ทดลองขับ 14 Jul 2022
Ford Everest รุ่นใหม่ ทดลองขับตัวทอพ ! พร้อมประกาศราคาครบทุกรุ่นย่อย (1,334,000-1,854,000 บาท)
Ford ประเทศไทย เชิญคณะสื่อมวลชนไทย และต่างประเทศ ร่วมกิจกรรมทดสอบขับรถ Ford Everest รุ่นใหม่ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์รุ่นล่าสุด ที่ผสานสุดยอดสมรรถนะเพื่อพิชิตทุกการผจญภัย ทั้งทาง On Road และ Off Road เข้ากับอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ความสะดวกสบายเหนือระดับ และเทคโนโลยีล้ำสมัย


กิจกรรมทดสอบขับรถภายใต้แนวคิด "Life is Yours to Master" จัดขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะของรถยนต์รุ่นใหม่ และทดสอบการทำงานของหลายๆ ฟีเจอร์ใน Ford Everest รุ่นใหม่ ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกในเซกเมนท์
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ โดยมี เอียน ฟอสตัน หัวหน้าวิศวกรพแลทฟอร์ม T6 เป็นผู้ให้รายละเอียดของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นอันดับแรก ตั้งแต่การออกแบบตัวถังภายนอกใหม่ให้ดูโดดเด่นมากขึ้น สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม ความสะดวกสบาย และความประณีตภายในห้องโดยสาร รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย และระบบเชื่อมต่อทันสมัยที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น


ภายในงานยังได้จัดแสดง Ford Everest รุ่นใหม่ ครบทั้ง 4 รุ่นย่อย ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ รุ่น Trend, Sport รุ่น Titanium+ 4x2 และรุ่นทอพ Titanium+ 4x4 ที่มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังเครื่องยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันของรถแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่




พร้อมลุยทุกการผจญภัย
คณะสื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะอันเหนือชั้นของ Ford Everest รุ่นใหม่ ทั้งบนทางเรียบ และทางลุย ด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มม. มอบการควบคุมบนถนนได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่การปรับแต่งชอคอับใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ และช่วยให้การควบคุมรถทั้งบนถนน รวมถึงเส้นทางสมบุกสมบันง่ายยิ่งกว่าเคย ทั้งยังมีห้องโดยสารที่ออกแบบอย่างประณีตพิถีพิถัน มอบความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้งานอเนกประสงค์ โดยเส้นทางการเดินทางทดสอบครั้งนี้ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทดสอบโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย อาทิ


โหมดปกติ: ออกแบบเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทดสอบคู่กับระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังค์ชัน Stop and Go และระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทางที่ช่วยตรวจสอบช่องทางจราจรเพื่อให้รถอยู่ตรงกลางเลน ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และจำกัดความเร็วได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะขณะขับขี่บนทางไฮเวย์ หรือเส้นทางที่ใช้ความเร็วสูง และมีรถพลุกพล่าน
โหมดประหยัด: ทำงานด้วยการประเมินพฤติกรรมการขับขี่ และปรับการทำงานของระบบส่งกำลัง และระบบควบคุมความเร็วให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันให้ได้สูงสุด
โหมดทางลื่น: ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน เพื่อลดโอกาสที่ล้อจะหมุนฟรี ป้องกันการลื่นไถล
โหมดโคลน: ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ผิวที่ปกคลุมด้วยโคลน กรวด หรือร่องดิน Ford Everest รุ่นใหม่ พร้อมตะลุยผ่านได้อย่างมั่นใจด้วยระบบ Diff Lock หลังแบบไฟฟ้าที่ทำงานแบบอัตโนมัติในโหมดนี้ พร้อมเพิ่มการยึดเกาะให้เต็มประสิทธิภาพ และรักษากำลังของรถไว้ ควบคู่กับการปล่อยให้ล้อหมุนด้วยความเร็วเพื่อรีดโคลนออกจากดอกยาง ผู้เข้าร่วมการทดสอบยังได้ขับ Ford Everest รุ่นใหม่ ลุยผ่านทางน้ำได้อย่างง่ายดาย ด้วยความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม. และทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้นจากกล้องมองรอบคัน 360 องศา


นอกจากประสบการณ์ขับขี่บนทางเรียบ และออฟโรดแล้ว คณะสื่อมวลชนยังได้สัมผัสเทคโนโลยีที่ Ford พัฒนาขึ้นเพื่อมอบทั้งความอเนกประสงค์ และความสะดวกสบายในสถานี "Comfort and Convenience" โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ อาทิ

ในสถานี "Smart Technology" สื่อมวลชนยังได้ลองใช้เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสูง ที่ติดตั้งมาเพื่อเสริมความมั่นใจของผู้ขับขี่ และช่วยให้ควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้นในหลากหลายสถานการณ์ ได้แก่
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0: Ford Everest รุ่นใหม่ ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถเทียบข้าง หรือถอยจอดเข้าซองได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มเดียว โดยระบบจะช่วยหมุนพวงมาลัย เปลี่ยนเกียร์ รวมถึงควบคุมคันเร่ง และเบรค ให้รถเข้าสู่ช่องจอดได้อย่างง่ายดาย
ระบบช่วยเบรคขณะถอยหลัง: ช่วยให้ผู้ขับขี่ถอยรถได้มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยการตรวจจับวัตถุบริเวณท้ายรถ และส่งเสียงเตือน หากผู้ขับขี่ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ระบบจะส่งแรงเพื่อเบรคจนรถหยุดนิ่ง


ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ Ford Everest รุ่นใหม่ ทุกรุ่นได้ที่เวบไซท์ www.ford.co.th และที่โชว์รูม Ford ทั่วประเทศ ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป โดย Ford พร้อมส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป


กิจกรรมทดสอบขับรถภายใต้แนวคิด "Life is Yours to Master" จัดขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะของรถยนต์รุ่นใหม่ และทดสอบการทำงานของหลายๆ ฟีเจอร์ใน Ford Everest รุ่นใหม่ ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกในเซกเมนท์
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ โดยมี เอียน ฟอสตัน หัวหน้าวิศวกรพแลทฟอร์ม T6 เป็นผู้ให้รายละเอียดของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นอันดับแรก ตั้งแต่การออกแบบตัวถังภายนอกใหม่ให้ดูโดดเด่นมากขึ้น สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม ความสะดวกสบาย และความประณีตภายในห้องโดยสาร รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย และระบบเชื่อมต่อทันสมัยที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น


ภายในงานยังได้จัดแสดง Ford Everest รุ่นใหม่ ครบทั้ง 4 รุ่นย่อย ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ รุ่น Trend, Sport รุ่น Titanium+ 4x2 และรุ่นทอพ Titanium+ 4x4 ที่มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังเครื่องยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันของรถแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่
- Ford Everest Titanium+ 4x4 10AT (ราคา 1,854,000 บาท) มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part Time กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. ที่ 1,750-2,000 รตน.

- Ford Everest Titanium+ 4x4 10AT (ราคา 1,704,000 บาท) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. ที่ 1,750-2,000 รตน.

- Ford Everest Sport 4x2 6AT (ราคา 1,464,000 บาท) มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยวทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 41.3 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน.

- Ford Everest Trend 4x2 6AT (ราคา 1,334,000 บาท) ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 41.3 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน.

พร้อมลุยทุกการผจญภัย
คณะสื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะอันเหนือชั้นของ Ford Everest รุ่นใหม่ ทั้งบนทางเรียบ และทางลุย ด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มม. มอบการควบคุมบนถนนได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่การปรับแต่งชอคอับใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ และช่วยให้การควบคุมรถทั้งบนถนน รวมถึงเส้นทางสมบุกสมบันง่ายยิ่งกว่าเคย ทั้งยังมีห้องโดยสารที่ออกแบบอย่างประณีตพิถีพิถัน มอบความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้งานอเนกประสงค์ โดยเส้นทางการเดินทางทดสอบครั้งนี้ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ เพื่อให้สื่อมวลชนได้ทดสอบโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย อาทิ


โหมดปกติ: ออกแบบเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทดสอบคู่กับระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อมฟังค์ชัน Stop and Go และระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทางที่ช่วยตรวจสอบช่องทางจราจรเพื่อให้รถอยู่ตรงกลางเลน ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และจำกัดความเร็วได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะขณะขับขี่บนทางไฮเวย์ หรือเส้นทางที่ใช้ความเร็วสูง และมีรถพลุกพล่าน
โหมดประหยัด: ทำงานด้วยการประเมินพฤติกรรมการขับขี่ และปรับการทำงานของระบบส่งกำลัง และระบบควบคุมความเร็วให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันให้ได้สูงสุด
โหมดทางลื่น: ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน เพื่อลดโอกาสที่ล้อจะหมุนฟรี ป้องกันการลื่นไถล
โหมดโคลน: ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ผิวที่ปกคลุมด้วยโคลน กรวด หรือร่องดิน Ford Everest รุ่นใหม่ พร้อมตะลุยผ่านได้อย่างมั่นใจด้วยระบบ Diff Lock หลังแบบไฟฟ้าที่ทำงานแบบอัตโนมัติในโหมดนี้ พร้อมเพิ่มการยึดเกาะให้เต็มประสิทธิภาพ และรักษากำลังของรถไว้ ควบคู่กับการปล่อยให้ล้อหมุนด้วยความเร็วเพื่อรีดโคลนออกจากดอกยาง ผู้เข้าร่วมการทดสอบยังได้ขับ Ford Everest รุ่นใหม่ ลุยผ่านทางน้ำได้อย่างง่ายดาย ด้วยความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มม. และทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้นจากกล้องมองรอบคัน 360 องศา


นอกจากประสบการณ์ขับขี่บนทางเรียบ และออฟโรดแล้ว คณะสื่อมวลชนยังได้สัมผัสเทคโนโลยีที่ Ford พัฒนาขึ้นเพื่อมอบทั้งความอเนกประสงค์ และความสะดวกสบายในสถานี "Comfort and Convenience" โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ อาทิ
- FordPass™: แอพพลิเคชันที่ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถ Ford ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยบริการเชื่อมต่อ และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น การสตาร์ทรถ ลอค และปลดลอค ปรับอุณหภูมิรถล่วงหน้า และตรวจสอบสถานภาพของรถผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
- เบาะที่นั่งปรับได้ตามการใช้งาน: นอกจากจะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ที่นั่งแล้ว เบาะนั่งแถวที่ 2 ของ Ford Everest รุ่นใหม่ ยังปรับให้พับราบได้แบบ 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 แบ่งสัดส่วน 50:50 พร้อมฟังค์ชันการพับเบาะแบบไฟฟ้าได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มบริเวณที่เก็บของท้ายรถในรุ่น Titanium+ ผู้ขับขี่จึงขนของที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย
- ห้องโดยสารกว้างขวาง: ห้องโดยสารของ Ford Everest รุ่นใหม่ กว้างขวาง และนั่งสบายได้ทั้งครอบครัว ใส่ใจในรายละเอียดด้วยแนวแผงกั้นบริเวณท้ายรถ ช่วยกันไม่ให้ของตกเมื่อเปิดประตูท้าย พร้อมที่เก็บของใต้พื้นรถ ช่วยให้การเก็บสัมภาระเป็นระเบียบยิ่งขึ้น
- หน้าจอความละเอียดสูงแบบสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่: Ford ติดตั้งหน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว มาใน Ford Everest รุ่นใหม่ เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A ซึ่งเป็นระบบล่าสุดของ Ford

ในสถานี "Smart Technology" สื่อมวลชนยังได้ลองใช้เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสูง ที่ติดตั้งมาเพื่อเสริมความมั่นใจของผู้ขับขี่ และช่วยให้ควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้นในหลากหลายสถานการณ์ ได้แก่
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0: Ford Everest รุ่นใหม่ ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถเทียบข้าง หรือถอยจอดเข้าซองได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มเดียว โดยระบบจะช่วยหมุนพวงมาลัย เปลี่ยนเกียร์ รวมถึงควบคุมคันเร่ง และเบรค ให้รถเข้าสู่ช่องจอดได้อย่างง่ายดาย
ระบบช่วยเบรคขณะถอยหลัง: ช่วยให้ผู้ขับขี่ถอยรถได้มั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยการตรวจจับวัตถุบริเวณท้ายรถ และส่งเสียงเตือน หากผู้ขับขี่ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ระบบจะส่งแรงเพื่อเบรคจนรถหยุดนิ่ง


ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ Ford Everest รุ่นใหม่ ทุกรุ่นได้ที่เวบไซท์ www.ford.co.th และที่โชว์รูม Ford ทั่วประเทศ ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป โดย Ford พร้อมส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
เรื่องโดย : ภูเขม หน่อสวรรค์ poukhem@imc.co.th
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/online/415848