Quattroruote ทดสอบ
TOYOTA BZ4X
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมการพัฒนาร่วมกันกับค่าย SUBARU กับระยะทำการสูงสุดที่ 470 กม. ห้องโดยสารกว้างขวาง และให้ความสะดวกสบายเต็มเปี่ยม แถมยังทำได้ยอดเยี่ยมเทียบชั้นยี่ห้อหรูอย่าง LEXUS ด้วยซ้ำ
ในที่สุดเราก็ได้มาเห็นคันจริงของรถรุ่นนี้ รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจาก TOYOTA (โตโยตา) จากรูปด้านข้างอาจทำให้บางคนเข้าใจผิดไปว่า นี่คือ รถยนต์จาก LEXUS (เลกซัส) กับเส้นสายที่ดูคุ้นเคยในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นสันเหลี่ยมที่เฉียบคมบนตัวถัง เส้นสายที่ดูปราดเปรียว เน้นความบึกบึนแทบทุกสัดส่วน แต่เมื่อลองพิจารณาด้านหน้าของตัวรถ รวมถึงในขณะขับขี่ เราพบว่าการตอบสนองโดยรวมยังเป็นรูปแบบของ TOYOTA แม้จะมีการพัฒนาในหลายๆ ด้าน จุดเด่นที่ยังคงถูกรักษาเอาไว้ และคุณภาพการประกอบที่ถูกยกระดับขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ยังคงบ่งบอกตัวตนของค่าย TOYOTA อย่างชัดเจน
รถคันนี้มีความยาวที่ 4,690 มม. หรือยาวกว่า RAV4 (รัฟโฟร์) ประมาณ 240 มม. รถยนต์ไฟฟ้า BZ4X (บีเซด 4 เอกซ์) มีจุดเด่นจากการใช้โครงสร้างตัวถังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาร่วมกันกับทาง SUBARU (ซูบารุ) รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา มีให้เลือกใช้งานในบางรุ่นย่อยของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง 2 ค่ายรถ ขณะที่น้ำหนักโดยรวม คือ 2,065 กก. ตามที่ผู้ผลิตระบุมา เรายังไม่แน่ใจว่าน้ำหนักของตัวรถจะมีผลต่อการขับขี่มากน้อยแค่ไหน แต่ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งชุดแบทเตอรีขนาดใหญ่
รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มีระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็มที่ 470 กม. และถูกวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นรถยนต์ระดับหรูของ TOYOTA (กับราคาเริ่มต้นกว่า 50,000 ยูโร) นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการจำหน่ายรถที่แตกต่างไปจากเดิมของค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่น รวมถึงระบบการเช่าซื้อรถที่น่าสนใจอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยหนึ่งในเงื่อนไขของการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ หากผู้เป็นเจ้าของเลือกใช้งานการซ่อมบำรุงตามระยะเวลาที่ทางค่ายรถกำหนด ผู้เป็นเจ้าของจะได้รับระยะเวลาการรับประกันเพิ่มขึ้นสำหรับชุดแบทเตอรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด นั่นคือ 10 ปี หรือระยะทางถึง 1,000,000 กม. มาที่ห้องโดยสาร BZ4X มีการออกแบบที่ล้ำสมัยมาก แผงหน้าปัดขนาดเล็ก คอนโซลเกียร์มีขนาดใหญ่ พร้อมหน้าจอขนาด 8 หรือ 12.3 นิ้ว มีการติดตั้งพวงมาลัยที่มีรูปทรงแหวกแนวราวกับยานอวกาศ ชวนให้นึกถึงรูปทรงของพวงมาลัยจากค่าย PEUGEOT (เปอโฌต์) มีขนาดเล็ก และทำมุมหักหลบมุมมองกับแผงหน้าปัด ส่วนรุ่นที่เตรียมจำหน่ายในปีหน้า จะมีความแปลกใหม่มากกว่านี้ได้อีกกับพวงมาลัยที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใช้งานในลักษณะของคันโยก และจะตัดที่จับพวงมาลัยด้านบน และด้านล่างออกไป
กลิ่นอายตัวหรูอย่าง LEXUS
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีคุณภาพการประกอบถูกยกระดับขึ้นมาเหนือกว่ารถยนต์ของ TOYOTA ทั่วไป องค์ประกอบที่ให้ความรู้สึกที่หรูหราถูกหยิบยืมมาจากค่ายรถหรูในเครืออย่าง LEXUS แต่การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ความสะดวกสบายโดยรวม และระบบความบันเทิงที่ติดตั้งใน BZ4X ยังคงแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างค่ายรถร่วมเครือทั้ง 2 ราย จุดเด่นอีกอย่าง คือ ระบบส่งกำลังที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง แทบไม่มีอาการสะดุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้เห็น การส่งแรงบิดไปยังเพลาขับแต่ละตำแหน่งทำได้ดีอย่างไร้ที่ติ จากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา X-MODE สำหรับการลุยเส้นทางสมบุกสมบันที่ความเร็วต่ำ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มีความใกล้เคียงกับตัวลุยขนานแท้ แม้เอาเข้าจริง รถรุ่นนี้ไม่ได้ถูกพัฒนาสำหรับการลุยเต็มตัว แต่ความสูงจากพื้นถนนร่วม 170 มม. และชุดแบทเตอรีที่มีมาตรฐานการกันน้ำได้ดี รถคันนี้สามารถลุยน้ำลึกได้สูงสุดที่ 500 มม. เลยทีเดียว
หากผู้ขับกดคันเร่งสุดทันที ระบบขับเคลื่อนแทบไม่มีอาการหน่วงให้เห็น แต่ก็ไม่ถึงกับดุดันหลังติดเบาะแบบที่รถยนต์ไฟฟ้าหลายคันเป็น เราพบว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ไม่มีแพดเดิล ชิฟท์ให้ใช้งานสำหรับการปรับระดับการนำแรงหน่วงจากการเบรคกลับมาเป็นกระแสไฟฟ้า (หากต้องการปรับสามารถทำได้ผ่านปุ่มบนคอนโซลเกียร์) นอกจากนี้ยังไม่มีการติดตั้งระบบชะลอความเร็วจนหยุดนิ่งด้วยการถอนคันเร่ง น้ำหนักของพวงมาลัยค่อนข้างเบา ไม่สามารถสะท้อนลักษณะของพื้นผิวถนนมายังผู้ขับได้ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม มีความเหมาะสมอย่างลงตัวกับบุคลิกของตัวรถ นั่นคือ เน้นการขับขี่ที่ผ่อนคลาย สะดวกสบาย เสริมด้วยการปรับแต่งระบบรองรับที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวขรุขระได้ดีมาก แต่มีสิ่งที่ต้องการแลกมา คือ อาการโคลงของตัวรถที่ค่อนข้างชัดเจนขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง สำหรับความสะดวกสบาย รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ทำได้ดีอย่างน่าชื่นชม เสียงรบกวนจากภายนอกมีให้สัมผัสน้อยมาก และเบาะคู่หน้าโอบกระชับสรีระได้ดี และมีรูปทรงที่พอเหมาะ ติดตั้งระบบทำความอุ่น และระบบระบายความร้อน นอกจากนี้เบาะนั่งด้านหลังก็มีความสะดวกสบายไม่แพ้กัน ด้วยระยะฐานล้อที่ 2,850 มม. เหลือเฟือสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่ส่วนขามากมาย ความจุของที่เก็บสัมภาระท้ายมีความจุที่ 452 ลิตร ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังคงมีคู่แข่งระดับเดียวกันบางรุ่นมีความจุมากกว่า สุดท้ายแล้ว ระบบช่วยเหลือการขับขี่มีจังหวะการทำงานที่แม่นยำ และแก้ไขอาการของตัวรถได้ทันท่วงที
รุ่น 4X4 ข้อมูลจากผู้ผลิต
เครื่องยนต์
• ล้อคู่หน้า มอเตอร์ไฟฟ้า ล้อคู่หลัง มอเตอร์ไฟฟ้า
• กำลังสูงสุด 218 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 34.3 กก.-ม.
แบทเตอรี
• แบบ ลิเธียม-ไอออน ความจุ 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง
การชาร์จ
• แบบ AC 11 กิโลวัตต์ / DC 150 กิโลวัตต์
ระบบส่งกำลัง
• ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
• ระบบเกียร์อัตราทดคงที่
สมรรถนะ
• ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.9 วินาที
• อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน 7.0 กม./กิโลวัตต์ชั่วโมง
• ระยะทำการสูงสุด: 470 กม. (ล้อแมก 18 นิ้ว) 411 กม. (ล้อแมก 20 นิ้ว)
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
• ระยะฐานล้อ 2,850 มม.
• ความยาว 4,690 มม. กว้าง 1,860 มม. สูง 1,650 มม.
• น้ำหนักโดยรวม 2,065 กก.
ราคา
• ไม่ระบุ
ข้อมูลทางเทคนิค การร่วมกันพัฒนาของ 2 ค่ายรถ
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นรกของค่าย ทาง TOYOTA เลือกใช้พแลทฟอร์มตัวถังแบบ ETNGA ใช้งานร่วมกับค่าย SUBARU (ซูบารุ) กับรุ่น SOLTERA (โซลเทรา) โครงสร้างตัวถังรุ่นใหม่สามารถรองรับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า และด้านหลัง สามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับรถยนต์ขนาดแตกต่างกัน ขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมระบบจัดสรรการส่งกำลังเป็นการพัฒนาของทาง SUBARU ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาช้านาน รุ่น 4X2 ใช้มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ส่วนรุ่น 4X4 ใช้มอเตอร์ 2 ชุด แต่ละชุดขับเคลื่อนล้อคู่หน้า และคู่หลังแยกกัน มีกำลังสูงสุดที่ 218 แรงม้า แบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน ระบายความร้อนด้วยน้ำ ประกอบด้วย 96 เซลส์ และมีความจุที่ 71.4 กิโลวัตต์ ทางผู้ผลิตระบุว่าการชาร์จใช้เวลา 30 นาที จาก 0-80 % สำหรับการชาร์จที่ 150 กิโลวัตต์ ส่วนการชาร์จแบบปกติที่ 11 กิโลวัตต์ จะใช้เวลา 7 ชม. สำหรับการชาร์จแบทเตอรีเต็ม ระบบเบรกด้านหลังเป็นแบบจาน มีขนาดใหญ่ไม่จานเบรคด้านหน้า
ระบบรองรับ
ระบบรองรับด้านหน้าแบบ แมคเฟอร์สัน สตรัท ขณะที่ด้านหลังแบบปีกนกคู่
พื้นที่ห้องโดยสาร
ผลดีของระยะฐานล้อที่ 2,850 มม. (เทียบกับ RAV4 คือ 2,690 มม.) ทำให้พื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลังมีความสะดวกสบายดีมาก
ทางเลือก 2 รูปแบบ
ล้อแมกมีทางเลือกตามแต่รุ่นย่อย กับขนาด 18 และ 20 นิ้ว แต่ละทางเลือกจะมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองพลังงาน หากเลอกล้อแมกขนาดใหญ่สุด ระยะทำการสูงสุดจะลดลง 59 กม.
