ระเบียงรถใหม่
Neta S Shooting Brake ทางเลือกใหม่ตระกูล S
Hozon Auto (โฮซอน ออโท) เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ Neta S Shooting Brake (เนทา เอส ชูทิง เบรค) ทางเลือกใหม่ของตระกูล S
Hozon Auto เป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยผลิตยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Neta บริษัทได้ประกาศเปิดตัวรถยนต์แนวคิดรุ่นแรกในปี 2017 รถยนต์คอมแพคท์เอสยูวี รุ่น Neta N01 เปิดตัวในปี 2018
ในเดือนมีนาคม 2023 Hozon Auto ได้ประกาศสร้างโรงงานผลิตแห่งแรกในต่างประเทศที่ประเทศไทย จะมุ่งเน้นไปที่การผลิต และส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาไปยังประเทศในอาเซียน ในเดือนพฤศจิกายน 2023
Neta Auto (Thailand) Co., Ltd. ร่วมกับพันธมิตร Bangchan General Assembly Co., Ltd. (BGAC) เริ่มประกอบรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในประเทศไทย โดยมีรุ่นแรก คือ Neta V-II เพื่อชดเชยการขาย ตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลไทย Neta V ที่นำเข้าภายในประเทศไทยแล้วมากกว่า 12,000 คัน
รุ่นปัจจุบัน ที่วางจำหน่ายในประเทศจีนของ Neta ได้แก่
Neta S (2021-ปัจจุบัน) รถเก๋งขนาดกลาง BEV/REEV
Neta GT (2023-ปัจจุบัน) รถสปอร์ทขนาดกลาง BEV
Neta L (2024-ปัจจุบัน) เอสยูวีขนาดกลาง BEV/REEV
Neta U/X (2019-ปัจจุบัน) เอสยูวีขนาดกะทัดรัด BEV
Neta V/V II (2020-ปัจจุบัน) ซับคอมแพคท์เอสยูวี, BEV
Neta S Shooting Brake เตรียมเปิดตัวในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ ยังเผยรถเก๋งรุ่นใหม่อีกรุ่นหนึ่ง
Neta S Shooting Braking สร้างขึ้นบนพแลทฟอร์ม Shanhai เวอร์ชัน 2.0 ที่ได้รับการอัพเกรดในด้านการออกแบบภายนอก ด้านหน้าของ Neta S Shooting Brake นั้นมีความคล้ายคลึงกับ Neta S รุ่นปัจจุบันมาก โดยมีการออกแบบไฟหน้าแบบแยกส่วน 2 ชั้น DRL LED ขนาดเล็ก ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED คู่ ชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ทแบบปิดทึบ พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ เพิ่มรายละเอียดโครเมียมที่ช่องรับอากาศด้านล่าง
ด้านข้างของ Neta S Shooting Brake เผยให้เห็นเส้นสายที่ลื่นไหล และมีน้ำหนักที่เน้นไปทางด้านหลัง มีเสา C กับ D ขยายใหญ่ สวยงามตามแบบฉบับของรถสเตชันแวกอน
ด้านหลังมาพร้อมสปอยเลอร์ และไฟเบรคดวงที่ 3 ไฟท้าย LED แนวยาวรูปตัว T และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/45 R19 ตัวรถมีความยาว 4,980 มม. ความกว้าง 1,980 มม. และความสูง 1,480 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,980 มม. น้ำหนักตัวรถ 1,960-2,160 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า AR-HUD ที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ขณะที่หน้าจออินโฟเทนเมนท์เป็นแบบ Ultra-thin ขนาด 17.6 นิ้ว พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานผ่านระบบประมวลผล Smart Cockpit Platform ด้วยชิพ Snapdragon รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G และขับกำลังเสียงผ่านลำโพง 21 จุดรอบคัน เบาะนั่งหุ้มหนัง Alcantara
ขุมพลังมีทั้งไฟฟ้าล้วน และเวอร์ชัน EREV เครื่องยนต์สันดาปเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้า รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 310 นิวทันเมตร ส่วนรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลัง 462 แรงม้า แรงบิด 620 นิวทันเมตร แบทเตอรีลิเธียม-ไอออนขนาด 91.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางสูงสุด 650 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน CLTC)
เทคโนโลยีสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแรงดันสูง 800 โวลท์ สามารถชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ได้ ภายในเวลา 35 นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที ขุมพลัง EREV ใช้เครื่องยนต์สันดาป 1.5 ลิตร ให้กำลัง 95 แรงม้าในการปั่นไฟ ส่งกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 272 แรงม้า แบทเตอรีลิเธียม-ไอออนแบบ Qilin ระยะทางไกลสุดต่อการชาร์จ และการเติมน้ำมัน 1 ครั้ง เท่ากับ 1,160 กม.
Share
ABOUT THE AUTHOR
วิธวินท์ ไตรพิศ
ดูคุณพ่อจนขับรถได้ตั้งแต่ 8 ขวบ หลงใหลยานยนต์ จนได้วุฒิ Automotive Engineering ติดตัว ปัจจุบันเป็น บก.นักเขียน นักทดสอบรถ และ Instructor ที่พร้อมถ่ายทอดความรู้ แบบไม่มีกั๊ก !
ภาพโดย : Zhang Yong‘s Sina Weibo accountคอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
พิสูจน์อักษร โดย : ธนธรณ์ โอฬาริกสกุล
คำค้นหา
