ธุรกิจ
GWM จัดงาน “GWM Diesel Tech Night”
GWM Thailand ยกระดับแนวคิด "ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains)" เผยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ล่าสุดแบบเจาะลึก ในงาน “GWM Diesel Tech Night” พิสูจน์ที่มาของความสำเร็จของ New GWM Tank 300 Diesel (แทงค์ 300 ดีเซล) ในประเทศไทย
เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า GWM Diesel Tech Night ไม่ใช่แค่งานเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นเวทีที่เราตั้งใจจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้เห็นถึงความมุ่งมั่นเบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยีดีเซลของ GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา เราทราบดีว่าการจะพาแบรนด์สัญชาติจีนไปสู่ระดับโลกนั้นไม่ใช่เรื่องของกระแส หรือโชคชะตา แต่คือ การเดินหน้าด้วยแนวคิดระยะยาว และการลงทุนในนวัตกรรมที่ GWM มุ่งมั่นเสมอมา รวมถึงการที่ GWM ยังเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องของการอวดโชว์ แต่คือ ความสามารถในการแก้ปัญหาให้ผู้ใช้ได้จริง เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันล่าสุดของ GWM นี้ คือ ผลลัพธ์ของหลักการนั้น เพราะเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน ควบคุมมลพิษ และเสียงรบกวนได้ดี พร้อมลุยทุกสภาพแวดล้อม
หนึ่งในที่มาของความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ New GWM Tank 300 Diesel ในไทย คือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T รุ่นล่าสุด ที่พัฒนาตลอดระยะเวลามาอย่างยาวนาน GWM พัฒนาเครื่องยนต์กว่า 50 รุ่น ครอบคลุม 6 พแลทฟอร์มหลัก วางจำหน่ายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลัง และพแลทฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ เผย 5 จุดเด่นของนวัตกรรมเครื่องยนต์ 2.4T ที่สร้างความสำเร็จทั้งในไทยทและระดับโลก โดยกว่า 20 ปีที่ GWM ทุ่มเททรัพยากรในการวิจัย และพัฒนา เพื่อสร้างขุมพลังที่ไม่ใช่แค่ "แรง" แต่ต้อง "ล้ำหน้า" และ "ยั่งยืน"
GWM เชื่อว่า ระบบส่งกำลังไม่ใช่เพียงแค่หัวใจของรถยนต์ แต่คือ แก่นแท้ของประสบการณ์การขับขี่ในอนาคต เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T รุ่นล่าสุดใน New GWM Tank 300 Diesel คือ ผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นนั้น ที่ผสานเทคโนโลยีเทอร์โบอัจฉริยะ ระบบควบคุมอุณหภูมิขั้นสูง และการออกแบบที่ผ่านการทดสอบอย่างยาวนานทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ถึงสมรรถนะ ความประหยัด ความเงียบ นิ่งนุ่มนวล และความทนทานในทุกเส้นทาง
5 จุดเด่นของนวัตกรรมเครื่องยนต์ 2.4T ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรุ่นนี้ ทั้งในไทย และระดับโลก ประกอบด้วย
1. การทดสอบสุดโหดรวมระยะทางกว่า 6 ล้านกิโลเมตร เพื่อยืนยันความทนทานในทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะในภูมิอากาศร้อนอย่างประเทศไทย มาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูง เช่น พัดลมกำลังสูง 850 วัตต์ และระบบควบคุมอุณหภูมิ Off-Road Thermal Management Mode เทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิแบบใหม่ครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ช่วยป้องกันความร้อนสะสม และเพิ่มเสถียรภาพของเครื่องยนต์ เพิ่มระยะเวลาการทำงานต่อเนื่องได้มากขึ้นถึง 30 % ผ่านการทดสอบอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การทดสอบสภาวะชอคจากความร้อน (Thermal Shock) นานถึง 300 ชั่วโมง การทดสอบการทำงานเต็มกำลัง และรอบสูงสุด (Full-Speed, Full-Load) นานถึง 500 ชั่วโมง การทดสอบการรับโหลดสลับไป-มา (Alternating Load) นานถึง 650 ชั่วโมง รวมถึงการทดสอบบนสภาพถนน 76 รูปแบบ และในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันสุดขั้วจากทั่วโลก รวมระยะทางการทดสอบมากถึง 6 ล้านกิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับการขับรถรอบโลกถึง 150 รอบ พร้อมการรับประกันแบบไร้กังวลนานถึง 8 ปี หรือ 1,000,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ
2. เทอร์โบชาร์เจอร์อัจฉริยะควบคุมด้วยสมองกลอีเลคทรอนิคส์ หนึ่งในความลับสำคัญของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T นี้ คือ “เทอร์โบชาร์เจอร์” เทอร์โบอัจฉริยะ และมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับ “สมองกล” แอคทูเอเตอร์แบบอีเลคทรอนิคส์ สามารถปรับทิศทาง และปริมาณการไหลของอากาศภายในระบบเทอร์โบได้อย่างชาญฉลาด โดยตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของรอบเครื่องยนต์ และตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเหยียบคันเร่งเบาๆ หรือต้องการพลังแบบรวดเร็วทันใจ ระบบนี้จะส่งแรงขับทันที ทำให้หมดปัญหาอาการหน่วงของเทอร์โบแบบเดิมๆ นอกจากนี้ GWM ยังได้ออกแบบใบพัดเทอร์โบ และช่องทางไหลเวียนอากาศใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการอัดอากาศเพิ่มขึ้นประมาณ 20 % อากาศสามารถไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างแม่นยำ และสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้การผสมกับเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพสูงสุด ปลดปล่อยพลังได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรอบต่ำ สมรรถนะยังคงทรงพลัง และมั่นคง โดยให้แรงบิดเพิ่มขึ้นถึง 30 % แม้เพียงแค่ 1,000 รตน. ก็สามารถปล่อยแรงบิดสูงถึง 260 นิวทันเมตร
3. ฝ่าทุกสภาวะถนนได้อย่างมั่นใจตลอดทั้งเส้นทาง ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9AT) ที่ออกแบบด้วยอัตราทดเกียร์ต่ำ และช่วงเกียร์กว้าง มอบการขับขี่ที่ราบรื่น (อัตราทดเกียร์ที่ 1 อยู่ที่ 5.288) จับคู่กับแรงบิดสูงสุด 480 นิวทันเมตร จากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T มอบการส่งกำลังต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังขับที่ไม่เพียงพอ มั่นใจแม้ขับบนถนนลื่น หรือพื้นทราย โดยไม่รู้สึกถึงแรงหน่วง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างราบรื่น และผ่อนคลายยิ่งขึ้น
4. แรงจัด ประหยัดจริง พร้อมการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ! ด้วยการปฏิวัติเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยระบบคอมมอนเรล เจเนอเรชันใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T มาพร้อมกับ ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบอีเลคทรอนิคส์ สามารถควบคุมจังหวะ ปริมาณ และแรงดันของการฉีดเชื้อเพลิงอย่างแม่นยำ เพื่อให้เครื่องยนต์คงประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้ทุกสภาวะการทำงาน และระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงในตัวที่ระดับสูงถึง 2,000 บาร์ ทำให้เชื้อเพลิงถูกทำให้เป็นละอองละเอียดสูง อีกทั้งระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงยังทำงานร่วมกับหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูงที่สามารถฉีดได้หลายครั้งในรอบเดียว ด้วยความเร็วสูงในการฉีดนี้ ทำให้เชื้อเพลิงถูกแบ่งออกเป็นหยดเล็กละเอียด ทำให้เกิดการผสมระหว่างเชื้อเพลิงกับอากาศที่สม่ำเสมอ และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเชื้อเพลิงถูกเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ มลพิษที่เกิดจากไอเสียของเครื่องยนต์จึงลดลง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ GWM ยังใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบปรับอัตราการไหลได้ (Variable Displacement Oil Pump) ที่ปรับปริมาณการไหลของน้ำมันให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานของเครื่องยนต์แบบเรียลไทม์ เมื่อขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ปั๊มจะส่งน้ำมันไปหล่อลื่นอย่างพอเหมาะในแต่ละจุด และเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง ปั๊มจะผ่อนกำลังเพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากการทำงานของปั๊มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. เทคโนโลยีความเงียบระดับพรีเมียม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น GWM ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร กับ “7 นวัตกรรมแห่งความเงียบ” อาทิ การออกแบบลดแรงสั่นสะเทือนของท่อเชื้อเพลิงแรงดันสูง การวางตำแหน่งสายพาน และรอกให้รักษาแรงตึง และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับแต่งรูปแบบการสั่น (Modal Tuning) เพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือนจากคลื่นความถี่ซ้อนทับกัน การใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบเฟืองโซ่ที่อยู่ภายในเครื่อง การใช้เพลาลูกเบี้ยวแบบขนานพร้อมเฟืองพิเศษลดเสียงกระแทกของกลไกภายใน การติดตั้งเฟืองเพลาสมดุล (Balance Shaft) ไว้ด้านท้ายของเพลาข้อเหวี่ยง หรือแม้แต่การใช้วัสดุดูดซับเสียงรอบระบบเชื้อเพลิง นอกจากนี้ GWM ยังลงทุนกว่า 150 ล้านบาทในประเทศจีน เพื่อสร้างห้องทดสอบเสียงแบบ 4 ล้อ และห้องกึ่งไร้เสียงสะท้อน (Half-Anechoic Chambers) รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ได้ผ่านการทดสอบ NVH อย่างครอบคลุมกว่า 10 รายการ ทั้งในระดับชิ้นส่วน และทั้งคัน การใช้ห้องทดสอบนี้ ทำให้สามารถตรวจสอบความเงียบได้แบบรอบด้าน และทำให้ระดับความเงียบของรุ่นดีเซลใกล้เคียงกับรถเครื่องยนต์เบนซิน
พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัว “Tanker Club” ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการประกาศจุดเริ่มต้นของคอมมูนิทีผู้ใช้งาน GWM Tank ในไทย ภายใต้แนวคิดสำคัญในการสร้างพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างกิจกรรม ความผูกพัน และแรงบันดาลใจของผู้ใช้งานจริง หรือเหล่า “Tanker” ทั่วประเทศ ซึ่ง Tanker Club จะดำเนินการโดยผู้ใช้จริง และทำเพื่อผู้ใช้จริงเท่านั้น โดย GWM Thailand จะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนการทำกิจกรรมของคลับเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนการจัดกิจกรรม การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ หรือการเป็นสะพานเชื่อมสู่โอกาสในการร่วมกิจกรรมกับ Tanker Club ประเทศอื่นๆ
หรือการร่วมกิจกรรมระดับโลกของ GWM การก่อตั้งคอมมูนิที Tanker Club นี้ ตั้งอยู่บนวัฒนธรรม และความเชื่อ รวมถึงจิตวิญญาณของผู้ใช้งาน GWM Tank หรือ Tanker Spirit ที่สะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบเหมือนใคร (Independent) เปี่ยมไปด้วยความรัก (Love) รักอิสระ (Freedom) รักการผจญภัย (adventurous) แอคทีฟ และมีพลังเต็มเปี่ยมที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ (Active & Passionate) และที่สำคัญที่สุด คือ มีจิตใจที่พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น (Good at Heart)
เวยน์ โจว กรรมการผู้จัดการ GWM Thailand กล่าวเสริมว่า ผมขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของ New GWM Tank 300 Diesel ที่ได้ส่งมอบไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน และจะส่งมอบครบ 2,000 คัน ภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยประเทศไทย คือ ศูนย์กลางสำคัญของ GWM ในภูมิภาคพวงมาลัยขวา และเรายืนยันเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง และต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “In Thailand, For Thailand” โดยเรามีความเชื่อว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนหลากหลายรูปแบบ (Multiple Powertrains) คือ ทางออกที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากพื้นฐานของตลาดในประเทศไทยยังคงอยู่ที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และดีเซล ซึ่งมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีส่วนช่วยสร้าง GDP ถึง 12 %
ล่าสุดกับ New GWM Tank 300 Diesel ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้เหมาะสำหรับคนไทย ถนนเมืองไทย ทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบช่วงล่าง เกียร์ และเครื่องยนต์ เรามั่นใจว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่นี้ คือ ความลงตัวระหว่างสมรรถนะความเงียบ และความประหยัด เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ดีเซลในไทย ขอบคุณทุกท่านที่ให้การตอบรับอย่างอบอุ่น และขอต้อนรับพี่น้องชาว Tanker ในไทย เข้าสู่ GWM Family อย่างเป็นทางการ เราจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งมอบบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อเพิ่มคุณค่าให้แก่ลูกค้า พาร์ทเนอร์ และสังคมไทยในระยะยาว
