ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ระบบช่วยการขับขี่ระดับ 3 ถูกนำมาใช้ในรถหลายแบรนด์ทั้ง Tesla (เทสลา), GM (จีเอม), Ford (ฟอร์ด), Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) และแม้แต่ Genesis (เจเนซิส) ในปัจจุบันค่าย Stellantis ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ได้พัฒนาระบบนี้ โดยเรียกว่าระบบ STLA AutoDrive 1.0 (L3) ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องจับพวงมาลัยในขณะเดินทาง พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถละสายตาจากถนนได้ แต่ยังสามารถใช้งานได้ในระดับความเร็วต่ำ
ระบบ AutoDrive เวอร์ชันแรก เป็นระบบช่วยการขับขี่ระดับ 3 ที่สามารถช่วยการขับขี่ โดยไม่ต้องจับพวงมาลัย และละสายตาจากถนนได้ โดยใช้ระดับความเร็วไม่เกิน 37 ไมล์/ชม. หรือ 60 กม./ชม. ซึ่ง Stellantis แจ้งว่าอีกไม่นาน บริษัทฯ จะอัพเดทระบบให้สามารถใช้งานได้ในระดับความเร็ว 60 ไมล์/ชม. หรือ 96 กม./ชม. ทั้งยังใช้งานในสภาพทุรกันดารได้ อย่างไรก็ตาม Stellantis ไม่ได้ส่งเสริมให้ผู้ขับขี่ไม่มีสมาธิในการขับขี่ หรือใช้โทรศัพท์อย่างผิดกฎหมายในขณะขับขี่ แต่เป็นระบบช่วยการขับขี่ที่มีการทำงานควบคู่กับระบบอื่นของรถ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติขั้นสูงแบบแปรผัน โดยควบคุมการใช้งานผ่านจอแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เล่นเกม และชมภาพยนตร์
Stellantis ไม่ได้พูดถึงเทคโนโลยีระบบช่วยการขับขี่นี้ว่าเป็นการเปิดตัว แต่บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับการนำมาใช้งานเมื่อตลาดมีความต้องการ หรือเมื่อ Stellantis และบริษัทผู้ผลิตมีความพร้อม ทั้งยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า ระบบช่วยการขับขี่นี้จะนำมาใช้กับรถในสหรัฐฯ เมื่อใด คาดว่ารถที่จะได้ใช้เทคโนโลยีนี้ คือ Alfa Romeo (อัลฟา โรเมโอ), Ram (แรม), Dodge (ดอดจ์), Maserati (มาเซราตี) และ Fiat (เฟียต) โดยถูกวางตลาดในยุโรป และแคนาคาเป็นลำดับแรก