ระเบียงรถใหม่
เตรียมเปิดตัว Toyota Innova 2023 ที่ดีขึ้นทุกมิติ

ที่ผ่านมา Toyota Innova ถูกพัฒนาให้เป็นรถอเนกประสงค์ที่ใช้โครงสร้างแชสซีแบบ Body-on-Frame ร่วมกับ Hilux และ Fortuner แต่ All-New Toyota Innova เจเนอเรชันที่ 3 ได้มีการเปลี่ยนไปใช้พแลทฟอร์ม TNGA-C แบบ Unibody มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชันบีมแทน ช่วยให้ Toyota Innova ใหม่ มีการขับขี่ใกล้เคียงกับรถเก๋งมากยิ่งขึ้น และลดข้อจำกัดในการออกแบบพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น
ข้อได้เปรียบของพแลทฟอร์ม TNGA คือน้ำหนักเบากว่า ผลที่ตามมาคือ ความรู้สึก สนุกมากขึ้นเพราะควบคุมง่าย เพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้าง และตัวถัง แต่น้ำหนักของรถ และเสียงที่เข้ามาในห้องโดยสารลดลง เพิ่มเสถียรภาพ และความสะดวกสบายเมื่อต้องเคลื่อนที่
All-New Toyota Innova เปิดตัวครั้งแรกในอินโดนีเซีย และวางจำหน่ายในอินเดียตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ช่วงสัปดาห์ก่อน Toyota India ได้ประกาศยอดขายประจำเดือนพฤษภาคม ในตลาดรถกลุ่มนี้ Toyota Innova รุ่นเก่า (ชื่อ Innova Crysta ในอินเดีย) กลับมียอดขายมากกว่า Innova ใหม่ (Innova HyCross)
โดย Toyota Innova Crysta เป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดอันดับ 2 ของอินเดีย โดยมียอดขาย 4,786 คัน ในเดือนพฤษภาคม 2566 ขณะเดียวกัน Innova HyCross เจนเนอเรชันล่าสุด กลับอยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยยอดขาย 2,990 คัน
ในเดือน เมษายน 2566 Toyota อินเดีย ได้ระงับคำสั่งซื้อ Toyota Innova HyCross รุ่นใหม่ เนื่องจากกำลังการผลิตมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้ว่า Toyota จะขึ้นราคา Innova HyCross มากกว่ารุ่นเดิม และต้องรอคิวรับรถนานหลายเดือนก็ตาม
Toyota Innova รุ่นเก่า มีรถพร้อมที่จะส่งมอบมากกว่ารุ่นเดิมเกือบเท่าตัว ทำให้บางประเทศยังคงขายทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป ด้วยเหตุนี้ในอินเดีย Toyota จึงถูกบังคับให้ขาย Innova เจเนอเรชันเก่า และใหม่ไปพร้อมกัน เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น ผู้ใช้ที่มีความต้องการเร่งด่วน และไม่สามารถรอนานเพื่อรับ Innova ใหม่สามารถเลือกซื้อรุ่นเก่าในราคาที่ถูกกว่า
ปัจจุบัน Toyota Innova ใหม่ กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประเทศไทย และมาเลเซีย ในเดือนกรกฎาคม โดยนำเข้ามาจากประเทศอินโดนิเซีย ก็ต้องคอยลุ้นกันว่าจะพอมีรถส่งมอบให้แฟนกันมากน้อยแค่ไหน
All-New Toyota Innova มิติตัวถังรถยาว 4,755 มม. กว้าง 1,850 มม. สูง 1,795 มม. ฐานล้อ 2,850 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 185 มม.
ภายในมีความหรูหรา แตกต่างจาก 2 เจเนอเรชัน ที่ผ่านมา ที่นั่งแบบ 3 ตอนโดยเบาะนั่งตอนที่ 2 เป็นแบบ Captain Seat 2 ที่นั่ง พร้อมที่ท้าวแขน และมีเบาะนั่งตอนที่ 2 แบบนั่งได้ 3 คนให้เลือก เบาะนั่งตอนที่ 3 พับได้แบบ 50:50 และเบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้า
แผงคอนโซลหน้าออกแบบใหม่ ที่คอนโซลกลางแผงคอนโซลเกียร์อยู่ในแผงเดียวกัน จอสัมผัสขนาดใหญ่ขนาด 9 หรือ 10 นิ้ว และจอสัมผัสด้านหลังเบาะนั่งคู่หน้า 10 นิ้ว เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบดิจิทอล คอนโซลเกียร์แนวตรง เบรคมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold มาตรวัดเรืองแสง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านพร้อม Paddle Shift มีไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light
หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย และช่องเสียบ USB Type C 4 จุด ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ที่สามารถสั่งงานด้วยคำสั่งเสียง
เครื่องยนต์แบบ Hybrid เป็นครั้งแรก ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Dual VVT-i กำลังสูงสุด 152 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 149 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ให้กำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 186 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ e-CVT
และยังมีเครื่องยนต์สันดาปล้วนเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง Innova Zenix (ชื่อในประเทศอินโดนิเซีย) เครื่องยนต์ไฮบริดสามารถประหยัดได้ถึง 21 กม./ลิตร โดยประหยัดกว่า Innova Diesel รุ่นเก่าที่ประหยัดน้ำมันได้เพียง 14 กม./ลิตรเท่านั้น
เรื่องระบบความปลอดภัยจัดเต็มด้วย Toyota Safety Sense ประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control (DRCC), ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ Pre-Collision System (PCS), ระบบเตือนรถออกนอกเลน และช่วยประคองให้รถอยู่ในเลน Lane Departure Alert (LDA) & Lane Tracing Assist (LTA) และระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB) รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า ด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลม)

บทความแนะนำ

