ธุรกิจ
Jeep จัดแสดง Wrangler Rubicon “Monster+ Edition”

ขณะที่อุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ ที่มีในรุ่น Monster Edition เดิม ก็ยังคงไว้แบบจัดเต็ม อาทิ กันชนหน้าเหล็กกล้าออฟโรด แบบ 3 ชิ้น, สปอทไลท์กันชนหน้าออฟโรด แอลอีดี ขนาด 7 นิ้ว พร้อมโรลล์บาร์, รอกไฟฟ้า Jeep Performance Parts ออกแบบพิเศษสำหรับ Wrangler Rubicon, ท่ออากาศออฟโรด, ประตูผู้โดยสารแบบโรลล์บาร์ (Tube-Doors) พร้อมมือจับด้านบน, ชอคอับ FOX ยกสูง 2 นิ้ว และอื่นๆ อีกมากมาย มาพร้อมช่วงล่างที่มีฟังค์ชันพิเศษ ที่มีให้สัมผัสเฉพาะในรถยนต์ Jeep กับความสามารถในการปลดเหล็กกันโคลง (Sway Bar) อัตโนมัติ เพิ่มความยืดหยุ่น และช่วยให้ล้อสัมผัสกับพื้นตลอดเวลา
หลังจากตกแต่งอย่างเต็มพิกัดแล้ว ทำให้ Jeep Wrangler Rubicon Monster+ Edition มีภาพลักษณ์ที่ทรงพลัง ดุดัน และแข็งแกร่งขึ้น ที่สำคัญพร้อมลุยในทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ ยังมี Jeep อีก 4 คัน ที่นำมาจัดแสดงให้เหล่าสาวกได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น Wrangler Rubicon 4 ประตู “Journey Edition”, Wrangler Rubicon 4 ประตู “1941 Explorer Edition”, Wrangler Rubicon 4 ประตู “Urban Edition” และ Gladiator Rubicon
Jeep ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. (ขึ้นกับอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)* Jeep® Service Activated Roadside Assistance นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และ Jeep® Service Care 3 ปี หรือ 55,000 กม. และเพิ่มความพิเศษขึ้นอีกสำหรับงานนี้ ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่ง* พร้อมข้อเสนออื่นๆ เมื่อจอง Wrangler Rubicon หรือ Gladiator Rubicon และรับรถภายในเดือนกันยายน 2566
ปัจจุบัน Jeep ประเทศไทย มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจร ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทั้งหมด 4 แห่ง และอีก 1 สตูดิโอ พร้อมบริการลูกค้า และผู้สนใจรถ Jeep ได้แก่ โชว์รูมสุขุมวิท, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์, สตูดิโอจัดแสดงรถ Jeep ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยไลอ้อน ออโตโมบิล,โชว์รูมพัทยา โดยสเตลล่า มอเตอร์ และโชว์รูมนิมิตใหม่ โดยพีแอนด์เอส จี๊ป และเตรียมเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรที่เชียงใหม่ ในช่วงปลายปีนี้
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด 

