ระเบียงรถใหม่
Toyota Crown 2023 มาพร้อมตัวถังครอสส์โอเวอร์
Toyota Crown เป็นรถผู้บริหารที่วางตำแหน่งทางการตลาดเป็นผลิตภัณฑ์ระดับสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Toyota เปิดตัวในปี 2498 ส่งออกไปจำหน่ายยังสหรัฐอเมริกาในปี 2501
ถือเป็นรถซีดานที่เก่าแก่ที่สุดของ Toyota ที่ยังอยู่ในสายการผลิต
Toyota ได้ผลิตรุ่นย่อยแบบซีดานออกมาสำหรับใช้เป็นรถ Taxi โดยเฉพาะ คือ Crown Comfort นอกจากนี้ Toyota Crown ยังได้รับการไว้วางใจในกิจการตำรวจทั่วประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย รวมถึงการใช้งานของเจ้าหน้าที่รัฐ
Lexus GS รถซีดานหรูระดับพรีเมียมของ Toyota (ในญี่ปุ่นใช้ชื่อ Toyota Aristo) ได้ใช้พแลทฟอร์ม และระบบส่งกำลังร่วมกับ Crown แต่ได้ผ่านการพัฒนา และการออกแบบร่วมกัน หลังเตรียมยุติการทำตลาดรถซีดานหรูขนาดใหญ่ Toyota Avalon ในสหรัฐอเมริกา Toyota ก็เตรียมทำตลาด Toyota Crown รุ่นใหม่ เจเนอเรชันที่ 16 แทนที่ แต่ว่า Crown ใหม่ จะไม่ใช่ซีดานหรูแบบเดิมอีกต่อไป
ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก รถซีดานถือเป็นหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนไปด้วย จากเดิมที่เคยได้รับความนิยมในอดีต มาในวันนี้ ความนิยมที่ลดน้อยลง รถประเภทครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี หรือรถอเนกประสงค์ กลับได้รับความนิยมมากขึ้น จนทำให้ Toyota ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในรถยนต์รุ่นสำคัญอย่าง Toyota Crown
ในที่สุด วันนี้ Toyota จึงเปิดตัวรถยนต์ Toyota Crown Crossover Type ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทีมได้รับคำชี้แนะว่า ทำไมไม่พัฒนารุ่นซีดานที่เคยได้รับความนิยมออกมาด้วย เหตุนี้ทีมจึงกลับมาปรึกษา และพัฒนาออกมาเป็นอีก 3 รุ่นย่อย ได่แก่
- Toyota Crown (SUV Sport Type)
- Toyota Crown (Sedan Type)
- Toyota Crown (Estate Type)
โดยมาพร้อมตราสัญลักษณ์ใหม่ และน่าจะเรียกได้ว่าเป็นตัวพโรโทไทพ์มากกว่ารถต้นแบบ เพราะรถที่วางจำหน่ายจริงคงจะมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างไปจากนี้มากนัก อากิโอะ โตโยดะ กล่าวว่า Toyota ให้ความสำคัญกับรถรุ่นนี้ ในฐานะตัวแทนของความเป็นที่สุดยนตรกรรมชั้นนำของแบรนด์โดยตลอด กว่า 67 ปี ทาง Toyota เตรียมเริ่มวางจำหน่ายรถยนต์ Toyota Crown Crossover ก่อนเป็นรุ่นแรก ถูกพัฒนาขึ้นบนพแลทฟอร์ม TNGA รหัสย่อย GA-K แบบเดียวกับที่ใช้ผลิต Toyota Avalon, Toyota Camry, Toyota RAV4 และรถ Lexus อีกหลายรุ่น งานออกแบบเป็นการผสมผสานระหว่างซีดานกับครอสโอเวอร์ มีรูปร่างคล้ายคลึงกับรถไฟฟ้า Toyota bZ4X ที่ถูกเพิ่มความหรูเข้าไป
มิติตัวถังของ Crown ตัวถัง Crossover
ยาว 4,930 มม. (ยาวกว่ารุ่นเดิม 20 มม.)
กว้าง 1,840 มม. (+40 มม.)
สูง 1,540 มม. (+ 100 มม.)
ระยะฐานล้อ 2,850 มม. (-70 มม.)
มีขนาดใหญ่กว่า Toyota Camry ในทุกมิติ ที่ยาว/กว้าง/สูง : 4,885/1,840/1,445 มม. และระยะฐานล้อ: 2,825 มม.
มีสีภายนอกให้เลือกถึง 12 เฉดสี มีสี Precious Bronze และ Precious Ray เป็นสีใหม่ รุ่นทอพมีการตกแต่งภายนอกแบบใช้สีทูโทน โดยที่ฝากระโปรงหน้า หลังคา เสา และประตูท้ายทาสีดำ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกราฟิค LED บนไฟหน้ามีไฟ DRL แบบเต็มความกว้างแบบเดิม ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว และ 21 นิ้ว
ความหรูหราภายในที่รุ่นก่อนหน้า ถูกปรับให้มีความทันสมัย และสปอร์ทมากขึ้น การออกแบบถูกจัดวางให้เป็นระนาบเดียวกัน เพื่อให้ใช้งานง่าย ทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานฟังค์ชันต่างๆ ที่ต้องการได้อย่างสะดวก เพื่อให้ขับรถได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยมากขึ้น
มาตรวัดฟูลล์ดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว คู่กับจอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว ในกรอบเดียวกัน การอัพเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA, ฟังค์ชันสั่งงานด้วยเสียง “Hey Toyota” สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทั้งฝั่งผู้ขับ และผู้โดยสารด้านหน้า, ชุดเครื่องเสียงพรีเมียมจาก JBL พร้อมลำโพง 11 ตำแหน่ง หลังคา Panoramic Sunroof
Toyota Crown Crossover ระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบไฮบริดเท่านั้น มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ Crossover X, Crossover G และ Crossover RS ใน Crossover X และ Crossover G มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ให้พละกำลัง 186 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า ที่ด้านหน้า และ 54 แรงม้า ที่ด้านหลัง ได้พละกำลังสูงสุดรวม 234 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ e-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four แบทเตอรี Nickel-Metal Hydride อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 22.4 กม./ลิตร มาพร้อมกับ 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ Eco, Normal และ Sport
Toyota Crown Crossover RS เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร Turbocharged ใช้ระบบ Hybird Max รุ่นใหม่ที่ทรงพลังกว่า ให้พละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 460 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 82 แรงม้า และด้านหลัง 79 แรงม้า พร้อมระบบ Dual Boost Hybrid System เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 349 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four Advanced ที่สามารถแปรผันกำลังขับ ระหว่างล้อคู่หน้า/หลังได้
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบทเตอรี Nickel-Metal Hydride เคลมตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.7 กม./ลิตร มาพร้อมช่วงล่างแบบ AVS-Adaptive Variable Suspension มีโหมดในการขับเลือกได้ 6 แบบ ระหว่าง Eco, Normal, Custom, Comfort, Sport และ Sport+ และยังมี EV Mode สำหรับการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเพียงอย่างเดียวด้วย
จัดเต็มระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ระบบ Automatic High Beams ลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน, ระบบ Dynamic Radar Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า, ระบบ Road Sign Assist ช่วยสังเกตป้ายสัญญาณเตือน, ระบบ Pre-Collision System with Pedestrian Detection เตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
ระบบ Lane Departure Alert with Steering Assist ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมฟังค์ชันหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ, ระบบ Lane Tracing Assist ช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง, ระบบ Blind Spot Monitor แจ้งเตือนมุมอับสายตา, ระบบ Rear Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง, ระบบช่วยจอด Advanced Park system และระบบ Rear Seat Reminder เตือนให้ผู้ขับเชคความเรียบร้อยของผู้โดยสารทางด้านหลัง ก่อนหรือหลังเดินทาง
นอกเหนือจากข้อมูลของ Crown Crossover Type แล้ว Toyota ยังไม่เผยรายละเอียดทางเทคนิคใดๆ ของอีก 3 รุ่น และยังไม่ระบุเวลาในการเปิดตัว โดย Toyota จะเริ่มจำหน่าย Crown ตัวถังครอสส์โอเวอร์ ในญี่ปุ่นเดือนกันยายน 2022 จากนั้นจะเปิดตัวตามมาในสหรัฐอเมริกา
Toyota จะวางจำหน่าย New Toyota Crown ใน 40 ประเทศ ในหลายภูมิภาค โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 2 แสนคัน/ปี ทำให้เมืองไทยก็อาจมีลุ้นเล็กๆ สำหรับรถหรูรุ่นนี้
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/416358