ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Tesla Semi รถหัวลากพลังไฟฟ้า ที่ได้เปิดตัวเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ขณะนี้ทางบริษัทได้เปิดรับจองแล้ว โดยวางเงินที่ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6.9 แสนบาท) ในระดับเริ่มต้น

จากข้อมูลของบริษัท Semi ถูกจัดให้เป็นรถหัวลากในระดับ Class 8 มีให้เลือก 2 รุ่น เริ่มต้นที่ราคา 150,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.2 ล้านบาท) มีระยะเดินทาง 300 ไมล์ (482 กิโลเมตร) กับราคา 180,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6.2 ล้านบาท) มีระยะเดินทาง 500 ไมล์ (804 กิโลเมตร) หลายท่านอาจมองว่าราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับเจ้าตลาดในปัจจุบันแล้ว จะเห็นได้ว่า Tesla Semi มีราคาที่สามารถแข่งขันได้ อย่างเช่น  Peterbilt 389 (รถหัวลากเทคโนโลยีล้ำทรงคลาสสิค) รุ่นตู้นอนมีราคาถึง 250,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.6 ล้านบาท) ในขณะที่รถขายดีที่สุด คือ Cascadia พร้อมตู้นอน ยังต้องกำเงินไปซื้อราคาพอๆ กับ Tesla Semi ในรุ่นทอพ

Tesla Semi ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ในการขับเคลื่อนชุดเพลาหลังคู่ รับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้ 80,000 ปอนด์ (36.2 ตัน) หัวลากพร้อมทเรเลอร์ มีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 20 วินาที แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ พละกำลังที่หัวลากพร้อมทเรเลอร์บรรทุกเต็มพิกัด สามารถวิ่งขึ้นเนินระดับ 5 % ด้วยความเร็วถึง 96 กม./ชม.

ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยความจุสูงสุดของแบทเตอรี แต่ Tesla ได้ให้ข้อมูลมาว่า Tesla Semi มีอัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าน้อยกว่า 2 กิโลวัตต์ชั่วโมง/1.6 กม. หากเทียบกับข้อมูลระยะทางที่ทำได้ในแต่ละรุ่น Semi น่าจะมีความจุแบทเตอรีประมาณ 600-1,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง

กระบวนการต่อไปของ Tesla Semi คือ การนำเข้าสู่สายพานการผลิต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ นอกจากจะอ้างถึงการแถลงของ Elon Musk ซีอีโอ คนดัง แจ้งว่า ปีนี้ยังไม่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของ Tesla เนื่องจากวิกฤตการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ แต่อย่างไรก็ตามวิศวกรของบริษัทยังต้องทำงานหนักสำหรับการเตรียมการผลิตสิ่งใหม่ๆ ทั้ง Cybertruck, Semi, Roer, Optimus พร้อมผลิตได้เต็มที่ในปีหน้า

ขณะนี้บรรดาผู้ผลิตรถบรรทุกได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ตั้งแต่การเปิดตัวรถไฟฟ้าสำหรับบรรทุก eCascadia, ค่าย Volvo เปิดตัว FMX รถหัวลากสำหรับงานหนัก และล่าสุด คือ Nikola รถหัวลากพลังงานแบทเตอรีจากโรงงานใน Chandler, Arizona แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีรายไหนที่สามารถทำตัวเลขระยะเดินทางได้เท่ากับ Tesla Semi ที่จะเปิดตัวในปีหน้า