Quattroruote ลองของแรง
FERRARI F8 TRIBUTO
จุดเด่นแรกเห็นได้จากชื่อของรถรุ่นนี้ บ่งบอกจิตวิญญาณทั้งมวลของ FERRARI (แฟร์รารี) บ่งบอกถึงขุมพลังแบบ วี 8 สูบ บุคลิกที่ดุดันไม่เหมือนใคร พร้อมระเบิดสมรรถนะออกมาทุกเมื่อ ย้อนกลับไปในยุคกลางของปี 1970 คือ จุดเริ่มต้นของการพัฒนาสปอร์ทสายพันธุ์นี้ เครื่องยนต์แบบ 8 สูบ วางอยู่กลางลำ ด้านหลังผู้ขับ ในช่วงแรกของการถือกำเนิดอาจขัดใจผู้ขับบางคน จากแนวคิดที่ว่าม้าควรจะออกแรงดึง (นั่นคือ เครื่องยนต์วางด้านหน้า) มากกว่าการออกแรงดัน อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปร่วมครึ่งศตวรรษ แนวคิดดังกล่าวกลับได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เหตุผล คือ การขับขี่ที่เร้าใจ ตอบสนองฉับไว เป็นบุคลิกของรถสปอร์ทในอุดมคติในแบบฉบับของเครื่องยนต์สันดาป กาลเวลาผ่านไป แนวคิดใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นตามมา หนึ่งในนั้น คือ ขุมพลังแบบไฮบริดที่ถูกพัฒนาขึ้นมา (เห็นได้จากเครื่องยนต์ไฮบริดของรุ่น SF 90 STRADALE (เอสเอฟ 90 สตราดาเล) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน) ผลลัพธ์โดยรวมน่าพอใจมาก และเป็นอนาคตใหม่ของค่ายรถแห่งนี้โดยไม่ต้องสงสัย แต่ไม่ได้หมายความว่ารูปแบบดั้งเดิมจะถูกทดแทนเสียทั้งหมด เหมือนที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์แบบไร้ระบบอัดอากาศเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ หรือ หากย้อนกลับไปอีก คือ ระบบคาร์บูเรเตอร์ เอกลักษณ์ที่ถูกรักษามาช้านานของค่ายรถจากเมือง MARANELLO (มาราเนลโล) จะยังคงอยู่ต่อไป เราสังเกตเห็นว่าแนวคิดแต่ละรูปแบบถูกนำมาพัฒนา และผสมผสานกันอย่างลงตัว เป็นจุดกำเนิดของรถสปอร์ทยุคใหม่ มีการคำนึงถึงค่าไอเสียเช่นกัน และมีผลิตผล คือ รุ่น 458 ITALIA (458 อิตาลีอา) ตามมาด้วย 488 GTB (488 จีทีบี) โดยไม่ละทิ้งสมรรถนะแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี้ คือ การพัฒนาอย่างก้าวหน้า ทั้งในแง่ของการปรับปรุงจากสิ่งเดิม และการปฏิวัติสิ่งใหม่ๆ เข้ามา ลักษณะการออกแบบแนวหลังคา และประตูของตัวรถ มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่สัดส่วนโดยรวม และพื้นที่ห้องโดยสารยังไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่แนวคิดใหม่ๆ ยังคงถูกรังสรรค์ออกมาอย่างต่อเนื่องสำหรับค่าย FERRARI ทำให้รถรุ่นใหม่มีจุดเด่นที่น่าติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรูปแบบการส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างความคุ้นเคยในอดีต และรูปแบบใหม่ๆ สำหรับอนาคต สิ่งที่เห็นได้เป็นอย่างแรก คือ ไฟหน้าทรงกลม 4 ดวงที่ถูกถอดออกไปจากรุ่น 458 ITALIA และกระจกบานท้ายทรงเรียวในแนวนอน (เป็นการระลึกถึงรุ่น F40 เช่นกัน) ขณะเดียวกันมีสิ่งใหม่ๆ ถูกเสริมเข้ามาในรถยนต์แต่ละรุ่นของ FERRARI เช่นเดียวกับที่เห็นใน SF90 STRADALE รวมถึงสปอร์ทคูเปรุ่น ROMA (โรมา)
FERRARI F8 TRIBUTO
ราคา
- (ประมาณ 9,850,000 บาท ไม่รวมภาษี 236,000 ยูโร)
เครื่องยนต์
- เบนซิน เทอร์โบคู่ วี 8 สูบ
- 3,902 ซีซี
กำลังสูงสุด
- 720 แรงม้า
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
- จากทางผู้ผลิต 8.7 กม./ลิตร
อัตราการปล่อยไอเสีย
- จากทางผู้ผลิต 263 กรัม/กม.
จุดต้องติเล็กน้อย
แม้ว่ารถรุ่นนี้จะมีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมาย เช่น พละกำลังมหาศาลถึง 720 แรงม้า แต่ยังคงมีจุดต้องติให้เห็นเช่นกัน ในแง่ของการเป็น สปอร์ทคูเปแบบ จีที ตามแบบฉบับ F8 TRIBUTO (เอฟ 8 ตรีบูโต) มีการเข้าโค้งที่เฉียบคม และรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีด้วย เป็นสิ่งที่ผู้ขับยุคปัจจุบันต้องการ อย่างไรก็ตาม รูปทรงของเข็มขัดนิรภัยดูแปลกตา หากมองในแง่ของการเป็นรถสปอร์ทสมรรถนะสูงแบบ FERRARI ถือว่าไม่เหมาะสมเท่าใดนัก ขณะที่การออกแบบห้องโดยสารยังคงความคุ้นเคยดั้งเดิมเอาไว้ การออกแบบที่ยังรักษาเอกลักษณ์หลายส่วนเอาไว้ ช่องแอร์มีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ปุ่มใช้งานระบบปรับอากาศ และจอภาพขนาด 7 นิ้ว (อุปกรณ์เลือกติดตั้ง แต่ไม่มีในรถที่นำมาทดสอบ) และสุดท้าย คือ พวงมาลัยขนาดเล็ก เพื่อการหักเลี้ยวที่ฉับไว ช่วยให้การบังคับควบคุมมีความมั่นคงยิ่งขึ้น กระจกบานท้ายมีขนาดเล็ก มุมมองอาจแคบเล็กน้อย แม้จะถูกชดเชยด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศาก็ตาม ช่วยให้การจอดรถสะดวกสบายยิ่งขึ้น และระบบตรวจจับมุมอับสายตา แม้บางครั้งจะทำการเตือนค่อนข้างถี่เกินความจำเป็นก็ตาม ดังนี้แล้ว ในแง่ของการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันของ F8 TRIBUTO ทำได้ดีพอแล้ว แต่ควรจะเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ และระบบครูสคอนทโรลแปรผันความเร็ว รวมถึงการปรับปรุงระบบความบันเทิงซึ่งดูล้าสมัย นอกจากนี้ ควรมีการแสดงผลบนหน้าจอดิจิทอลขนาดเล็ก และการรองรับระบบ ANDROID AUTO แม้เอาเข้าจริง FERRARI จะรองรับระบบ APPLE CAR PLAY ได้เป็นค่ายแรกๆ ก็ตาม (แม้ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 3,050 ยูโร) แต่น่าจะคำนึงถึงลูกค้าที่ใช้มือถือระบบ ANDROID ด้วย
ความคลาสสิคที่ยังคงอยู่
หลังจากรายละเอียดของจุดต้องติเล็กๆ น้อยๆ กลับมาที่จุดเด่นของตัวรถ ต้องยอมรับว่า FERARI คือ ค่ายรถที่ออกแบบรถสปอร์ทได้อย่างลงตัว บ่งบอกถึงศิลปะการออกแบบ และการขับขี่เฉียบคม สามารถเข้าคู่กันได้ เสียงเครื่องยนต์ที่ทุ้มต่ำ เกิดขึ้นทันทีที่กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์สีแดงสด เครื่องยนต์ วี 8 สูบก็พร้อมทำงาน ซุ่มเสียงที่ผ่านชุดกรองไอเสียทำให้มีโทนเสียงที่ไม่เหมือนใคร สามารถได้ยินเด่นชัดจากภายนอกตัวรถมากกว่าจากภายในห้องโดยสาร ภายใต้ขุมพลังยังมีชุดเพลาลูกเบี้ยวทรงเรียบแบน ท่อไอเสียแบบไททาเนียม และความคุ้นเคยแบบคลาสสิคที่ถูกสืบทอดมาตลอด 70 ปี อาการเทอร์โบแลกไม่มีให้สัมผัส อัตราเร่งถูกปลดปล่อยออกมาทันทีทันใด ช่วงเกินกว่า 5,000 รตน. คือ ความเร้าใจระดับสุดยอด การขับขี่ดุดัน และไหลลื่นแม้ในช่วง 3,000 รตน. การเปลี่ยนจังหวะเกียร์ทำได้อย่างกระชับ ฉับไว ปราศจากเสียงรบกวน และจังหวะที่ติดขัดใดๆ เครื่องยนต์แบบ 8 สูบ สร้างสรรค์จุดเด่นดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยม การปลดปล่อยแรงบิดมีความเหมาะสมในแต่ละช่วงเกียร์ การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างไม่มีที่ติ ตามแบบฉบับของ FERRARI ซุ่มเสียงของเครื่องยนต์เป็นอีกจุดที่น่าพอใจ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของค่ายรถจากเมือง MARANELLO คือ การจำกัดรอบเครื่องยนต์สูงสุดเอาไว้ที่ 8,000 รตน. เท่านั้น สร้างความประหลาดใจเสมอมา
ทางเลือกที่หลากหลาย
ระบบรองรับถูกปรับแต่งให้ควบคุมได้อยู่มือ แต่อย่าได้ประมาทรถคันนี้ไป F8 TRIBUTO ยังคงเป็นรถสปอร์ทที่ต้องขับขี่อย่างตั้งใจ และใช้ทักษะการขับขี่พอสมควร โดยเฉพาะในเวลาที่ต้องการจะรีดสมรรถนะออกมาเต็มๆ และท้าทายตัวตนที่แท้จริงของรถรุ่นนี้ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในพริบตา การตอบสนองขณะขับขี่ต้องฉับไว และทันท่วงทีไม่แพ้กัน การขับขี่ที่ง่ายดายดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการบังคับควบคุมที่เที่ยงตรง และเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ตามแต่สถานการณ์ F8 TRIBUTO มีคุณลักษณะที่ถอดแบบจากรุ่น 488 PISTA มีการผสมผสานความนุ่มนวลอย่างเหมาะสม ควบคุมได้ดังใจ โดยไม่ลดทอนความเร้าใจของการขับขี่แม้แต่น้อย ผู้ขับสนุกกับการรีดสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง ตัวรถตอบสนองได้อย่างลงตัว การเข้าโค้งทำได้อย่างมั่นคง เป็นจุดเด่นของ F8 TRIBUTO ที่สืบทอดต่อมาจาก 488 GTB (488 จีทีบี) พูดง่ายๆ คือ นี่คือการพบกันของ 2 รูปแบบ เมื่อเทียบกับรุ่น PISTA (ปิสตา) อาการลื่นไถลเพียงเล็กน้อยของส่วนท้ายอยู่ในระดับที่รับได้ สามารถแก้อาการของตัวรถได้ไม่ยากเย็น นอกจากนี้ พวงมาลัยที่มีรูปทรงกระชับ ส่งผ่านแรงสั่นสะเทือน และแรงเหวี่ยงขณะบังคับควบคุมได้ชัดเจน ช่วยเสริมความเร้าใจได้อีกทาง เป็นอีกครั้งที่ส่วนผสมอันลงตัวอย่างน่าทึ่ง สามารถไปด้วยกันได้อย่างดี มีความแม่นยำ และฉับไว นอกจากนี้ยังมีระบบอีเลคทรอนิคที่พัฒนาอย่างลงตัว มีจังหวะการทำงานที่ไหลลื่น ไม่รบกวนการขับขี่ ช่วยให้การขับขี่ไหลลื่น และแก้ไขอาการของตัวรถได้ดีเช่นกัน จังหวะการทำงานของระบบช่วยเหลือการขับขี่ไม่ส่งผลต่อจังหวะการควบคุมของผู้ขับแม้แต่น้อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกโหมดการขับขี่จากระบบ MANETTINO ด้วย หากการขับขี่ไม่ดุดันเกินขีดจำกัด จะแสดงให้เห็นถึงทักษะการขับขี่ที่ดีของผู้ขับด้วย จุดนี้เองจะเป็นสิ่งบ่งบอกถึงความสามารถของผู้ขับ และประสิทธิภาพของ F8 TRIBUTO แม้ต้องใช้ความคุ้นเคยในช่วงแรก แต่เมื่อใดที่ผู้ขับพบจุดสมดุลของการขับขี่ได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่น โดยส่วนตัวแล้ว ทีมงานของเราชอบการขับขี่ในโหมดปิดระบบช่วยเหลือ แต่ FERRARI รุ่นนี้มีความแตกต่างจากรถยนต์หลายรุ่น การส่งกำลังร่วมกับระบบที่หลากหลาย มีความต่อเนื่อง และไม่เหมือนใคร การขับขี่ไม่ควรกระแทกกระทั้นมากเกินไป เนื่องจากตัวรถมีการตอบสนองที่รวดเร็วมากๆ ภายใต้สมรรถนะในระดับสุดยอด เท่าที่จะเทียบเคียงได้จากรถสปอร์ทระดับเดียวกัน ระบบป้องกันการลื่นไถลช่วยให้การควบคุมทิศทางทำได้ไม่ยากเย็น เมื่อกำลังจะเกิดอาการท้ายปัด การหักพวงมาลัยเพียงเล็กน้อยก็ช่วยได้ นอกเหนือจากนี้ ระบบของตัวรถจะช่วยแก้ไขในส่วนที่เหลือ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับการหลอมรวมอย่างลงตัวระหว่างผู้ขับ และความเฉียบคมของตัวรถ ผู้ขับสามารถคาดคะเนอาการของตัวรถได้อย่างแม่นยำ
การฟันธงของเรา
ขณะเข้าโค้ง คือ ความสนุก เร้าใจ อย่างแท้จริง ขณะที่การขับบนท้องถนนมีความมั่นคงดีมาก จุดต้องติเล็กๆ น้อยๆ สามารถมองข้ามไปได้สำหรับ FERRARI รุ่นนี้ ความเพลิดเพลินจากการขับขี่ไม่จำเป็นต้องรีดสมรรถนะออกมาทั้งหมด การขับขี่ในชีวิตประจำวันที่เน้นความสะดวกสบายก็แสดงให้เห็นถึงความลงตัวได้เช่นกัน ผู้ขับต้องมองภาพรวมในความเป็นจริง แม้สุดท้ายแล้ว แทบทุกคนย่อมถวิลหาความเร้าใจจากขุมพลังอันดุดัน การตอบสนองโดยรวมทำได้ยอดเยี่ยมในสภาพพื้นผิวถนนทั่วไปที่ไม่ได้เรียบสนิทเหมือนเส้นทางในสนามแข่ง อย่างที่เราบอกไปแล้วว่า F8 TRIBUTO มีคุณลักษณะของรถสปอร์ทสไตล์ GT (จีที) อย่างเต็มเปี่ยม จะเสริมการประหยัดเชื้อเพลิงด้วยปุ่มสตาร์ท/ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติก็ทำได้ แม้น้อยคนจะสนใจทำเช่นนั้น แต่เราอยากจะแนะนำให้ลองดู เพราะทุกครั้งที่ระบบนี้สตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นมาขณะจะออกตัวจากไฟแดง เสียงเครื่องยนต์ที่ถูกปลุกขึ้นมา มีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ
ระบบสมองกลอัจฉริยะ
การตอบสนองขณะขับขี่บนถนนของ F8 TRIBUTO ได้รับการช่วยเหลือจากระบบอีเลคทรอนิคต่างๆ โดยไม่ส่งผลต่อสมรรถนะของตัวรถ เริ่มด้วยระบบป้องกันการลื่นไถล มีติดตั้งครั้งแรกในรุ่น 458 ITALIA โดยในปัจจุบันเป็นเวอร์ชันที่ 6.1 แล้ว การทำงานของระบบต่างๆ จะถูกควบคุมจากตรงนี้ ระบบสามารถประเมินองศาของระบบรองรับ และประมวลผลร่วมกับการหักเลี้ยวพวงมาลัย ตลอดจนความเร็วที่ใช้ เพื่อรับรู้ว่าตัวรถมีโอกาสเกิดอาการหน้าดื้อ (อันเดอร์สเตียร์) หรือท้ายปัด (โอเวอร์สเตียร์) ตลอดจนความเร็วที่ใช้ ระบบดังกล่าวยังควบคุมการทำงานของระบบช่วย เหลืออื่นๆ เช่น ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ระบบควบคุมการส่งกำลังของชุดเฟืองท้าย ระบบควบคุมการตอบสนองของช่วงล่าง และระบบควบคุมแรงเบรค เป็นต้น
การควบคุมที่ง่ายดาย (หรือใกล้เคียง)
ระบบควบคุมการทำงานของเบรค พัฒนาโดยตรงจาก FERRARI เป็นหนึ่งในระบบที่ถูกควบคุมจากสมองกลส่วนกลาง และปรับแต่งได้จากโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงโหมด เรศ ช่วยตัวรถสามารถทำความเร็วออกจากโค้งได้ฉับไวยิ่งขึ้นร่วม 6 % และช่วยปรับแต่งให้การตอบสนองของพวงมาลัยมีความฉับไวขึ้น 30 % ช่วยให้บังคับควบคุมรถอยู่มือยิ่งขึ้น และเร้าใจยามทะยานในสนามแข่ง
หนึบแน่น หรือเน้น “ดริฟท์”
ความหนึบแน่นของระบบรองรับสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ขับ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยกว่าปกติ ดังนี้แล้ว ตัวรถสามารถมีการตอบสนองที่หนึบแน่น หรือจะผสมความนุ่มนวลที่เหมาะสม สามารถทำได้ทั้งนั้น
ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์
ระบบการไหลเวียนของอากาศเพื่อระบายความร้อนนำรูปแบบจากรุ่น 488 CHALLENGE และลดแรงต้านทานอากาศอย่างได้ผล ช่วยให้ระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังนำรูปแบบการจัดวางของระบบอินเตอร์คูเลอร์ และช่องรับอากาศมาใช้อีกด้วย หากอุณหภูมิภายนอกมีความเย็นอย่างเหมาะสม จะช่วยให้รีดสมรรถนะของตัวรถได้ดียิ่งขึ้น
ปิดการทำงานเมื่อต้องการเท่านั้น
ปุ่มใช้งานระบบช่วยเหลือการขับขี่สามารถปิด/เปิดระบบต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เริ่มตั้งแต่ ระบบป้องกันการลื่นไถล ควบคุมการทำงานของระบบช่วยเหลือ และยังตัดการส่งกำลังของเครื่องยนต์หากล้อเกิดอาการลื่นไถล ทำงานร่วมการการปรับแต่งต่างๆ ช่วยให้ตัวรถมีสมรรถนะดียิ่งขึ้น
แรงม้าเพิ่มขึ้น น้ำหนักดลง
เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 3.8 ลิตร วี 8 สูบ เป็นบลอคเดียวกับ เครื่องยนต์ 3.9 ลิตร เทอร์โบคู่ของรุ่น 488 รวมถึงบลอค 3.9 ลิตร ของร่น 488 PISTA การปรับปรุงหลายส่วนทำให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้น และมีน้ำหนักลดลงเมื่อเทียบกับรุ่น 488 GTB รวมถึงช่องรับอากาศ และระบบท่อไอเสีย ระบบวาล์ว และชุดสปริง ตลอดจนรายละเอียดอีกหลายส่วน ผลลัพธ์ คือ F8 TRIBUTO มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้น 50 แรงม้า และน้ำหนักโดยรวมลดลง 18 กก. เป็นผลดีจาการใช้ขายึดของระบบรองรับวัสดุ ไททาเนียม รวมถึงชุดอ่างน้ำมันเครื่อง และแผ่นจานคลัทช์แบบใหม่
มั่นคงในทางตรง
ระบบควบคุมการส่งกำลังของชุดเฟืองท้ายมีประโยชน์ไม่ใช่แค่การควบคุมอาการอันเดอร์สเตียร์ และโอเวอร์สเตียร์ขณะเข้าโค้งเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความมั่นคงขณะทะยานบนทางตรง ช่วยให้ตัวรถมีความสมดุล แม้จะมีการตอบสนองที่ฉับไว ตามปกติต้องใช้ความตั้งใจในการบังคับควบคุมมากๆ
อากาศพลศาสตร์ชั้นสูง
รถสปอร์ทรุ่นนี้ถูกออกแบบภายใต้หลักอากาศพลศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ จากองค์ประกอบต่างๆ ที่ถูกพฒนาขึ้นมารอบตัวถัง พื้นรถถูกทำเป็นทรงเรียบสนิท มีการติดตั้งช่องจัดเรียงอากาศด้านหน้า ทางขวาถัดไป เป็นช่องรับอากาศหลัก มีรูปแบบคล้ายรถแข่ง เอฟวัน ช่วยสร้างแรงกดด้านหน้าอย่างได้ผล
ข้อมูลจำเพาะ
เครื่องยนต์
- เบนซิน วางกลางลำ ด้านหลัง ตามยาว
- แบบ วี 8 สูบ (ทำมุม 90 องศา)
- กระบอกสูบ 86.5 มม.
- ช่วงชัก 83.0 มม.
- ความจุ 3,902 ซีซี
- กำลังสูงสุด 720 แรงม้า ที่ 7,000 รตน.
- แรงบิดสูงสุด 78.5 กก.-ม. ที่ 3,250 รตน.
- เสื้อสูบ และฝาสูบ ใช้วัสดุโลหะน้ำหนักเบา
- ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ ระบบวาล์วแปรผัน 4 วาล์วต่อลูกสูบ (สายพานโซ่)
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง เทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูเลอร์
- ชุดกรองไอเสีย 2 ชุด
ระบบส่งกำลัง
- ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
- เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
ยาง
- มิเชอแลง ไพลอท สปอร์ท คัพ 2 ด้านหน้า 245/35 ZR20 95Y ด้านหลัง 305/30 ZR20 103Y
- ชุดปะยาง
ลักษณะตัวถังรถ
- โครงสร้างวัสดุอลูมิเนียม คูเป 2 ประตู 2 ที่นั่ง
- ระบบรองรับด้านหน้าปีกนกคู่ 4 จุด คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบรองรับด้านหลังมัลทิลิงค์ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
- ชอคอับแบบไฮดรอลิค ควบคุมด้วยอีเลกทรอนิค
- จานเบรคแบบ คาร์บอน เซรามิค พร้อมช่องระบายอากาศ เอบีเอส อีเอสพี
- ระบบบังคับเลี้ยวฟันเฟือง และตัวหนอน ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- ถังน้ำมันความจุ 78 ลิตร
มิติตัวถัง และน้ำหนักโดยรวม
- ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
- ความกว้างฐานล้อคู่หน้า 1,680 มม. คู่หลัง 1,650 มม.
- ความยาว 4,610 มม. กว้าง 1,980 มม. สูง 1,210 มม.
- น้ำหนักโดยรวม 1,435 มม.
- พื้นที่เก็บสัมภาระ 200 ลิตร
ผลิตที่
- เมืองมาราเนลโล ประเทศอิตาลี
สมรรถนะตรงกลางระหว่าง 488 อีก 2 รุ่น
ความเป็นจริงที่เราได้พบเป็นครั้งแรก คือ นักทดสอบของเราสามารถทำเวลาต่อรอบสนามแข่งได้ดีที่สุด ขณะที่เปิดระบบช่วยเหลือต่างๆ ตามที่เห็นจากผลการทดสอบในส่วนต่างๆ จะพบว่าโหมดขับเคลื่อนของตัวรถจะปิดการทำงานระบบช่วยเหลือเพียงบางส่วน ต่างจากเดิมที่จะปิดระบบทั้งหมด ระบบอีเลกทรอนิคไม่เพียงแต่ช่วยเหลือไม่ให้เกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ (ที่ตามปกติอาจไม่ใช่ปัญหาใดๆ แม้แต่น้อย) และยังช่วยลดอาการอันเดอร์สเตียร์อีกด้วย การควบคุมทิศทางด้วยทักษะที่แม่นยำ ช่วยให้การเข้าโค้งทำได้อย่างเฉียบคมยิ่งขึ้น ทั้งขณะที่เข้าโค้ง และขณะอยู่ในโค้ง เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบเบรค มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบมีความดุดันตั้งแต่ช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ และทรงพลังเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงขึ้น อัตราเร่งถูกปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ชุดเกียร์มีความหนักแน่น เป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถรุ่นนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ระบบเกียร์ของ GETRAG แบบคลัทช์คู่ ยังคงความยอดเยี่ยมได้ดีเสมอมาในแง่ของการรองรับอัตราเร่ง และการเปลี่ยนจังหวะอันฉับไวตลอดทั้ง 7 จังหวะ ระบบเบรคแบบคาร์บอน เซรามิคประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเช่นกัน แป้นเหยียบมีความหนักแน่น ระยะเหยียบสั้นมากๆ สามารถออกแรงเบรคได้เต็มแรงภายในระยะเวลาอันสั้น
20 ปีของการทดสอบบนสนามแข่ง VAIRANO กับ FERRARI
FERRARI 360 MODENA | เดือนพฤษภาคม ปี 1999 | 1:21.490 นาที |
FERRARI 360 CHALLENGE STRADALE | เดือนมิถุนายน ปี 2004 | 1:21.019 นาที |
FERRARI F430 F1 | เดือนกรกฎาคม ปี 2006 | 1:17.373 นาที |
FERRARI F430 SCUDERIA | เดือนมิถุนายน ปี 2008 | 1:15.169 นาที |
FERRARI 458 ITALIA | เดือนพฤษภาคม ปี 2010 | 1:15.146 นาที |
FERRARI 458 SPECIALE | เดือนพฤษภาคม ปี 2014 | 1:12.449 นาที |
FERRARI 488 GTB | เดือนพฤษภาคม ปี 2016 | 1:11.519 นาที |
FERRARI 488 PISTA | เดือนพฤษภาคม ปี 2019 | 1:09.432 นาที |
ข้อมูลจากการทดสอบสมรรถนะหัวข้อต่างๆ
การประเมินผลของ QUATTRORUOTE
เบาะผู้ขับ
รูปทรงของเบาะมีความลงตัว เหมาะสำหรับการขับแบบเน้นสมรรถนะ พวงมาลัยแนวตั้งตรง แป้นเหยียบมีตำแหน่งเหมาะสม โอบกระชับสรีระได้ดีมาก โดยเฉพาะเบาะนั่งแบบเรซิง ที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์
คอนโซลหน้า และปุ่มใช้งาน
ปุ่มใช้งานสำหรับการขับขี่จะถูกติดตั้งบนพวงมาลัยทั้งหมด และใช้งานได้โดยไม่ละมือออกมา ปุ่มใช้งานที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนถูกติดตั้งบริเวณด้านข้างของแผงมาตรวัด
อุปกรณ์ใช้งานต่างๆ
อุปกรณ์โดยรวมไม่ต่างจาก 488 GTB ชุดมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ ติดตั้งตรงกลาง (ขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยว ใชงานผ่านปุ่มบนคอพวงมาลัย) จอภาพ 2 จอ สีสันคมชัด แต่จัดเรียงรายการใช้งานค่อนข้างยาก
ระบบความบันเทิง
อาจไม่ใช่จุดเด่นของ F8 TRIBUTO รูปแบบการใช้งานไม่ชัดเจนเท่าใดนัก และหน้าจอที่มีขนาดเล็กเกินควร (ทางฝั่งขวาของมาตรวัด) ทำให้การใช้งานมีความยุ่งยากเกินจำเป็นในบางครั้ง
ระบบปรับอากาศ
ระบบปรับอากาศแบบแยก 2 โซน ขนาดช่องแอร์พอเหมาะ หน้าที่หลัก คือ การลดความร้อนที่ส่งผ่านมาจากห้องเครื่องยนต์ด้วย
ทัศนวิสัย
ทัศนวิสัยชัดเจนขณะขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ และยังเหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน กล้องมองภาพรอบรถ 360 องศา ช่วยให้การถอยจอดสะดวกสบายขึ้นมาก
คุณภาพการประกอบ
รูปแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกอบขึ้นมาจากงานฝีมือ ให้บรรยากาศที่หรูหรา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดต้องติในคุณภาพการประกอบแทบหาไม่เจอ
ออพชันต่างๆ
เป็นเรื่องธรรมดาของรถยนต์ระดับนี้ บรรดารายการของอุปกรณ์เลือกติดตั้งมียาวเหยียด มีอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาจากโรงงานส่วนหนึ่ง แต่ที่เหลือ ลูกค้าสามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ และงบประมาณ
ระบบความปลอดภัย
รายการระบบความปลอดภัยมีไม่มากนัก รบบควบคุมความเร็วแบบไม่แปรผัน (ทั้งที่มีติดตั้งในรุ่นก่อนหน้านี้) แต่มีระบบตรวจจับมุมอับสายตา บางครั้งมีการทำงานที่ถี่เกินไป
พื้นที่ใช้สอย
เป็นจุดที่ผู้ขับรถสปอร์ทระดับนี้ต้องเข้าใจ กับพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างจำกัด พื้นที่เพียงพอสำหรับเบาะคู่หน้าที่โอบกระชับสรีระได้ดี การขึ้นไปนั่งต้องใช้องศา และจังหวะที่เหมาะสม บานประตูเปิดได้กว้าง แต่ตัวรถมีความสูงที่น้อยมาก การขึ้น/ลงอาจลำบากเล็กน้อย
ที่เก็บสัมภาระ
การออกแบบช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ไม่ส่งผลต่อพื้นที่เก็บสัมภาระ ยังคงใกล้เคียงกับรุ่น 488 GTB ซึ่งถือว่าน่าพอใจสำหรับรถสปอร์ทระดับนี้ พื้นที่ด้านหลังเบาะคู่หน้ามีค่อนข้างจำกัด แต่ใช้เก็บของขนาดไม่ใหญ่ได้
ความสะดวกสบาย
ความสะดวกสบายทำได้ดีเกินคาด (คุณลักษณะหลายประการถูกนำมาใช้ตั้งแต่รุ่น 488 GTB และรวมถึงรุ่น 458 ITALIA) ระบบรองรับดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เสียงรบกวนค่อนข้างมาก หากผู้ขับทำใจรับไม่ได้ คงต้องหารถประเภทอื่นมาขับแทน
เครื่องยนต์
หัวใจสำคัญของรถรุ่นนี้อยู่ที่ขุมพลัง การตอบสนองทำได้ฉับไว รวดเร็วในทุกช่วงความเร็ว ช่วงรอบเครื่องยนต์มากกว่า 5,000 รตน. จะสำแดงสมรรถนะออกมาเต็มที่ จนถึงช่วง 8,000 รตน. ไร้อาการเทอร์โบแลกโดยสิ้นเชิง
อัตราเร่ง
เครื่องยนต์บลอคเดียวกับ 488 PISTA อัตราเร่งจึงอยู่ในระดับเดียวกัน F8 TRIBUTO มีตัวเลขที่ใกล้เคียงกันมากแทบทุกช่วงความเร็ว ระบบอีเลคทรอนิคช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น
อัตราเร่งยืดหยุ่น
ผู้ขับที่ต้องการพิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วยการกดคันเร่งสุดทันทีทันใดจะได้สัมผัสความเร้าใจเต็มที่ เข็มบนมาตรวัดความเร็วตวัดขึ้นในพริบตา และมีบุคลิกที่สุดเร้าใจ
ระบบส่งกำลัง
การเปลี่ยนจังหวะเกียร์มีความหนักแน่น และรวดเร็วมาก อัตราทดเกียร์ที่ชิดในช่วงความเร็วต่ำทำได้อย่างลงตัว และปลดปล่อยซุ่มเสียงในแบบฉบับเครื่องยนต์ วี 8 สูบ
การบังคับเลี้ยว
ประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจจากเครื่องยนต์วางกลางลำ แบบ วี 8 สูบ จากรถสปอร์ทยุคใหม่ แม่นยำ และรวดเร็วกว่าคู่แข่งรายไหน ให้ความรู้สึกมั่นคง ส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องด้วย
ระบบเบรค
จานเบรคแบบคาร์บอนเซรามิค หน่วงความเร็วได้อย่างหนักแน่นทุกสภาวะ และไม่มีอาการล้าให้สัมผัส แม้ขับในสนามแข่งหลายรอบ มีความสมดุลในระดับสุดยอด และแข็งแรงทนทาน แป้นเหยียบให้ความรู้สึกหนักแน่น
ความคล่องแคล่ว
มีการปรับปรุงระบบรองรับจาก 488 GTB และนำจุดเด่นของรุ่น 488 PISTA เสริมเข้ามา แต่ในระดับที่ไม่สุดโต่งเกินไป สุดท้ายแล้ว เป็นการผสมผสานระหว่างการขับขี่ที่ควบคุมง่ายดาย และสมรรถนะที่ร้อนแรงราวกับรถแข่งพันธุ์แท้
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
เป็นเรื่องปกติที่รถสปอร์ทแบบนี้จะมีการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูง แม้ผู้ขับจะกดคันเร่งอย่างแผ่วเบา อัตราสิ้นเปลืองอาจดีขึ้นบ้าง (แต่ยังไม่ถึงกับประหยัดมากมาย) หากเป็นผู้ขับเท้าหนัก อาจต้องเสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นอย่างแน่นอน และยังพาลทำให้เสียอรรถรสการขับขี่กับ F8 TIBUTO รุ่นนี้
จุดแข็ง
- การขับขี่บนท้องถนน ระบบรองรับถูกพัฒนาให้ดีขึ้น และระบบช่วยเหลือที่ทันสมัย ทำให้การขับขี่แบบเน้นสมรรถนะสามารถปลดปล่อยพละกำลังออกมาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
- เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง เอกลักษณ์ดั้งเดิม คือ ความดุดัน ผสมผสานประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของรุ่นล่าสุด ผลลัพธ์ คือ ความเร้าใจในระดับสุดยอด
จุดอ่อน
- ระบบความบันเทิง ควรปรับปรุงในแง่ของความทันสมัย และการใช้งานที่สะดวกสบายมากกว่านี้ เพื่อสมกับการเป็นรถสปอร์ทสไตล์ GT ยุคใหม่ของ F8 TRIBUTO
- ระบบความปลอดภัย แม้ระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยจะมีติดตั้งมาให้บางรายการ แต่รถสปอร์ทรุ่นนี้ควรเสริมจำนวนระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยมากกว่านี้