Quattroruote ลองของแรง
PAGANI HUAYRA
นามของเทพเจ้าแห่งสายลม และผู้ก่อกำเนิดพายุ นี่คือ ไฮเพอร์คาร์ที่พร้อมจะกระชากวิญญาณของผู้ขับขี่ได้ทุกชั่วขณะ รวมถึงผู้ที่หลงใหลได้ปลื้มกับพละกำลังอันมหาศาล พรั่งพร้อมด้วยตัวถังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ และด้านอากาศพลศาสตร์ที่ลงตัวรอบคัน พร้อมอัตราเร่งที่ถูกปลดปล่อยออกมาเพียงชั่วลมหายใจ
รุ่น ROADSTER BC
ราคา (ของรถทดสอบ)
- 3,763,700 ยูโร (ประมาณ 14,560,000 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
เครื่องยนต์
- เบนซิน เทอร์โบ วี 12 สูบ
- 5,980 ซีซี
กำลังสูงสุด
- 802 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลือง (เชื้อเพลิงเฉลี่ย)
- จากผู้ผลิต 6.3 กม./ลิตร
อัตราการปล่อยไอเสียเฉลี่ย
- จากผู้ผลิต 359 กรัม/กม.
การออกแบบที่เหนือจินตนาการ
หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้ก่อตั้งค่ายรถแห่งนี้ นั่นคือ HORACIO PAGANI จากนั้นเราได้ทดลองขับ HUAYRA (วายรา) ต่อทันที ในช่วงแรกของการสนทนาอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ถูกรังสรรค์เข้ามาใหม่ในรถสปอร์ทรุ่นนี้ จากนั้น คือ การตั้งหน้าตั้งตาควบคุมรถล้วนๆ ทำให้ได้เปิดมุมมองบางอย่างอันน่าเหลือเชื่อ จากการตอบสนองอันเร้าใจ รวมถึงการขับขี่ลักษณะต่างๆ ตอกย้ำให้เราแน่ใจยิ่งขึ้นว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง HORACIO และ HUAYRA คันนี้ ช่างสอดประสานกันได้อย่างเหลือเชื่อ ราวกับเป็นเสมือนพ่อลูกกันก็ไม่ปาน จะเห็นได้อย่างแรกจากเส้นสายรอบคัน ถูกรังสรรค์จากบริษัท MOTOR VALLEY ที่มีถิ่นฐานในประเทศอาร์เจนตินา ก่อตั้งช่วงต้นๆ ของปี 1980 ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของหัวใจหลัก และความคิดริเริ่มที่หลากหลายของค่ายซูเพอร์คาร์แห่งนี้
เมื่อพิจารณาเส้นสายของรถรุ่นนี้โดยละเอียด จิตวิญญาณของความเป็นละตินก็สะท้อนออกมาอย่างชัดเจน HUAYRA ด้วยรูปทรงที่โดดเด่น เร้าใจ และสะดุดตาอย่างถึงที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อลงลึกในรายละเอียดมากขึ้นเท่าไร เราพบว่ารูปแบบของ PAGANI (ปากานี) เทียบได้กับผลงานศิลป์ของ LEONARDO DA VINCI ขนาดนั้นเชียว จะเห็นได้จากความลงตัวของรูปทรง และประสิทธิภาพโดยรวมของรุ่นนี้ ต่างสอดประสานกันได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นผลงานศิลปะชั้นสูงบวกเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แม้ในปัจจุบันจะมีคู่ปรับตัวฉกาจจากค่ายรถอย่าง BUGATTI (บูกัตตี) หรือ KOENIGSEGG (โคนิกเซกก์) แต่ค่าย PAGANI ยังคงสามารถรังสรรค์จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมาได้ HUAYRA เปรียบเสมือนดั่งการหลอมรวมของภาพวาดชั้นบรมครู และงานประติมากรรมอันแสนประณีตบรรจง ที่สามารถจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยคุณสมบัติอันเลิศเลอดังกล่าว นำมาซึ่งค่าตัวในระดับเริ่มต้นที่ 4 ล้านยูโรเลยทีเดียว จากรุ่น ROADSTER BC (โรดสเตอร์ บีซี) ด้วยงบประมาณระดับดังกล่าว สามารถครอบครอง AUDI A4 (เอาดี เอ 4) ร่วม 100 คัน หรือแม้แต่รถสปอร์ทราคาแพงอย่าง FERRARI (แฟร์รารี) LAMBORGHINI (ลัมโบร์กินี) หรือ PORSCHE (โพร์เช) ร่วม 12 คันก็ว่าได้
ภายในห้องโดยสาร เต็มไปด้วยสิ่งที่เหลือเชื่อ เต็มไปด้วยความแปลกใหม่อันตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะหันไปมองจุดไหน เราสามารถพบเห็นความตระการตามากมาย ราวกับกำลังมองการตกแต่งโบสถ์ของคริสตจักรอันวิจิตรบรรจง เทียบได้กับการแสดงผลบนหน้าปัดที่แพรวพราว นอกจากนี้การเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โลหะ และชุดหนังแท้ชั้นดี นอกเหนือจากนั้น คือ การออกแบบที่บ่งบอกความล้ำสมัยของเครื่องยนต์กลไก เต็มไปด้วยรายละเอียดด้านการใช้งานมากมาย จากผู้รังสรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยความหลงใหลในโลกแห่งยานยนต์ รายละเอียดต่างๆ ถูกพิจารณาอย่างถ้วนถี่ สำหรับการปลดปล่อยสมรรถนะอันเหลือล้นภายในของเครื่องยนต์กลไก องค์ประกอบแทบทั้งหมดมีความลงตัวดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเบาะผู้ขับที่ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์อย่างแม่นยำ ถัดไปทางซ้าย คือ สลักสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อปลุกรถสปอร์ทคันนี้ให้ตื่นขึ้นมา พร้อมจะทะยานไปข้างหน้า เพื่อนำประสบการณ์ใหม่สู่อีกโลกหนึ่งที่เกินกว่าจะคาดเดา
รูปแบบการจัดวางกระจกมองข้างที่ตัวถัง คือ สิ่งที่คุ้นเคยกันดี และทุกครั้งที่เราเหลือบตามองกระจกชุดนี้ ใจก็อดคิดถึงคำพูดของ HORACIO ไม่ได้ว่า รูปทรงของกระจกได้รับแรงบันดาลใจจากนัยน์ตาของหญิงสาว สมกับความเป็นไฮเพอร์คาร์สายเลือดละตินอเมริกันจริงๆ ขณะเดียวกัน เราหันมามองที่แผงหน้าปัดอันแพรวพราว และปุ่มใช้งานบนพวงมาลัยอันแสนละลานตา อาจเป็นสิ่งที่ต้องทำความคุ้นเคยในช่วงแรกพอสมควร เมื่อพิจารณาทีละส่วนกันไป ตั้งแต่รูปแบบของการแสดงผลของวันที่ ตัวเลข และระดับของมาตรวัดต่างๆ ถูกใช้เป็นสีเงินเทา กลืนไปกับพื้นหลัง ทำให้บางครั้งขณะขับขี่ถูกบดบังการมองเห็นจากแสงที่สะท้อนเข้ามา ขณะที่การขับในยามค่ำคืน ยังคงมองเห็นได้ชัดเจน จากไฟสำหรับส่องสว่างเวลากลางคืน และไฟเสริมบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ทำให้มองเห็นการแสดงผลต่างๆ ได้ชัดเจนดี ขณะที่บรรดาแผงหน้าปัดตรงกลาง แลดูซับซ้อนเกินคาด ยังดีที่มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ยังคงเห็นเด่นชัด ส่วนด้านบนของจอแสดงผล มีสลักใช้งานที่ดูแปลกตาพอสมควร เป็นปุ่มหมุนสำหรับการวัดระยะทางของตัวรถ ทำหน้าที่คล้ายกับมาตรวัดระยะทางของรถทั่วไป แต่แท้ที่จริงแล้ว คือ การบ่งบอกว่าเครื่องยนต์ทำงานมานานเท่าไร
องค์ประกอบอื่นๆ สะท้อนความเป็นไฮเพอร์คาร์ขนานแท้ HUAYRA ติดตั้งปุ่มใช้งานต่างๆ บนคอพวงมาลัยแทบจะทั้งหมด ตำแหน่งที่ติดตั้งมีความลงตัว และอยู่ในระยะที่เอื้อมสัมผัสได้สะดวก แม้ในช่วงแรกอาจต้องทำความคุ้นเคยกันพอสมควร เนื่องจากปุ่มใช้งานที่มีมากมายหลากหลาย มีหลายจุดที่ต้องศึกษาให้ชัดเจน เกินกว่าที่จะคาดเดาเอาเองจากความคุ้นเคยเดิมๆ ได้ ปุ่มปรับโหมดการขับเคลื่อนอยู่ในพวงมาลัย (รูปแบบคล้ายกับระบบของ FERRARI) มองเห็นได้ชัดเจนโดยใช้สีแดงสด สามารถปรับแต่งระดับการตอบสนอง และความฉับไวของระบบส่งกำลัง มีปุ่มที่แยกออกมาต่างหาก นั่นคือ โหมด SUPERSOFT มีหน้าที่ตามชื่อโดยตรง กับการขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น และช่วยให้ HUAYRA ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกกว่าปกติ
สมรรถนะอันน่าพรั่นพรึง
เมื่อเริ่มกดคันเร่งลงไป อีกครั้งที่พละกำลังในแบบฉบับละตินได้เผยตัวขึ้นมาทันที กับสมรรถนะที่ระเบิดออกมาในพริบตา และอัตราเร่งอันเหลือเชื่อเหนือกว่าบรรดาขุมพลังไหนจะเคยทำได้ เครื่องยนต์ที่ PAGANI ใช้งานเป็นแบบ วี 12 สูบ ผลผลิตจากการพัฒนาร่วมกันกับ MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) ภายใต้กำลังสูงสุดอันมหาศาล และการตอบสนองที่ยากจะหาค่ายรถเจ้าไหนเสมอเหมือน ซุ่มเสียงที่เร้าประสาทสัมผัส บ่งบอกพละกำลังที่แท้จริงของตัวรถ เสียงดูดอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ เสียงหวีดหวิวของลมหวนขณะรถแหวกอากาศ และส่วนท้ายรถที่แสดงอาการออกมาอย่างพอเหมาะ ชวนให้คิดไปไกลว่าเรากำลังควบอยู่บนสิ่งมีชีวิตบางอย่าง มากกว่าการขับขี่บนเครื่องยนต์กลไก หากจะให้แปรความเร้าใจที่กล่าวมาเป็นตัวเลข สามารถดูได้ในส่วนการวัดสมรรถนะ เป็นครั้งแรกที่เราต้องปรับระดับการแสดงผลใหม่หมด เพราะ HUAYRA แสดงตัวเลขที่สุดแสนจะเหลือเชื่อ เหนือกว่ารถทดสอบที่เราเคยวัดผลออกมา
อัตราเร่งที่ฉับไวจากพละกำลังอันเหลือเฟือ นำมาซึ่งสิ่งที่เหลือเชื่อ ภายใต้แรงบิดสูงสุดที่มากมายถึง 107.1 กก.-ม. มีช่วงการตอบสนองตั้งแต่ 2,000 รตน. มีการทำงานที่ยืดหยุ่นดีมาก หากต้องการเพิ่มความเร้าใจ ต้องสังเกตการทำงานของมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ให้ดี ในช่วงเกินกว่า 3,500 รตน. จะเป็นจังหวะที่แรงม้าเริ่มร่วมส่งกำลังเข้ามาอีกแรง มีจุดที่น่าเสียดายอยู่บ้าง คือ การจำกัดรอบเครื่องยนต์สูงสุดที่ 6,300 รตน. เท่านั้น อาจดูน้อยไปบ้างสำหรับเครื่องยนต์สมรรถนะสูง แต่สิ่งที่ชดเชยได้ คือ แรงดึงที่หนักแน่น และความหนึบแน่นของตัวรถที่ให้ความมั่นใจได้ในระดับสูงขณะทะยานผ่านโค้ง สมกับบรรดารายละเอียดมากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรถคันนี้ กำลังทำหน้าที่ของมันอย่างแข็งขัน เป็นเหตุผลว่า ทำไมอัตราส่วนที่ 802 แรงม้า/น้ำหนักที่ 1.87 กก.
แนวทางของ PAGANI ขนานแท้
HUAYRA ROADSTER BC คือ ตัวแรงขั้นสุดของไฮเพอร์คาร์ที่เคยเปิดตัวในปี 2012 อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาผลิตจริง รถรุ่นนี้ถูกเสริมองค์ประกอบใหม่ๆ เข้ามาหลายส่วน รวมถึงขุมพลัง กับเครื่องยนต์ขนาด 6.0 ลิตร วี 12 สูบ พัฒนาสำหรับ PAGANI โดยเฉพาะจากค่ายรถแรง MERCEDES-AMG มีรหัสการพัฒนาต่อท้ายว่า EVO ที่ต่อยอดจากพโรเจคท์ M158 องค์ประกอบโดยพื้นฐานของเครื่องยนต์บลอค นี้ คือ ระบบแคมชาฟท์เดี่ยวต่อแถวกระบอกสูบ และมีจำนวน 3 วาล์ว/กระบอกสูบ เสริมด้วยระบบเทอร์โบคู่ และปรับตกแต่งมาอย่างดี เพื่อผลลัพธ์ คือ กำลังสูงสุด 802 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 107.1 กก.-ม. ระบบเกียร์แบบคลัทช์ไฟฟ้าแบบ 7 จังหวะ ผลิตจากบริษัทในประเทศอังกฤษอย่าง XTRAC สาเหตุที่เลือกใช้แบบคลัทช์เดี่ยวเพราะทางผู้ผลิตเห็นว่าเกียร์ชุดนี้มีน้ำหนักเบากว่าเกียร์แบบคลัทช์คู่ถึง 35 % หากใช้งานกับเกียร์จำนวน 7 จังหวะเช่นนี้ ตำแหน่งการติดตั้งจะวางตามยาว มีขนาดกะทัดรัด ช่วยให้ลดอาการท้ายปัดได้บางส่วน เนื่องจากน้ำหนักไม่ถ่ายเทไปยังด้านหลังมากเกินไป ขณะที่โครงสร้างตัวถังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด เป็นวัสดุที่ทาง PAGANI เชี่ยวชาญเสมอมา เสริมด้วยวัสดุไททาเนียมในบางจุด เพื่อความแข็งแรงทนทานยิ่งขึ้นของเครื่องยนต์กลไก ระบบเสริมอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ และระบบรองรับปรับระดับความสูงได้ เพื่อผลลัพธ์ คือ แรงกดที่ 500 กก. ที่ความเร็ว 280 กม./ชม. และยาง PIRELLI P ZERO TROFEO R พัฒนาขึ้นมาสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เป็นยางที่หล่อขึ้นรูปด้วยระบบหุ่นยนต์ทั้งกระบวนการผลิต (มีความแม่นยำสูง) ระบบเบรคของ BREMBO ผ้าเบรคแบบคาร์บอนเซรามิค คู่หน้ามีขนาด 398 มม. คู่หลัง 380 มม. พร้อมคาลิเพอร์แบบ 6 และ 4 จุดยึด
ข้อมูลจำเพาะของรถที่นำมาทดสอบ
เครื่องยนต์
เบนซิน วางกลางลำ ตามยาว
วี 12 สูบ (ทำมุม 60 องศา)
กระบอกสูบ 82.6 มม.
ช่วงชัก 93.0 มม.
ความจุ 5,980 ซีซี
กำลังสูงสุด 802 แรงม้า ที่ 5,900 รตน.
แรงบิดสูงสุด 107.1 กก.-ม. ที่ 2,200-5,600 รตน.
เสื้อสูบใช้วัสดุโลหะน้ำหนักเบา
เพลาปรับสมดุล 1 ชุด ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 3 วาล์ว/ลูกสูบ (สายพานโซ่)
ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูเลอร์
ระบบส่งกำลัง
วางตำแหน่งที่เพลาขับหลัง
ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
เกียร์อัตโนมัติคลัทช์เดี่ยว 7 จังหวะ
ยาง
PIRELLI P ZERO TROFEO R
คู่หน้าขนาด 265/30 R20 94Y
คู่หลังขนาด 355/25 R21 107Y
ชุดอุปกรณ์ปะยาง
รูปแบบตัวถัง
โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ROADSTER 2 ประตู 2 ที่นั่ง
ระบบรองรับด้านหน้า ปีกนกคู่ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบรองรับด้านหลัง ปีกนกคู่ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ชอคอับแบบไฮดรอลิคแปรผันด้วยอีเลคทรอนิค
ระบบเบรคแบบจาน คาร์บอนเซรามิค พร้อมช่องระบายความร้อน เอบีเอส อีเอสพี
พวงมาลัยฟันเฟือง และตัวหนอน ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
ถังน้ำมันความจุ 73 ลิตร
มิติ และน้ำหนัก
ระยะฐานล้อ 2,800 มม.
ความกว้างฐานล้อคู่หน้า 1,650 มม. หลัง 1,660 มม.
ความยาว 4,770 มม. กว้าง 2,050 มม. สูง 1,180 มม.
น้ำหนักโดยรวม 1,325 กก. รวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,700 กก.
ความจุที่เก็บสัมภาระ 50+54 ลิตร
สถานที่ผลิต
เมือง SAN CESARIO SUL PANARO ประเทศอิตาลี
ประกาศศักดาเหนือใคร 1:07.681 นาที
ไฮเพอร์คาร์รุ่นนี้เผยให้เห็นตัวเลขที่เป็นสถิติใหม่ในการทดสอบบนสนามแข่ง ทั้งเวลาต่อรอบ การทำเวลาในโค้งแต่ละช่วง
เป็นผลดีจากกำลังสูงสุดร่วม 800 แรงม้า และสมดุลของตัวรถที่ยอดเยี่ยม จนแทบจะทำให้สนามทดสอบของเราดูเล็กลงไปเลยทีเดียว
จากการทดสอบในส่วนนี้ HUAYRA ROADSTER BC ทำเวลาได้เร็วกว่าคู่แข่งอย่าง PORSCHE 911 GT2 RS (โพร์เช 911 จีที 2 อาร์เอส) ซึ่งยืนยงอยู่ในอันดับ 1 ของเรามาเป็นเวลากว่า 2 ปีมาได้ สิ่งที่ทำให้รถของ PAGANI เหนือกว่า ไม่ใช่แค่เรื่องพละกำลังอย่างเดียวเท่านั้น แต่มาจากความสมดุลของตัวรถที่ยอดเยี่ยม จัดเป็นอาวุธเด็ดของทาง HUAYRA ก็ว่าได้ ถัดมา คือ เครื่องยนต์พละกำลังสูงอันแสนดุดัน รอบเครื่องยนต์ที่ใช้งานอยู่ระหว่าง 4,000-6,300 รตน. ถือว่าเป็นส่วนต่างในระดับที่ 2,000 รตน. เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีระบบเบรคที่หนักแน่น สามารถลดความเร็วลงมาได้ในชั่วพริบตา และยังมีแป้นเหยียบที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ การทะยานรอบสนามแข่งทดสอบจำนวน 2-3 รอบ เป็นความเร้าใจอย่างถึงที่สุด หากเทียบคุณลักษณะการขับขี่กับซูเพอร์คาร์รุ่นอื่นๆ แล้ว รถคันนี้ท้าทายให้เราขับขี่ที่เข้าใกล้ขีดจำกัดยิ่งกว่า
การขับขี่ในแต่ละรอบ เราสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ HUAYRA ให้ความรู้สึกที่มั่นคง และแทบจะไม่แสดงออกถึงอาการผิดปกติใดๆ ให้เห็น ซึ่งตามปกติแล้ว การขับขี่แบบเน้นสมรรถนะในระดับสูง มีโอกาสที่เจออาการของตัวรถที่แสดงออกมา แต่ไม่ใช่สำหรับรถรุ่นนี้ ผู้ขับต้องจับจังหวะการทำงานของระบบเกียร์ให้ดี การเปลี่ยนจังหวะค่อนข้างรุนแรง โดยมีระบบอีเลคทรอนิคป้องกันล้อลื่นไถลเข้าช่วยเหลืออีกแรง และมีการปรับแต่งที่เน้นความหนึบแน่นแบบดั้งเดิม บรรดาซูเพอร์คาร์ หรือแม้แต่ไฮเพอร์คาร์ มีการติดตั้งระบบนี้กันแทบทั้งนั้น ส่วนใหญ่จะปรับแต่งให้มีจังหวะการทำงานที่ไม่รบกวนการขับขี่ อย่างไรก็ตาม ผู้ขับจำเป็นต้องทำความคุ้นเคยจังหวะการทำงานของระบบช่วยเหลือให้ดี ระดับการกดคันเร่งต้องใช้ความระมัดระวัง หากกดคันเร่งมากไประบบช่วยเหลืออาจเข้ามาทำงานแทนที่ และทำให้เวลาต่อรอบช้าลง
HUAYRA จัดเป็นรถสปอร์ทที่มีความสมดุลอย่างไร้ที่ติ ระหว่างสมรรถนะในระดับสูง และยังบังคับควบคุมได้ดังใจ การขับขี่แบบเน้นสมรรถนะแบบเข้าใกล้ขีดจำกัด รถคันนี้ยังทะยานได้อย่างเรียบเนียน และโครงสร้างของตัวรถยังคงแข็งแรง ไม่แสดงอาการใดๆ ผู้ขับมีความรู้สึกที่มั่นคงปลอดภัย มีสมาธิกับการควบคุมรถได้อย่างไม่มีสิ่งอื่นใดรบกวน คุณลักษณะดังกล่าว คือ สิ่งที่ผู้ขับต้องการอย่างแท้จริง นั่นคือ การขับขี่ที่สามารถประเมินขีดจำกัดของตัวรถได้เสมอ ไม่ขับขี่ได้ต่ำกว่าระดับความสามารถของตัวรถมากเกินไป (อาจพลาดโอกาสการรับรู้ประสิทธิภาพที่แท้จริงของตัวรถได้) หรือการขับขี่เกินกว่าขีดจำกัดของตัวรถ (เสี่ยงต่อการเจออาการผิดปกติ และอาจหลุดจากโค้งได้) ในกรณีนี้ HUAYRA ทำให้การขับขี่อยู่ในการควบคุมเสมอ มีการตอบสนองที่ชัดเจน และไม่แสดงอาการผิดปกติออกมาทันทีทันใด
ในช่วงความเร็วสูง ระบบอากาศพลศาสตร์รอบตัวรถแสดงประสิทธิภาพเต็มที่ จากการติดตั้งสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ (สามารถปรับองศาได้) HUAYRA มีชิ้นส่วนที่สามารถปรับตำแหน่งได้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ประกอบด้วยครีบจัดเรียงอากาศถึง 4 ตำแหน่ง (2 ตำแหน่งที่ฝากระโปรงหน้า และอีก 2 ตำแหน่งที่บริเวณมุมด้านหลังของตัวถัง ข้างใต้สปอยเลอร์ท้าย) ช่วยเสริมแรงกดในแนวตั้ง แปรผันตามแต่สภาวะการขับขี่ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นระบบเบรคด้วยแรงกดอากาศ เป็นรูปแบบการทำงานที่น่าทึ่ง ผู้ขับเพียงทำการเบรค หักเลี้ยว และก็ทะยานออกจากโค้ง ตัวรถมีความมั่นคงในระดับที่น่าพอใจตลอดเวลา ด้วยแรงกดที่สูงพอ การเข้าโค้งของรถสปอร์ทจาก PAGANI จึงทำได้อย่างหนึบแน่น มีระดับแรง จี ที่สูง ทำให้ HUAYRA สามาถสร้างสถิติใหม่ของเวลาต่อรอบจากการทดสอบบนสนาม VAIRANO และเรายังเพิ่มความท้าทายให้กับหนึ่งในสุดยอดรถสปอร์ทคันนี้กับรูปแบบสนามใหม่ล่าสุดใช้เป็นครั้งแรกกับ PAGANI คันนี้โดยเฉพาะ
ผู้พิชิตสนาม VAIRANO ตัวจริง
ขุมพลังที่มีพละกำลังมหาศาล และเสริมด้วยตัวถังที่มีอากาศพลศาสตร์อันเพียบพร้อม สามารถทะยานผ่านช่วงโค้งเพื่อทดสอบระดับการยึดเกาะถนนได้สบายๆ ส่วนหนึ่งมาจากน้ำหนักโดยรวมที่มีความลงตัวเช่นกัน สำหรับ HUAYRA ROADSTER BC ถือผู้ทำเวลาต่อรอบเป็นอันดับ 1 รายล่าสุด แม้ความยาวของสนามทดสอบแห่งนี้ คือ 2,560 ม. อาจไม่มากที่จะให้รถสปอร์ทรุ่นนี้สำแดงประสิทธิภาพออกมาได้ทั้งหมด ทั้งในแง่ของสมรรถนะ และอากาศพลศาสตร์รอบตัวรถ ในส่วนการทดสอบการยึดเกาะถนน สามารถทำความเร็วสูงได้แทบทุกช่วง เป็นจุดเด่นของอัตราเร่ง และการยึดเกาะถนนที่น่าทึ่งของรถรุ่นนี้ ที่เห็นเด่นชัดมากกว่าด้านอื่นๆ ทำให้ HUAYRA คือ รถที่สามารถพิชิตสนาม VAIRANO ได้อย่างไม่ต้องสงสัย คุณภาพที่ยอดเยี่ยม 2 ประการด้วยกัน เราแสดงให้เห็นผ่านแผนภาพด้านล่าง ในส่วนของการทดสอบการยึดเกาะถนน สามารถแล่นผ่านด้วยความเร็วที่สูงมาก การทดสอบในส่วนนี้เราเพิ่มระยะทางของสนามอีกเล็กน้อย โดยในช่วงทางตรงมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 กม. และมีส่วนโค้งมากกว่าเดิม ทำให้มีระยะทางทั้งหมดเป็น 3,320 ม. เพื่อเปิดโอกาสให้รถสปอร์ทคันนี้มีพื้นที่สำแดงประสิทธิภาพจากเครื่องยนต์ และพละกำลังอันมหาศาลได้มากยิ่งขึ้น จากช่วงทางตรงที่ยาวเป็นพิเศษ อากาศพลศาสตร์รอบตัวรถได้ใช้งานเต็มพิกัด เห็นได้จากช่วงโค้งความเร็วสูงบริเวณด้านทิศเหนือของสนามทดสอบ HUAYRA แสดงให้เห็นจุดเด่น ทั้งในแง่ของอัตราเร่ง และการยึดเกาะถนนในระดับสุดยอด โดยสามารถเข้าโค้งภายใต้แรงเหวี่ยงที่สูงถึง 1.48 จี และภายใต้เส้นทางรูปแบบใหม่ สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 271.5 กม./ชม. ภายใต้เวลาต่อรอบที่ 1:20.707 นาที ถือเป็นสถิติใหม่ใช่หรือไม่ ? อาจยังตอบไม่ได้ในตอนนี้ เพราะนี่คือ รูปแบบใหม่ล่าสุดของสนาม VAIRANO และสถิติด้านอัตราเร่งเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นกับรถรุ่นนี้ เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์