ทดสอบ(formula)
Mercedes-Benz C180 Exclusive/C250 AMG Dynamic
หนึ่งในรถที่สร้างรายได้ และยอดจำหน่ายให้กับทาง เมร์เซเดส-เบนซ์ มาช้านาน คือ รุ่น ซี-คลาสส์ แน่นอนว่าในบ้านเราก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกัน คอลัมน์ “ทดสอบ” ครั้งนี้ เรามาสัมผัสตัวซีดานรุ่นล่าสุด 2 ทางเลือกพร้อมกัน นั่นคือ ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ และ ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค มาดูกันว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะรักษาความโดดเด่นของค่ายรถดาว 3 แฉกได้มากน้อยแค่ไหน
EXTERIOR ภายนอก
รูปทรงของ ซี-คลาสส์ รุ่นล่าสุด เห็นได้ชัดว่าถอดแบบจาก “พี่ใหญ่” อย่าง เอส-คลาสส์ ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของไฟหน้า เส้นข้างลำตัวที่โค้งลง ข้อดี คือ ทำให้ผู้ที่สนใจจะเป็นเจ้าของ ซี-คลาสส์ มีความรู้สึกว่าได้ครอบครองรถหรู ในราคาที่ย่อมเยากว่า อย่างไรก็ตาม การถอดแบบเส้นสายจาก เอส-คลาสส์ ทำให้รูปทรงส่วนท้ายที่สั้นกระชับของ ซี-คลาสส์ ดูขัดตาไปสักหน่อย โดยเฉพาะช่วงไฟท้ายที่ดูโล่งๆ ไม่มีเส้นสายใดมาเชื่อมโยง อีกทั้งฝากระโปรงท้ายยกสันขึ้นมา แม้จะช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์เสมือนสปอยเลอร์หลัง แต่กลับเพิ่มความรู้สึกเทอทะทางเส้นสายเหมือนกัน
มาดูรายละเอียดภายนอกของแต่ละรุ่นย่อย ในรุ่น ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ เป็นเสมือนตัวแทนของความ “อนุรักษนิยม” ด้วยรูปแบบที่ผู้ชื่นชอบ เมร์เซเดส-เบนซ์ คุ้นเคยมาแต่ไหนแต่ไร นั่นคือ โลโกดาว 3 แฉกติดตั้งบนฝากระโปรงหน้า พร้อมกระจังหน้าซี่นอนลายขวางขนาดใหญ่ แต่ซ่อนความทันสมัยด้วยระบบครีบปิด/เปิดอัตโนมัติ (AIRPANEL) หากกำลังขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบครีบดังกล่าวจะปิดลงเพื่อหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดี เสริมการประหยัดเชื้อเพลิง ไฟหน้าแบบแอลอีดี ดูโดดเด่น ขณะที่ล้อแมกมีขนาด 17 นิ้ว แม้ ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ จะมาแบบเรียบง่าย ไร้ชุดแต่งใดๆ แต่ในแง่ความภูมิฐาน และคลาสสิคแล้ว ถือว่าทำได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
สำหรับ ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค เป็นอีกแนวทางใหม่ที่ทาง เมร์เซเดส-เบนซ์ นำมาใช้ในรถหลายรุ่นๆ ก่อนหน้านี้ นั่นคือ ภาพลักษณ์ความเป็นรถสมัยใหม่ที่ถูกเสริมความสปอร์ทเข้ามาอย่างชัดเจน เห็นได้จากโลโก ดาว 3 แฉก ขนาดใหญ่ ติดตั้งที่กลางกระจังหน้า พร้อมชุดแต่ง เอเอมจี รอบคัน ไม่ว่าจะเป็น กันชนหน้าที่มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ดูดุดัน สเกิร์ทข้าง และกันชนท้ายที่เพิ่มสันเหลี่ยม และท่อไอเสียคู่ บ่งบอกความเป็นสปอร์ทซีดานเต็มๆ ไฟหน้าแอลอีดีเช่นกัน แต่ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะ ปรับทิศทาง และเพิ่มการส่องสว่างขณะเข้าโค้ง อีกทั้งปรับระดับไฟสูงอัตโนมัติ จัดเต็มกับหลังพาโนรามิค ซันรูฟ และล้อแมกทรงสปอร์ท ลาย 5 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว นับว่า ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค มีมาดที่แตกต่างกับ ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ พอสมควร
INTERIOR ภายใน
การตกแต่งภายในของทั้ง 2 รุ่น ยังคงมีความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยรุ่น ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ ใช้โทนสีเน้นความนุ่มนวล ให้ความรู้สึกภูมิฐานไปในตัว เบาะหุ้มหนัง เบาะโทนสีเบจทำให้ห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งมากขึ้น แต่ชุดคอนโซลรวมทั้งพวงมาลัยใช้วัสดุขึ้นรูปสีน้ำตาล ทำให้รถดูเชยไปสักหน่อย อย่างไรก็ตามแผงคอนโซลหน้าเป็นชิ้นเดียวกันต่อเนื่องถึงด้านข้างคนขับ ติดตั้งลายไม้ เพิ่มความหรูหราไม่น้อยเช่นกัน แม้เป็นรุ่นพื้นฐาน แต่ ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ มีระบบควบคุมความบันเทิง และเนวิเตอร์แบบสัมผัส สามารถลากนิ้วเพื่อเลือกคำสั่งได้ รวมทั้งการค้นหาชื่อ หรือสถานที่ใช้วิธีลากนิ้วเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ นับว่าเก๋ไก๋ไม่เบา (แต่คู่แข่งอย่าง บีเอมดับเบิลยู และ เอาดี รุ่นใหม่ๆ ก็มีระบบนี้แล้วเช่นกัน) ส่วนใครที่ยังไม่คุ้นเคยก็สามารถใช้แป้นหมุนเลือกคำสั่งได้
ภายในห้องโดยสารของ ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค มีโทนที่คมเข้มกว่า ด้วยโทนสีดำ รวมไปชุดลายไม้ของแผงคอนโซล แผงข้างประตูใช้วัสดุสีเงิน เพิ่มความทันสมัย เบาะหนังทรงสปอร์ท พวงมาลัยเป็นแบบหักมุมส่วนล่างคล้ายกับของรถแข่ง พร้อมเสริมบรรยากาศของห้องโดยสารด้วยไฟเรืองแสง ราวกับอยู่ใน “ไนต์คลับหรู” ดังนี้แล้ว ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค บ่งบอกความเป็นรถ “ซิ่ง” ที่หรูได้ใจ ใครที่คิดว่าซีดานของค่ายดาว 3 แฉก จะเน้นแต่ความหรูอย่างเดียว คงต้องคิดใหม่
ในแง่ความกว้างขวางของรถทั้ง 2 รุ่น ไม่มีความแตกต่างกัน ด้านหน้ากว้างสบาย แม้คอนโซลจะมีความหนาค่อนข้างมาก เบาะนั่งติดตั้งในระดับต่ำ เสริมอารมณ์สปอร์ท แต่ด้านหลังไม่ได้กว้างขวางอย่างที่คิด แม้ระยะฐานล้อจะเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า พื้นที่บริเวณหัวเข่าของผู้โดยสารด้านหลังถือว่าน่าพอใจ แต่ตัวเบาะบริเวณสะโพกค่อนข้างสั้น พื้นที่เหนือศีรษะพอเพียงสำหรับคนที่มีความสูง 170-180 ซม. ส่วนพนักพิงหลังทำมุมเอนได้อย่างเหมาะสม ถึงกระนั้นเราก็คาดหวังความโอ่อ่ามากกว่านี้จาก ซี-คลาสส์ รุ่นล่าสุด
ENGINE เครื่องยนต์
ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ขณะที่ ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ (7G-TRONIC) ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ต่างจากบรรดารถรุ่นใหม่อย่าง เอ-คลาสส์ หรือ ซีแอลเอส ที่ขับเคลื่อนล้อหน้า แม้ขุมกำลังจะเป็นบลอคเดียวกัน (แต่รุ่น ซี 180 จะมีแรงม้ามากกว่า เอ 180 ที่มีกำลังเพียง 122 แรงม้า)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ซี 180 ทำได้ที่ 9.9 วินาที ส่วนตัวแรง ซี 250 อยู่ที่ 8.2 วินาที เทียบกับรุ่นน้องร่วมค่ายอย่าง เอ 180 คือ 10.8 วินาที และ เอ 250 จะเป็น 8.7 วินาที ส่วนคู่แข่งที่พอจะเทียบเคียงด้านความแรง คือ บีเอมดับเบิลยู 320 ดี ทำเวลาในส่วนนี้ที่ 8.3 วินาที
วัดสมรรถนะจนถึงช่วงความเร็วปลายกับระยะ 0-1,000 ม. สำหรับ ซี 180 ใช้เวลาไป 30.7 วินาที (ที่ความเร็ว 174.6 กม./ชม.) ส่วน ซี 250 คือ 29.7 วินาที (ที่ความเร็ว 175.5 กม./ชม.) เมื่อเทียบกับรุ่นน้อง เอ 180 คือ 31.9 วินาที (ที่ความเร็ว 169.8 กม./ชม.) และ เอ 250 ทำเวลาได้ 29.6 วินาที (ที่ความเร็ว 175.2 กม./ชม.) ส่วนคู่แข่งอย่าง 320 ดี คือ 29.2 วินาที (ที่ความเร็ว 177.3 กม./ชม.)
สุดท้าย คือ อัตราเร่งยืดหยุ่น 80-120 กม./ชม. ซี 180 ทำได้ที่ 6.6 วินาที ซี 250 อยู่ที่ 5.7 วินาที เหล่ารุ่นน้องร่วมค่าย เอ 180 คือ 7.4 วินาที และ เอ 250 จะเป็น 4.9 วินาที ส่วนคู่แข่งอย่าง 320 ดี ทำเวลาได้ 5.6 วินาที
ในแง่ของความเป็นรุ่นพื้นฐานของ ซี 180 และ เอ 180 ด้วยพละกำลังที่เยอะกว่าของซีดานขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้ตัวเลขสมรรถนะฉับไวกว่ารุ่นน้องแฮทช์แบคขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ในแง่ของเหล่าตัวแรงทั้ง ซี 250 และ เอ 250 ด้วยเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังเท่ากัน ตัวเลขสมรรถนะออกมาจึงใกล้เคียงกันพอสมควร ไม่ว่าจะขับเคลื่อนล้อหลัง หรือล้อหน้า ยกเว้นช่วงอัตราเร่งยืดหยุ่น ทาง เอ 250 ยังมีความได้เปรียบอยู่ และเมื่อเทียบกับคู่แข่งซีดาน เครื่องยนต์ดีเซลอย่าง 320 ดี สมรรถนะถือว่าสูสีไม่น้อย
ด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย ที่ความเร็ว 80/100/120 กม./ชม. ซี 180 คือ 20.8/17.4/14.2 กม./ลิตร และ ซี 250 มีตัวเลขที่ 20.1/16.7/13.8 กม./ลิตร สำหรับรุ่นน้องขับเคลื่อนล้อหน้า นั่นคือ เอ 180 ทำได้ที่ 23.2/17.7/14.5 กม./ลิตร และแฮทช์แบคตัวแรง เอ 250 คือ 20.5/17.1/13.5 กม./ลิตร ส่วนซีดานของคู่แข่ง อาศัยเครื่องยนต์ดีเซลขั้นเทพ ทำตัวเลขออกมาที่ 28.3/24.2/17.9 กม./ลิตร เรามีความรู้สึกว่าแม้ ซี-คลาสส์ ทั้ง 2 รุ่นจะใช้เครื่องยนต์เบนซินก็ตาม แต่ตัวเลขการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย น่าจะทำได้ดีกว่านี้
SUSPENSION ระบบรองรับ
ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ คือ ตัวแทนของ เมร์เซเดส-เบนซ์ สไตล์ดั้งเดิม ในแง่ของรูปทรง และการตกแต่งโดยรวม แต่ในแง่ของระบบรองรับแล้วกลับมีการปรับปรุงได้ลงตัวกว่าที่คิด ความนุ่มนวลของช่วงล่าง และการบังคับควบคุมที่เบาแรง ยังคงทำได้ดีไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ ความหนึบในระดับที่พอเหมาะ เสริมความมั่นคงขณะขับขี่โดยไม่มีอาการแข็งกระด้างแต่อย่างใด ลงตัวสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ส่วน ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค ใช้ช่วงล่างแบบสปอร์ท มีความหนึบแน่นมากกว่ารุ่น ซี 180 อย่างเห็นได้ชัด เพื่อรองรับสมรรถนะดีขึ้น แต่สิ่งที่น่าชื่นชม คือ ความสมดุลของระบบรองรับทำได้ดีกว่า เอ 250 เมื่อเทียบกันแล้วรุ่นน้องแฮทช์แบคตัวแรงจะมีความรู้สึกที่กระด้างกว่า ดังนี้แล้ว ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค จึงเป็นรถที่ขับสนุก และผสมความนุ่มนวลในระดับที่เหมาะสมกับบุคลิกความเป็นสปอร์ทซีดาน รวมไปถึงพละกำลังของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับ ซี-คลาสส์ ทั้ง 2 รุ่น คือ ระบบความปลอดภัยที่ให้มาเท่าเทียมกัน แม้จะแตกต่างกันที่ระดับราคา ได้แก่ ถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบแปรผันแรงเบรค และช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบเตือนระดับผ้าเบรค และระบบเตือนแรงดันลมยาง ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าของผู้ขับ ระบบเซนเซอร์ช่วยการเข้าจอด ทำงานร่วมกับระบบนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ น่าแปลกใจที่ระบบกล้องมองหลังกลับมีให้เฉพาะรุ่น ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค ทั้งที่ต้นทุนไม่น่าจะสูงเกินไปนัก หากจะติดตั้งมาให้ทั้ง 2 รุ่นย่อย
ทั้ง 2 รุ่นย่อยของ ซี-คลาสส์ มีความคล้ายคลึงกัน แต่กลับมีบุคลิกที่แตกต่างกันคนละแนวทางอย่างเห็นได้ชัด โดยทาง ซี 180 เอกซ์คลูซีฟ มาพร้อมรูปแบบที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงภายนอก และการตกแต่งภายในที่เน้นความภูมิฐาน ใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง เอส-คลาสส์ ภายใต้สมรรถนะ และการประหยัดเชื้อเพลิงที่สมตัว ขณะที่ ซี 250 เอเอมจี ไดนามิค แสดงให้เห็นความเป็นรถสปอร์ทซีดานชั้นดี ทั้งรูปทรงภายนอกที่ดุดันกว่า สมรรถนะดีเยี่ยม รวมไปถึงระบบรองรับที่ทำให้รถรุ่นนี้ขับสนุก และมั่นใจได้ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของรถรุ่นนี้ คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ยังห่างชั้นเครื่องยนต์ดีเซลของคู่แข่ง เรื่องนี้ทาง เมร์เซเดส-เบนซ์ ก็คงจะทราบดี จึงเตรียมต่อกรด้วย ซี-คลาสส์ ขุมกำลังดีเซล ไฮบริด นั่นคือ ซี 300 ไฮบริด เอเอมจี ไดนามิค ที่ว่ากันว่าแรงไม่แพ้ ซี 250 แต่ประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งกว่า จะจริงแท้แค่ไหนเราจะนำมาทดสอบเร็วๆ นี้แน่นอน โปรดติดตามกันต่อไป !!