ธุรกิจ
Nissan แนะนำเทคโนโลยี Mixed Reality (MR)

MR สามารถพัฒนาการผลิตรถยนต์ได้อย่างไร ?
เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการนำแว่นตา MR มาใช้ในการฝึกอบรมขั้นตอนการตรวจสอบสายการประกอบระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้าในโรงงาน Nissan ที่เมืองโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น
ขั้นตอนการตรวจสอบระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้าประกอบด้วยขั้นตอนการตรวจเชคถึง 30 รายการ ก่อนหน้านี้ อาจารย์ผู้สอนจะฝึกอบรมพนักงานใหม่แบบตัวต่อตัวเพื่อสอนงาน พนักงานใหม่เองได้รับมอบหมายให้ศึกษาคู่มือ และวีดีโอต่างๆ เพื่อให้ได้ระดับความชำนาญที่จำเป็น ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาอย่างมากเนื่องจากความซับซ้อนของงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงมีการทดลองนำ MR มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความชำนาญ
เมื่อสวมแว่นตา MR รูปภาพ และข้อความจะขึ้นซ้อนบนระบบส่งกำลังไฟฟ้าจริง ทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถเข้าใจงานได้ทันที ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถตรวจสอบความเข้าใจของตนเองได้โดยชี้ไปตรงส่วนที่จะตรวจเชค
Nissan ยังได้ทำงานร่วมกับ JATCO ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีติดตามการมองเห็น (Eye-Tracking Technology) ฟังค์ชันเหล่านี้ทำให้สามารถบันทึกการมองเห็นของผู้เข้าอบรมได้แม้เมื่ออยู่ลำพัง ทำให้ผู้สอนสามารถตรวจสอบความเข้าใจได้ในภายหลัง
อีกหนึ่งความล้ำจากเทคโนโลยีนี้ คือ แม้เมื่อระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้าเครื่องจริงไม่สะดวกต่อการฝึกฝน ก็สามารถดูโมเดล 3 มิติ ได้ผ่านแว่นตาเสมือนจริง
รูป และตัวอักษรช่วยให้ผู้ฝึกอบรมทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
ผู้ฝึกอบรมสามารถรีวิว (บนจอมีตัวอักษรขึ้นว่า “ถูกต้อง. ไปที่การทดสอบถัดไป”)
หลังจากนั้นผู้สอนสามารถตรวจสอบบันทึกเพื่อประเมินทักษะ
ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ระยะเวลาการเรียนรู้ลดลงครึ่งหนึ่ง และระยะการฝึกสอนลดลงถึง 90 %
ระยะเวลาฝึกอบรม จาก 10 วัน เหลือ 5 วัน
ระยะเวลาสอน จาก 10 ชม. เหลือ 1 ชม.
เหตุผลในการนำ MR มาใช้
การขาดแคลนแรงงานในญี่ปุ่น ที่มีสาเหตุมาจากอัตราการเกิดต่ำ และสังคมสูงอายุ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่นิสสันนำเทคโนโลยี MR มาใช้ในการผลิต อีกทั้งยานพาหนะในปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น อัจฉริยะมากขึ้น และมีระบบการเชื่อมต่อที่พัฒนามากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่พนักงานทุกคนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างสะดวกสบาย และพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของตนได้ ต้องขอบคุณ MR ที่ทำให้พนักงานใหม่สามารถเรียนรู้งานได้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้ผู้สอนใช้เวลากับงานขั้นสูงได้มากขึ้น เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์นี้ใช้เวลาการพัฒนา และนำมาใช้เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี เรามาดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นกัน
ในมุมมองของ คาซุกิ ชิมิซุ วิศวกรด้านระบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งดูแลการพัฒนา MR ที่โรงงานในโทชิกิ (Kazuki Shimizu, The Facilities and System Engineer in Charge of MR Development at The Tochigi Plant) เทคโนโลยีนี้ถือเป็นช่วงการเรียนรู้ที่ให้ประโชน์ และมีสิทธิภาพสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“โรงงานของเราเป็นโรงงาน Nissan แห่งแรกที่ผลิตมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบจึงเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับพวกเราทุกคน” เขากล่าว "ระบบใหม่มีประโยชน์เพราะทุกคนเป็นมือใหม่"
มาซาฮิโตะ อิเดะ ผู้สอน (Masahito Ide, An Instructor) เน้นย้ำถึงคุณประโยชน์ของการทดสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า Nissan
“ถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีใหม่” เขากล่าว “แต่มันจะไร้ความหมายหากเราไม่ได้ใช้มันอย่างต่อเนื่อง เราสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานด้านการพัฒนาหลายครั้งจนกระทั่งเราพอใจกับไซท์งาน และสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่าง มีประสิทธิภาพ"
“MR เป็นเรื่องใหม่ และเข้าใจง่าย” ไดอิกิ มัตซึโมโต ผู้ตรวจสอบ (Daiki Matsumoto, An Inspector) กล่าว "ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสนุกจริงๆ ที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเรา"
จากความสำเร็จที่เมืองโทชิกิ ทำให้ Nissan ดำเนินการต่อยอดระบบนี้ที่เป็นวิสัยทัศน์แห่งอนาคตไปยังสายการผลิตอื่นๆ
การใช้ XR ที่ Nissan
ปัจจุบัน Nissan ใช้เทคโนโลยี XR ในการทำงานที่หลากหลาย อาทิ แผนกออกแบบใช้เทคโนโลยีนี้ร่วมกับเทคนิคการสร้างโมเดลรถยนต์จากดินน้ำมัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการปรับปรุงแก้ไข
นอกจากนี้ Nissan ยังได้เนรมิตพื้นที่ประสบการณ์แบรนด์ Nissan Crossing ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกินซา กรุงโตเกียวให้เป็นแกลลอรีเสมือนจริงใน Metaverse คลิกที่ลิงค์นี้เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการสื่อสารเชิงดิจิทอล 

