ทดสอบ(formula) 9 Feb 2017
บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี เอม สปอร์ท
บทพิสูจน์ของขุมกำลัง พลัก-อิน ไฮบริด กับเครื่องยนต์ของ เอสยูวี คันโต ใน บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี น้ำหนักตัวที่มากกว่าซีดานทั่วไป อัตราเร่งจะยังคงฉับไวเทียบเท่าเครื่องยนต์บลอคใหญ่หรือไม่ รวมถึงการประหยัดเชื้อเพลิงที่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติภาคบังคับของระบบไฮบริดจะตอบสนองได้ดีแค่ไหน พบคำตอบได้ในการทดสอบครั้งนี้
EXTERIOR ภายนอก
บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี ยังคงใช้ตัวถังภายนอกอิงจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปปกติ ตัวถังยังเน้นความหนา บึกบึน โดยเฉพาะล้อที่มีขนาดใหญ่ที่ 20 นิ้ว ยางคู่หน้ามีขนาด 275/40 R20 และคู่หลังมีขนาดถึง 315/35 R20 เรียกได้ว่าข่มคู่ต่อสู้ด้วยขนาดล้อตั้งแต่แรกเห็น ! แม้ยางที่ใช้จะมีขนาดราวกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง (ดันลอพ เอสพี สปอร์ทแมกซ์ซ์ จีที) แต่ต้องไม่ลืมว่า เอสยูวี พลังไฮบริดคันนี้ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
จุดที่แตกต่างจาก เอกซ์ 5 รุ่นเครื่องยนต์สันดาป คือ การติดตั้งช่องเสียบสำหรับชาร์จไฟฟ้า ตามแบบฉบับขุมกำลัง พลัก-อิน ไฮบริด ตำแหน่งของที่ชาร์จไฟฟ้าจะอยู่ทางซ้ายมือ เหนือซุ้มล้อหน้า รองรับการชาร์จไฟจากครัวเรือน หรือสถานีชาร์จไฟฟ้า สะดวกสบายกว่าระบบชาร์จไฟฟ้าแบบดั้งเดิม
โดยรวมแล้ว เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี ยังรักษามาดหล่อ ดุ ขึงขัง เอาไว้ได้ดี ไม่ถูกยัดเยียดความเป็นยานยนต์ “รักษ์โลก” อย่างที่รถยนต์ระบบแบบ พลัก-อิน ไฮบริด หลายเจ้าที่ทำกัน
INTERIOR ภายใน
การตกแต่งภายในห้องโดยสาร เน้นรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ บีเอมดับเบิลยู เสริมด้วยความหรูสมฐานะ เอสยูวี ระดับหรู พวงมาลัย 3 ก้านทรงสปอร์ท คอนโซลหน้าที่ดูคุ้นเคย จอแสดงผลทรงแบน คันเกียร์รูปทรงล้ำสมัย พื้นที่ของผู้โดยสารเหลือเฟือ ไม่ถูกกินเนื้อที่จากชุดแบทเตอรีแม้แต่น้อย หากมองดูเผินๆ แล้ว ภายในของ เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี แทบไม่ต่างจากรุ่นอื่นแต่อย่างใด ใครที่พอใจความกว้างขวาง และหรูหรา ผสมความเคร่งขรึมของรถรุ่นนี้ ก็สบายใจได้ ทุกอย่างที่ว่ามาถูกรักษาเอาไว้อย่างครบถ้วน แต่ใครที่ต้องการความล้ำนำสมัย ในแบบฉบับเครื่องยนต์ พลัก-อิน ไฮบริด ยุคใหม่ อาจไม่พบความแตกต่างมากนัก
อย่างไรก็ตามความแตกต่างสำคัญของระบบ พลัก-อิน ไฮบริด อยู่ที่การแสดงผลบนแผงหน้าปัด หรือจอภาพบนคอนโซลกลาง หากเลือกโหมดการแสดงผลได้ถูกต้อง ผู้ขับสามารถเห็นการทำงานของระบบไฟฟ้า และการส่งกำลังที่สลับสับเปลี่ยนไปมาตามแต่สภาวะการขับขี่ และยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วนได้อีกด้วย โดยผ่านแป้นควบคุมระบบ ไอดไรฟ
ENGINE เครื่องยนต์
ระบบแบบ พลัก-อิน ไฮบริด ของ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รตน. เมื่อส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะมีกำลังสูงสุดที่ 313 แรงม้า ก่อนอื่นเรามาเปรียบเทียบกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 30 ดี รุ่นตัวถังเดียวกัน แต่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลัง 218 แรงม้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. รุ่น 40 อี ทำได้ที่ 7.4 วินาที ส่วน รุ่น 30 ดี คือ 7.4 วินาที เท่ากัน ! ในยกแรกอัตราเร่งของทั้ง 2 เครื่องยนต์ ยังคงกินกันไม่ลง มาวัดกันต่อที่ความเร็วตีนปลายจากระยะ 0-1,000 ม. รุ่น 40 อี มีตัวเลข คือ 27.8 วินาที (ความเร็ว 190.1 กม./ชม.) ส่วน 30 ดี อยู่ที่ 28.4 วินาที (ความเร็ว 182.2 กม./ชม.) ระบบเครื่องยนต์แบบ 2 พลัง เริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่า ความเร็วตีนปลายสามารถตอบสนองได้ดีกว่า
อัตราเร่งยืดหยุ่นที่ 60-100 และ 80-120 กม./ชม. รุ่น 40 อี ทำเวลาได้ 4.1 และ 4.7 วินาที ส่วน 30 ดี คือ 3.9 และ 5.2 วินาที ตามลำดับ ในช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลาง เครื่องยนต์ดีเซลยังมีความได้เปรียบ จากแรงบิดที่มากมายตั้งแต่รอบต่ำ แต่พอขยับไปถึงช่วงความเร็วสูงเครื่องยนต์ พลัก-อิน ไฮบริด กลับทำอัตราเร่งเฉือนชนะคืนมาได้
ในส่วนของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี มีความได้เปรียบในแง่ของการใช้งานในตัวเมือง โดยเฉพาะการชาร์จไฟฟ้าจนแบทเตอรีเต็ม สามารถแล่นได้ด้วยไฟฟ้าล้วน ตอบสนองคันเร่งได้อย่างน่าพอใจ ไม่อืด ภายใต้ตัวถังขนาดใหญ่แบบนี้ การแล่นด้วยไฟฟ้าล้วนจะเกิดขึ้นจนกระทั่งระดับของแบทเตอรีลดต่ำลงมา ระบบจะทำการชาร์จด้วยตนเองเหมือนเครื่องยนต์ไฮบริดทั่วไป ตัวเลขที่ทางผู้ผลิตกล่าวอ้างจะอยู่ภายใต้การใช้งานลักษณะดังกล่าว แต่หากเป็นการขับขี่ทางไกล ใช้ความเร็วสูงคงที่ รวมถึงแบทเตอรีที่ลดต่ำลงมา อัตราสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ในแง่นี้ เครื่องยนต์ดีเซลจะกลับมามีความได้เปรียบทันที ผู้ที่ใช้งานระบบแบบ พลัก-อิน ไฮบริด อาจต้องทำความคุ้นเคยในช่วงแรก เพื่อประโยชน์สูงสุดของระบบดังกล่าว
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับของ เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี ยกชุดมาจาก เอกซ์ 5 รุ่นก่อนหน้านี้ มีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย การตอบสนองยังคงเป็นไปในแบบฉบับของ บีเอมดับเบิลยู นั่นคือ ความหนึบ อารมณ์สปอร์ท แต่น่าแปลกใจที่ในรุ่น พลัก-อิน ไฮบริด กับขาดความหนักแน่นซะงั้น ราวกับว่าน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจากชุดระบบขับเคลื่อนของไฮบริดทำให้ความสมดุลของระบบรองรับมีการเปลี่ยนแปลงไป หากทางผู้ผลิตสามารถปรับแต่งระบบรองรับให้ลงตัวเหมือน บีเอมดับเบิลยู รุ่นอื่นๆ อรรถรสขณะขับขี่แบบเน้นสมรรถนะของ เอสยูวี รุ่นนี้จะมีความลงตัวกว่านี้มาก
การบังคับควบคุมมีน้ำหนักที่พอเหมาะสำหรับรถ เอสยูวี ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา มีส่วนช่วยทั้งทางตรง และทางโค้ง การขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล เสียงรบกวนต่ำ จนแทบลืมไปเลยว่านี่ คือ เอสยูวี ขนาดใหญ่ การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้านอกจากได้เรื่องความประหยัดแล้ว ยังเสริมเรื่องความสะดวกสบายขณะโดยสารเช่นกัน
ระยะเบรคของ เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. ทำตัวเลขออกมาได้ คือ 15.0/26.6/41.5 ม. เทียบกับ รุ่น 30 ดี มีระยะเบรคที่ 14.8/26.0/41.2 ม. อาจมีระยะเบรคสั้นกว่าเล็กน้อย แต่อยู่ในระดับเดียวกัน และระบบเบรคของรุ่น 40 อี ติดตั้งระบบชาร์จไฟฟ้าจากแรงเบรคได้ แต่มีระยะเบรคที่ใกล้เคียงกับระบบเบรคปกติของรุ่น 30 ดี
เดิมทีรถ เอสยูวี จะเน้นที่เครื่องยนต์พละกำลังสูง คุณสมบัติด้านการขับเคลื่อน หรือปีนป่าย กับน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมาก แม้สมรรถนะจะทำได้ดี แต่ผลที่ตามมา คือ การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงค่อนข้างมาก ระบบไฮบริดอาจถูกนำมาใช้ก่อนหน้านี้แล้วกับ เอสยูวี แต่ยังคงมีข้อจำกัดดังที่กล่าวมา การมาถึงของระบบแบบ พลัก-อิน ไฮบริด ช่วยลดจุดด้อยได้ไม่น้อย นั่นคือ สมรรถนะที่ฉับไว กับการประหยัดเชื้อเพลิงในระดับสูง ในการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน มอเตอร์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากพอที่จะขับเคลื่อนตัวถังของ เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 40 อี ได้อย่างไหลลื่น
ในครั้งนี้เราแสดงให้เห็นจุดเด่นของ เอสยูวี แบบ พลัก-อิน ไฮบริด กันก่อน แต่ตลาดกลุ่มนี้กำลังมาแรง ทั้งคู่แข่งอย่าง เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี 500 อี 4 เมทิค หรือ แม้แต่ โวลโว เอกซ์ซี 90 ที 8 บางรุ่นทำราคาได้น่าสนใจจากการหันมาประกอบในประเทศ งานนี้บอกได้เลยว่า “ศึกครั้งนี้สู้กันยาวแน่นอน” !?!