ธุรกิจ
GWM ลงทุนกว่า 2,300 ล้านบาท คิดค้นระบบอัจฉริยะ และนวัตกรรม

GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users) ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ “ศูนย์ทดสอบความปลอดภัย” หรือ “GWM Safety Lab” ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ณ เมืองเป่าติ้ง ประเทศจีน ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 500 ล้านหยวน หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลักที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโยลี และนวัตกรรมสุดล้ำหน้าร่วมกับระบบทดสอบความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่ 1.) พื้นที่ทดสอบแบทเตอรีในรถยนต์พลังงานใหม่ด้วยระบบ “Firewall” สุดอัจฉริยะ 2.) กองทัพหุ่นทดสอบการชนเสมือนมนุษย์ มูลค่ากว่า 454 ล้านบาท และ 3.) นวัตกรรมในระบบลากทดสอบความเร็วสูง (Towing System) ที่ GWM คิดค้นขึ้นเอง พร้อมสิทธิบัตรระดับชาติ 11 รายการ โดยความล้ำหน้าและความอัจฉริยะที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการทดสอบความปลอดภัยใน GWM Safety Lab นี้ พิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของการพัฒนารถยนต์ของ GWM ที่เน้น และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกๆ โดยรถยนต์ของ GWM ทุกรุ่น ได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับสากล ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของวงการยานยนต์ระดับโลกให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นจากรถยนต์ GWM แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก
แจ็ค เว่ย ผู้ก่อตั้งบริษัท GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) กล่าวว่า การผลิตรถยนต์เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ไม่มีทางลัด และความปลอดภัย ต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ ด้วยแนวคิดนี้ GWM ได้จัดตั้งศูนย์ทดสอบความปลอดภัย GWM Safety Lab พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องร่วมกับทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก โดยในปี 2567 GWM ได้ลงทุนด้านการวิจัย และพัฒนาคิดเป็นมูลค่ากว่า 51,000 ล้านบาท หรือประมาณ 5.2 % ของรายได้ทั้งหมด สะท้อนแนวคิดได้อย่างชัดเจนว่า GWM ไม่ได้เพียงแค่ “ผลิตรถยนต์” แต่กำลัง “ปกป้องชีวิต” ผ่านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยยืนหยัด และต่อต้านการลดทอนคุณภาพเพื่อผลประโยชน์ในระยะสั้น และมุ่งสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ที่ผู้บริโภค และอุตสาหกรรมสามารถไว้วางใจได้ อาทิ GWM Wey 80 รถยนต์ MPV รุ่นเรือธง ที่ออกแบบให้ผู้โดยสารทั้ง 3 แถวได้รับการปกป้องได้อย่างเท่าเทียม ร่วมกับถุงลมนิรภัยด้านข้างที่สามารถรักษาแรงดันได้นานถึง 6 วินาที เพิ่มโอกาสในการปกป้องทุกชีวิตภายในรถในทุกสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้เป็นอย่างดี
ศูนย์ทดสอบความปลอดภัย GWM Safety Lab นี้ มาพร้อมกับระบบ Five-Zone และ Eight-Track ที่ประกอบด้วยพื้นที่ทดสอบแรงปะทะ 5 โซน และรางดึงขนาดเล็ก 8 เส้นทาง รองรับการทดสอบการชนของรถยนต์ทั้งความเร็วสูง และต่ำสูงสุดถึง 3 ครั้ง/ประเภทในแต่ละวัน และสามารถทดสอบได้มากถึง 1,500 ครั้ง/ปี นอกจากนี้ ยังสามารถจำลองสถานการณ์การชนที่มีความซับซ้อนได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การชนจากด้านข้างตามมาตรฐานสากล การชนแบบ OMDB (Offset Moving Deformable Barrier) ที่ใช้ความเร็ว 90 กม./ชม. ตามข้อกำหนดใหม่ในอเมริกาเหนือ รวมถึงการชนจากด้านหน้าในมุม และระดับความเร็วที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบการพลิกคว่ำในรูปแบบต่างๆ เช่น การพลิกคว่ำแบบหมุน การพลิกคว่ำจากการกระแทกขอบถนน การพลิกคว่ำจากการตกหลุมทราย และการตกจากเนินลาด นับว่าเป็นศูนย์ทดสอบความปลอดภัยที่ครบครัน และสมบูรณ์แบบที่สุด ครอบคลุมทุกสถานการณ์บนท้องถนนอย่างแท้จริง
พื้นที่ทดสอบรถยนต์พลังงานใหม่แห่งอนาคต กับระบบ “Firewall” สุดอัจฉริยะ ควบคุมความปลอดภัยของแบทเตอรีขั้นสูงสุด
โซนทดสอบเฉพาะสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยระบบติดตามสภาพแบทเตอรีหลังการชนแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชม. พร้อมติดตั้งระบบดับเพลิงอัจฉริยะที่ตอบสนองทันทีเมื่อพบความผิดปกติ โดยตัวรถจะถูกนำลงบ่อน้ำลึก 1.2 ม. ภายใน 30 วินาที เพื่อระบายความร้อน และลดความเสี่ยงจากแบทเตอรีระบบความปลอดภัยจะทำงานโดยอัตโนมัติทันที ทั้งการปิดประตูกันไฟ เปิดช่องระบายอากาศ เปิดไฟส่องสว่าง และฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อควบคุมสถานการณ์ นอกจากนี้ ตัวรถยังสามารถส่งข้อมูลได้แม้อยู่ใต้น้ำ ช่วยให้นักวิจัยสามารถรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ เพื่อใช้ในการพัฒนา และต่อยอดระบบป้องกัน “Firewall” ไปสู่รถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ GWM ในอนาคต
กองทัพหุ่นทดสอบเสมือนมนุษย์ มูลค่ากว่า 454 ล้านบาท ผู้พิทักษ์ความปลอดภัยในทุกการชน
หัวใจสำคัญของศูนย์ทดสอบความปลอดภัยแห่งนี้ คือ “กองทัพหุ่นทดสอบ” ที่มีมูลค่ารวมกว่า 454 ล้านบาท โดยประกอบด้วยหุ่นทดสอบสมรรถนะขั้นสูง เช่น Thor Dummy ที่มีมูลค่าสูงกว่า 45 ล้านบาท/หน่วย และหุ่น WorldSID ซึ่งใช้สำหรับทดสอบแรงกระแทกจากด้านข้าง โดยมีมูลค่ากว่า 36 ล้านบาท/หน่วย หุ่นแต่ละตัวได้รับการออกแบบให้มีลักษณะใกล้เคียงกับสรีระของมนุษย์มากที่สุด ทั้งโครงกระดูก ผิวหนัง และกล้ามเนื้อ พร้อมติดตั้งเซนเซอร์ภายในจำนวนมาก เพื่อเก็บข้อมูลการทดสอบอย่างละเอียด และแม่นยำ โดยหุ่นเหล่านี้จะถูกถอดประกอบ และปรับเทียบใหม่ทุก 5 ครั้งที่ใช้งาน เพื่อคงมาตรฐานสูงสุดด้านความแม่นยำ ปัจจุบัน GWM มีหุ่นทดสอบทั้งหมด 34 ตัว ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ทีมผู้พิทักษ์ชีวิต” ที่มีบทบาทสำคัญในการวิจัย และพัฒนาระบบความปลอดภัยจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก้าวล้ำด้วยนวัตกรรมที่ GWM คิดค้นเอง พร้อมสิทธิบัตรระดับชาติ 11 รายการ
ระบบลากทดสอบความเร็วสูง (Towing System) ภายใน GWM Safety Lab นี้ เป็นผลงานการพัฒนาของทีมวิจัย GWM โดยเฉพาะ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กม./ชม. และได้รับการจดสิทธิบัตรในระดับประเทศแล้วถึง 11 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ การพัฒนาซอฟท์แวร์ ไปจนถึงการควบคุมระบบแบบครบวงจร อีกไฮไลท์ของศูนย์ฯ คือพื้นที่โซนตรงกลางที่ติดตั้งบ่อกระจกนิรภัยหนาพิเศษขนาด 110 มม. พร้อมกล้องความเร็วสูง เพื่อบันทึกภาพการเปลี่ยนแปลงใต้ท้องรถขณะเกิดการชนได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบการเสียรูปของโครงสร้างรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ นับว่าเป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
บทความแนะนำ