Quattroruote ลองของแรง
AUDI RSQ3 SPORTBACK
หากใครที่กำลังมองหา เอสยูวี สมรรถนะสูง ลุยสนามแข่งได้สบาย RS Q3 (อาร์เอสคิว 3 อาจเป็นหนึ่งในคำตอบที่น่าสนใจ อัตราเร่งฉับไว ดุดัน มีความเร้าใจที่ไม่เหมือนใคร พร้อมความหนึบแน่นอย่างเหลือเชื่อ ขุมพลังพละกำลังสูงแบบ 5 สูบเรียง แต่ระบบส่งกำลังอาจยังไม่ลงตัวนัก
ราคา
- (ประมาณ 3,100,000 ไม่รวมภาษีนำเข้า) 71,100 ยูโร
เครื่องยนต์
- เบนซิน เทอร์โบ 5 สูบเรียง
- ความจุ 2,480 ซีซี
กำลังสูงสุด
- 400 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
- จากผู้ผลิต 11.2 กม./ลิตร
- จากการทดสอบ 10.1 กม./ลิตร
- ความคุ้มค่า 13.91 ยูโร/100 กม.
ภาษี 2,000 ยูโร
อัตรา
- การปล่อยไอเสีย 204 กรัม/กม.
- จากการทดสอบ 235 กรัม/กม.
#กลับมาทำงานอีกครั้ง 04.05.2020
วิถีชีวิตเมืองมิลาน เวลา 8.00
เวลาผ่านไปรวดเร็ว
พื้นที่ก่อสร้างในรูปมีคนงานกลับมาอีกครั้ง หลังจากต้องหยุดทำงานไปหลายเดือนจากสถานการณ์ โควิด-19 ผู้คุมงานก่อสร้าง (คนซ้ายสุดในรูป) กล่าวว่า “เรากลับมาทำงานกันอีกครั้งท่ามกลางข้อจำกัดหลายอย่าง ด้วยขนาดพื้นที่ก่อสร้างที่ใหญ่โต ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อน แต่เราก็สามารถดำเนินงานกันได้ตามกำหนดเวลา และถ้ามองในแง่ดี เราก็ได้ทำงานในที่โล่งแจ้ง และผมเบื่อการนั่งทำงานอยู่ที่บ้านเต็มทีแล้ว !” ขณะที่ผู้ช่วยของเขาบอกว่า “ก่อนหน้านี้ผมก็ต้องทำงานที่บ้านเหมือนกัน ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว แต่เชื่อว่า นี่คือ สถานที่ที่เหมาะสมกับคนงานหลายคน แถมได้เบี้ยเลี้ยงอีกด้วย”
รหัสที่เรียงลำดับมา นั่นคือ 1 2 4 5 และ 3 ไม่ใช่เลขบัญชีธนาคาร หรือรหัส ATM ของใคร แต่เป็นจังหวะการจุดระเบิดของเครื่องยนต์จาก AUDI (เอาดี) ส่งผลต่อซุ่มเสียงของท่อไอเสียที่ไม่เหมือนใคร มีโทนเสียงที่ทุ้มแหลมอย่างมีเอกลักษณ์ เชื่อเถอะว่า ไม่มีเครื่องยนต์บลอคไหนมีบุคลิกลักษณะนี้ เครื่องยนต์แบบ 5 สูบเรียง ถูกค่ายรถหลายเจ้าละทิ้งไปแล้ว มีเพียงค่ายรถสัญชาติเยอรมันแห่งนี้ยังคงใช้งานอยู่ นับเป็นทางเลือกที่น่าประหลาดใจเล็กน้อย และดำเนินแล้วมาเป็นเวลากว่า 40 ปี นั่นคือ นับตั้งแต่การถือกำเนิดของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา QUATTRO สร้างชื่อเสียงจากการกวาดรางวัลมากมายในการแข่งขันแรลลีทั้งคะแนนรวมของผู้ขับ และผู้ผลิต เครื่องยนต์ที่ถูกใช้งานกับ RS3 SPORTBACK (อาร์เอส 3 สปอร์ทแบค) แสดงให้เห็นในหน้าถัดไป เป็นบลอคล่าสุด มีขนาดกะทัดรัดกว่าเดิม (ความยาวน้อยกว่า 500 มม. และมีน้ำหนักเบาที่ไม่ถึง 26 กก.) แน่นอนว่า มีพละกำลังมากขึ้น ภายใต้การทำงานที่มีความไหลลื่นมากกว่าเดิม มีการประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นมากกว่าบลอคก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เครื่องยนต์บลอคนี้ได้รับรางวัลขุมพลังยอดเยี่ยมประจำปีถึง 9 ครั้งด้วยกัน
ดุดันเหลือเชื่อ !
การปลดปล่อยพละกำลังร่วม 400 แรงม้าได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ภายใต้อัตราส่วนการส่งกำลังที่ 155 แรงม้า/ลิตร เครื่องยนต์แบบ 5 สูบเรียงต้องใช้อากาศมากมายสำหรับการจุดระเบิด มีแรงดันสูงถึง 1.35 บาร์ โดยเทอร์โบขนาดใหญ่ 1 ลูก จากการพัฒนาอย่างเข้มข้นจากทีมงานวิศวกรเพื่อการตอบสนองที่ฉับไว ถึงอย่างนั้นอาการเทอร์โบแลกยังมีให้สัมผัสทุกครั้งที่กดคันเร่งลงไป โดยรวมแล้วอาการรอรอบยังมีให้เห็นเมื่อกดคันเร่งจากช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ (อัตราเร่งยืดหยุ่นใช้เวลากว่า 6 วินาที ที่ความเร็ว 30-60 กม./ชม. ที่เกียร์ 3 และใช้เวลา 4 วินาทีครึ่งเท่านั้น ของการไต่ไปถึง 40 กม./ชม.) การตอบสนองจะฉับไวยิ่งขึ้นในช่วงรอบเครื่องยนต์สูงกว่า 3,500 รตน. เป็นช่วงรอบสูงของเครื่องยนต์แบบ 5 สูบเรียง มีการตอบสนองที่ลงตัวที่สุด อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดายที่รายละเอียดที่ยอดเยี่ยมหลายส่วนจะถูกบดบังโดยระบบส่งกำลัง กับเกียร์แบบอัตโนมัติคลัทช์คู่ การเปลี่ยนเกียร์ขณะกดคันเร่งไม่ฉับไวนัก และการลดจังหวะเกียร์ก็มีช่วงหน่วงเวลาค่อนข้างมาก เมื่อผู้ขับเลือกโหมดการขับขี่ผ่านปุ่ม DRIVE บนแผงคอนโซลหน้า มีโหมดการขับขี่ให้เลือกมากมาย ได้แก่ EFFICIENCY COMFORT CAR และ DYNAMIC และยังมีโหมดปรับแต่งเองอีก 2 ชุดด้วยกัน (นั่นคือ RS1 และ RS2) สามารถเปิดใช้งานกับปุ่ม RS บนพวงมาลัยได้ โหมดการขับขี่ดังกล่าวจะปรับแต่งการตอบสนองของเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ การตอบสนองของพวงมาลัย รวมถึงความหนึบแน่นของระบบรองรับ และการทำงานของระบบอีเลคทรอนิคต่างๆ (เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ระบบป้องกันการลื่นไถล และการส่งกำลังของเพลาขับแต่ละส่วน)
ในแง่การขับขี่บนท้องถนน เราแนะนำให้ใช้โหมดอัตโนมัติตามปกติ ซึ่งจะช่วยปรับแต่งการทำงานตามแต่ลักษณะการขับขี่ และเป็นโหมดการขับขี่ที่มีความเหมาะสมที่สุดแล้ว มีความลงตัวระหว่างความสะดวกสบาย และความคล่องแคล่ว ภายใต้รูปทรงที่ดุดัน รหัส RS คันนี้สามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้ดีมาก แถมยังมีบุคลิกที่สุขุมนุ่มลึกในแบบฉบับของ RS มีความสะดวกสบายพอตัว และเสียงรบกวนต่ำ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ขณะที่ห้องโดยสารมีความประณีต และการใช้งานที่สะดวกสบาย จากการผสมผสานรายละเอียดต่างๆ เข้าด้วยกัน สีสันที่ใช้ และวัสดุชั้นดีที่ถูกเลือกสรรมา ทำให้ห้องโดยสารมีบรรยากาศที่หรูหรา และลงตัวอย่างน่าพอใจ เบาะนั่งแบบสปอร์ทมีรูปทรงที่สวยงาม และโอบกระชับสรีระได้ดี รองรับสรีระของผู้ขับยามเข้าโค้งที่ความเร็วสูง
กลิ่นอายดั้งเดิมที่คุ้นเคย
เอาเข้าจริง จุดเด่นของรหัส RS รุ่นนี้ ไม่ใช่บุคลิกแบบรถสปอร์ท เมื่อผู้ขับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ดูจะรู้ถึงข้อเท็จจริงอันนี้ ความรู้สึกขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ชวนให้นึกถึงความแข็งแกร่ง และเร้าใจในแบบฉบับรถสปอร์ทดั้งเดิม ในช่วงแรกอาจต้องทำความคุ้นเคย และปรับตัวให้เข้ากับจังหวะการตอบสนองของตัวรถ ผู้ขับจึงสามารถกดคันเร่งเพิ่มได้เมื่อออกจากโค้ง แต่ยังต้องใช้ความระมัดระวังมากๆ ในกรณีที่ขับบนพื้นถนนเปียก หรือพื้นผิวที่มีความลื่นสูง (เช่น พื้นผิวน้ำแข็ง หรือหิมะ) ตามปกติพละกำลังอันมหาศาลจะถูกส่งไปยังล้อคู่หน้า จนกระทั่งระบบควบคุมการส่งกำลังจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และควบคุมให้พละกำลังส่งไปยังล้อคู่หลัง ขณะขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ เปิดโอกาสให้ผู้ขับได้ใช้ทักษะควบคุมการถ่ายเทน้ำหนัก เพื่อความสมดุลระหว่างอาการอันเดอร์สเตียร์ และโอเวอร์สเตียร์ RS คันนี้มีความดุดันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ยังไม่ถึงขั้นกับรหัส RS ที่เป็นรถสปอร์ทเต็มตัว
ข้อมูลจำเพาะ
ข้อมูลเกี่ยวข้องกับรถที่นำมาทดสอบ
เครื่องยนต์
- เบนซิน วางด้านหน้า
- แบบ 5 สูบเรียง
- กระบอกสูบ 82.5 มม.
- ช่วงชัก 92.8 มม.
- ความจุ 2,480 ซีซี
- กำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 5,850-7,000 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 49.0 กก.-ม. ที่ 1,950-5,850 รตน.
- ดับเบิลโอเวอร์เฮด แคมชาฟท์ ระบบวาล์วแปรผันคู่ (สายพานโซ่)
- ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง เทอร์โบ และอินเตอร์คูเลอร์
- ระบบกรองไอเสีย
ระบบส่งกำลัง
- 4 ล้อตลอดเวลา แปรผันการส่งกำลังอัตโนมัติ
- เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
ยาง
- คอนทิเนนทัล คอนทิสปอร์ทคอนแทคท์ 6 255/35 R21 98Y XL
- ชุดปะยาง
รูปแบบตัวถัง
- ตัวถังใช้วัสดุโลหะ ทรง 2 กล่อง 5 ประตู 5 ที่นั่ง
- ระบบรองรับด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
- ระบบรองรับด้านหลัง มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
- ชอคอับแบบไฮดรอลิค ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค
- จานเบรคแบบมีช่องระบายอากาศ เอบีเอส อีเอสพี
- พวงมาลัยแบบฟันเฟือง และตัวหนอน แปรผันด้วยไฟฟ้า
- ถังน้ำมันความจุ 60 ลิตร
มิติ และน้ำหนักโดยรวม
- ระยะฐานล้อ 2,680 มม.
- ความกว้างฐานล้อคู่หน้า 1,590 มม. คู่หลัง 1,580 มม.
- ความยาว 4,510 มม. กว้าง 1,850 มม. สูง 1,560 มม.
- น้ำหนักโดยรวม 1,775 กก. รวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 2,250 กก.
- พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 530 ลิตร
สถานที่ผลิต
- เมือง GYOR (ประเทศฮังการี)
การทดสอบในสนาม VAIRANO
ระบบส่งกำลังรับภาระหนัก
สนามทดสอบช่วยพิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์แบบ 5 สูบเรียงได้อย่างชัดเจน ตอบสนองดีในช่วงรอบเครื่องยนต์ปานกลาง มีบุคลิกการตอบสนองคันเร่ง และปลดปล่อยพละกำลังอย่างลงตัว ภายใต้พละกำลังอันมหาศาล การเค้นสมรรถนะของ RS ถึงขีดสุด ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ผู้ขับต้องทำความคุ้นเคยกับอาการเทอร์โบแลก ต้องกดคันเร่งล่วงหน้าเล็กน้อย และรูปแบบการส่งกำลังที่แปรผันระหว่างล้อคู่หน้า/หลัง ระบบเบรคมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ไม่มีอาการล้าให้สัมผัส แม้ช่วงการทำงานของระบบเอบีเอส จะมีการหน่วงความเร็วได้ดีมาก ขณะที่ระบบส่งกำลังยังตอบสนองได้ไม่น่าประทับใจนัก ควรทำได้ฉับไวกว่านี้
ข้อมูลการทดสอบ
การประเมินผลของ QUATTRORUOTE
เบาะผู้ขับ ★★★★★
เบาะนั่งถูกออกแบบมาสำหรับรหัสตัวแรงโดยเฉพาะ รูปทรงลงตัว โอบกระชับสรีระได้ดีกับทรงโค้งของเบาะนั่ง พวงมาลัยมีขนาดเล็ก ทำมุมเกือบตั้งชัน และหักมุมด้านล่าง
แผงคอนโซล และปุ่มใช้งาน ★★★★★
การออกแบบตามแนวทางของ AUDI ปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมมีเพียงไม่กี่ชุด การใช้งานโดยรวมมีความสะดวกสบายเป็นอย่างดี
แผงหน้าปัด ★★★★★
หน้าแสดงผลของชุดมาตรวัดแบบดิจิทอล มีขนาด 12.3 นิ้ว จอภาพคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน แสดงข้อมูลได้หลากหลาย (รวมถึง แรงบิด พละกำลัง แรง จี และเวลาต่อรอบ)
ระบบความบันเทิง ★★★★★
ผลดีจากการแสดงผลร่วมกับหน้าปัดแบบดิจิทอล VIRTUAL COCKPIT ช่วยให้มีการใช้งานที่สะดวก ใช้งานได้ง่ายดาย ข้อมูลจะถูกส่งมาจากระบบซิมคาร์ดฝังในตัวรถ
ระบบปรับอากาศ ★★★★✩
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยก 3 โซน เป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้ง (ราคา 230 ยูโร) ทำงานได้ดีมาก แค่ปรับอุณหภูมิตามต้องการ ที่เหลือระบบจะจัดการทุกอย่างเอง
ทัศนวิสัย ★★★★
มุมมองด้านหน้ามีความปลอดโปร่ง เป็นผลดีจากเสา เอ ที่มีขนาดพอเหมาะ และกระจกมองข้างติดตั้งบนส่วนประตู ช่วยให้มีมุมมองที่ดีขึ้น กล้องมองภาพทำงานได้ดี
คุณภาพการประกอบ ★★★★★
คุณภาพโดยรวมทำได้ยอดเยี่ยม สมกับมาตรฐานของรถยนต์สัญชาติเยอรมัน วัสดุที่ใช้มีผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกดี มีความหรูหรา
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ★★★★✩
บรรดาอุปกรณ์เลือกติดตั้งมีมากมาย อาจทำให้ราคาของตัวรถสูงขึ้นมาก ระบบเบรคแบบคาร์บอนเซรามิค และอุปกรณ์ใช้งานสำหรับรุ่น RS ต้องพิจารณาให้ดี
ระบบความปลอดภัย ★★★★
ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ และระบบครูสคอนทโรลแปรผันความเร็ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน ขณะที่ระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในเลนเป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้ง (ราคา 600 ยูโร)
พื้นที่ใช้สอย ★★★✩
รูปทรงของเสา ซี ที่ลาดเท ทำให้การขนสัมภาระทรงสูงมีข้อจำกัด รวมถึงผู้โดยสารด้านหลัง การขนสัมภาระไม่ใช่จุดเด่นของรถรุ่นนี้
พื้นที่เก็บสัมภาระ ★★★✩
ความจุระหว่าง 363-1,392 ลิตร ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการพับเบาะ ความอเนกประสงค์น่าพอใจมาก
ความสะดวกสบาย ★★★★
การโดยสารในรุ่น RS มีความสะดวกสบายดีมาก หากปรับโหมดการขับขี่แบบเน้นความสปอร์ท ระบบรองรับจะหนึบแน่นขึ้น และเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์จะมากขึ้น
เครื่องยนต์ ★★★★
ทรงพลัง ดุดัน เร้าใจ เมื่อกดคันเร่งอย่างหนักหน่วง อาการเทอร์โบแลกมีให้สัมผัสบ้าง มีผลต่อการขับขี่เช่นกัน หากปรับปรุงได้จะทำให้ขับขี่ได้เร้าใจยิ่งขึ้น
อัตราเร่ง ★★★★★
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที และทำอัตราเร่งได้อย่างต่อเนื่องในช่วงความเร็วสูง หนึ่งในความเร้าใจที่สุดของรถรุ่นนี้มีความดุดันไม่แพ้รถสปอร์ทพันธุ์แท้
อัตราเร่งยืดหยุ่น ★★✩
การตอบสนองอัตราเร่งทำได้ดีในส่วนนี้ หากกดคันเร่งสุด แต่ไม่ใช่ในช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3,500 รตน. เห็นได้จากช่วงความเร็ว 30-60 กม./ชม. ที่เกียร์ 3 ทำเวลาค่อนข้างช้าที่ 6.2 วินาที
ระบบส่งกำลัง ★★✩
การตอบสนองเมื่อกดคันเร่งสุด ยังไม่ทันใจมากนัก แม้เครื่องยนต์จะไต่รอบขึ้นมาแล้ว การเปลี่ยนจังหวะเกียร์สูงขึ้นทำได้ช้า และไม่แม่นยำนัก รหัสตัวแรง RS ควรทำได้ดีกว่านี้
การบังคับเลี้ยว ★★★★
ตอบสนองดี แต่ไม่เฉียบคมเท่ารถสปอร์ทขนานแท้ เราอยากให้การตอบสนองมีความฉับไวมากกว่านี้เพื่อความเหมาะสมของการเป็นรหัสตัวแรง RS
ระบบเบรค ★★★★✩
คุณภาพของระบบเบรคสมกับการเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงรหัส RS ระยะเบรคสั้นในแทบทุกสภาวะ ขณะที่การเบรคแบบต่อเนื่องระบบมีความทนทานดีมาก
ความคล่องแคล่ว ★★★★
มีความมั่นคงดีในทุกสภาวะการขับขี่ ตอบสนองฉับไว และขับสนุก ขณะขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ น้ำหนักโดยรวม และการถ่ายเทน้ำหนัก ส่งผลอย่างมาก การทำงานของระบบอีเอสพี รบกวนการขับขี่ในบางครั้ง
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ★★★
เครื่องยนต์แบบ 5 สูบเรียง ไม่โดดเด่นที่การประหยัดเชื้อเพลิง มีตัวเลขเฉลี่ยที่ 10 กม./ลิตร ในกรณีที่ผู้ขับไม่กดคันเร่งมากเกินไป
จุดแข็ง
สมรรถนะ - RS รุ่นนี้มีอัตราเร่งที่ฉับไว และทำอัตราเร่งได้อย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศโดยรวม - การผสมผสานอย่างลงตัวของความสปอร์ท หรูหรา และทันสมัย
จุดอ่อน
ระบบส่งกำลัง - การเปลี่ยนจังหวะเกียร์ลงมาค่อนข้างทำได้ช้า ต้องใช้เวลาประมวลผลนานเกินควร เมื่อขับในสนามแข่งการตอบสนองไม่ทันใจเท่าที่ควร
อัตราเร่งยืดหยุ่น - อาการเทอร์โบแลกค่อนข้างชัดเจน ทำให้การตอบสนองช้าลง