู่แข่ง แต่ได้เครื่องยนต์ที่ตอบสนองดี โดดเด่นพอๆ กับเครื่องยนต์ดีเซลของ บีเอมดับเบิลยู แถมเทคโนโลยี CYLINDER ON DEMAND ทำงาน 2 สูบ ในช่วงรักษาความเร็วคงที่ ยังช่วยให้ประหยัด เชื้อเพลิง เทียบกับราคาค่าตัว 2,299,000 บาท จัดว่าคุ้มกับชื่อชั้น และสมรรถนะโดยรวม
MERCEDES-BENZ GLA 200 UBAN
เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ 200 เออร์เบิน ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีมาดหรู ปรับโฉมรอบนี้ จัดเต็มเรื่องออพชัน ทั้งความหรูหราภายนอกและภายใน ระบบความปลอดภัยทันสมัย อัตราเร่ง และเบรค ไม่เป็นรองใคร ถ้าชอบออพชันครบเครื่องคันนี้ตอบโจทย์ได้จริง