ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ค่าย Ford (ฟอร์ด) พยายามอย่างหนัก เพื่อขึ้นมาเป็นแถวหน้าของผู้ผลิตรถไฟฟ้า แต่ปรากฎการณ์การถดถอยของยอดขายรถไฟฟ้าทั่วโลก ทำให้บริษัทผู้ผลิตหลายรายต้องถอยกลับมาตั้งหลักเพื่อปรับแผนใหม่ จนเมื่อไม่นานมานี้ Ford ยอมรับว่าการทำตลาดรถไฟฟ้าของค่ายดุเดือดเกินไป
Marin Gjaja กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการรถไฟฟ้า Ford ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกค้าของบริษัทมีความเห็นว่า การตั้งเป้าหมายในแผนการผลิตรถไฟฟ้า Ford ในยุโรปนั้นสูงเกินไป ทั้งคิดว่าการตั้งเป้าหมายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าทุกรุ่นนั้น ไม่มีผลดีกับธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะกับลูกค้า
ในปี 2564 Ford ประกาศว่าบริษัทมีเป้าหมายจะผลิตรถไฟฟ้าทุกรุ่นภายในปี 2573 จนกระทั่งในการรายงานฉบับที่ 2 มีข้อแนะนำให้เลื่อนเป้าหมายออกไป ทั้งในเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา Martin Sander ผู้จัดการทั่วไป Ford Europe แจ้งว่าในปี 2573 บริษัทจะยังคงผลิตเครื่องยนต์เบนซินต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ยังต้องการขุมพลัง พลัก-อิน ไฮบริด
Marin Gjaja ได้พูดถึงสภาวะตลาดว่า เมื่อความต้องการใช้รถไฟฟ้าลดลง ประกอบกับราคาต้นทุนสูงขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้ยอดขายรถไฟฟ้าลดลง ขณะเดียวกันตลาดยุโรปมีรถไฟฟ้า 2 รุ่น ได้แก่ Ford Explorer EV (ฟอร์ด เอกซ์พลอเรอร์ อีวี) และ Ford Mustang Mach-E (ฟอร์ด มัสแตง มัค-อี) และช่วงปลายปีนี้จะเสริมทัพด้วย Ford Capri (ฟอร์ด คาปรี) อีกรุ่นหนึ่ง
Ford ยังไม่พูดถึงแผนการผลิตรถไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา นอกจากการขยายการผลิตรถกระบะ Super Duty ไปยังโรงงานในแคนาดา โดยจะเพิ่มยอดการผลิตทั้ง HEV และ PHEV