ระเบียงรถใหม่
Mitsubishi Triton Xtreme รุ่นพิเศษก่อนเปลี่ยนโฉม ที่ออสเตรเลีย

Mitsubishi ออสเตรเลีย จับมือกับสำนักแต่งรถชื่อดังอย่าง Walkinshaw โดยนำรุ่น GSR มาตกแต่งให้พร้อมลุยมากยิ่งขึ้น แผ่นกันกระแทกเหล็กใต้ท้องรถสีแดง สลักชื่อ Triton ไว้
พร้อมชุดแถบไฟ LED วางใต้กันชนหน้า แถบกระจังหน้าสีดำติดแบบ Dynamic Shield รวมถึงขอบกันชนหน้า
ไฟหน้า Projector Bi-LED พร้อมไฟ LED Daytime อยู่ในโคมเดียวกัน พร้อมไฟตัดหมอกหน้า ชุดไฟท้าย LED lighting Guide และไฟเบรค LED เพิ่มความดุดันด้วยสปอร์ทบาร์เหล็กสีดำปักชื่อ Triton หลังคาสีดำ และสติคเกอร์คาดรถสีดำทั้งคัน
ที่เปิดประตู กับที่เปิดกระบะท้าย และกันชนหลังตกแต่งเป็นสีดำ รวมถึงกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ บันไดข้างก็สีดำ คิ้วขอบล้อสีดำ ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง BFGoodrich All-Terrain KO2 ขนาด 265/60 R18
ภายในห้องโดยสารไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยจะมีแผ่นป้าย Triton Xtreme อยู่ใต้คันเกียร์ ด้านขุมกำลังยังคงเดิม เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน MIVEC ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
มี Sport Mode พร้อม Paddle Shift ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II พร้อม Off Road Mode Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock (ในตำแหน่ง 4LLc เท่านั้น) และยังมีระบบเฟืองท้ายแบบ Diff-lock
ช่วงล่างปรับให้พร้อมที่จะลุยในทุกเส้นทาง แม้ว่าจะมีระยะห่างจากพื้น 215 มม. ซึ่งน้อยกว่ารุ่นเดิม GSR 5 มม. แต่ได้ติดตั้งชอคอับแบบโมโนทูบจาก Supashock ทั้งหน้า และหลัง
ที่สามารถปรับค่ารีบราวน์ดชอคอับทั้งหน้า และหลัง พร้อมปรับในส่วนอุปกรณ์ซับแรงกระแทก และปรับค่าสปริงด้านหน้า เพื่อตอบโจทย์เส้นทางในออสเตรเลีย
น้ำหนักบรรทุกรวม 889 กก. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่า Toyota Hilux Rogue ที่ 854 กก. และ Ford Ranger Raptor 753 กก. ด้านความสามารถในการลากจูงสูงสุดอยู่ที่ 3,100 กก. ซึ่งน้อยกว่า Toyota Hilux Rogue และ Mazda BT-50 Thunder ที่ 3,500 กก. แต่มากกว่า Raptor ที่ 2,500 กก.
Triton Xtreme มีราคาแพงกว่า Triton GSR ถึง 15,050 เหรียญสหรัฐฯ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 71,990 เหรียญสหรัฐฯ มีกำหนดส่งมอบในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ส่วนในประเทศไทย กำหนดการเปิดตัวของ Mitsubishi Triton ใหม่ วันที่ 26 กรกฎาคม เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลก แฟนๆ ชาวไทยเตรียมรอได้เลย

บทความแนะนำ

