ระเบียงรถใหม่
All New Range Rover Sport 2023
Range Rover Sport เป็นรถประเภท Mid-Size Luxury SUV รถรุ่นต่างๆ จากค่าย Land Rover มักเป็นรถที่ใช้ขับลุยป่า ในพื้นที่ทุรกันดาร ที่รถทั่วไปเข้าถึงยาก แต่สิ่งที่ทำให้ Range Rover แตกต่างออกมาจากรุ่นอื่นๆ คือ การตกแต่งภายในที่หรูหรา มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากกว่า ทำให้การเดินทางบนถนนวิบากของผู้คนทั่วไปทำได้ง่ายขึ้น เปลี่ยนภาพลักษณ์รถขับเคลื่อน 4 ล้อ จากรถที่ผู้ขับขี่ที่ต้องผจญความวิบากพอๆ กับสภาพถนน กลายเป็นรถที่ให้ความสบายได้ไม่แพ้กับรถซีดานหรู
Range Rover เป็นรถรุ่นเรือธงของค่าย Land Rover เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ สมรรถนะสูง (Sport Utility Vehicle หรือ SUV) ที่เริ่มผลิตครั้งแรกในปี 1970 ในปี 2005 ได้เปิดตัว Range Rover Sport เจเนอเรชันแรก เป็นรถที่ถอดแบบมาจากรถ Stormer Concept ที่เป็นการกำหนดทิศทางใหม่สำหรับการออกแบบรถ Range Rover อันเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตของค่าย
สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Land Rover ในการขับเคลื่อนความเป็นเลิศด้านสมรรถนะ ได้มีการเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซินซูเพอร์ชาร์จขนาด 4.2 ลิตร สมรรถนะสูง ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมครอสส์ลิงค์ ที่สามารถปรับความสูง เพิ่มความสบายในการขับเคลื่อนทุกล้อให้เหมาะสมทุกสภาวะเส้นทาง
วันนี้ได้มีการเปิดตัว Range Rover Sport เจเนอเรชัน 3 ที่มีรูปร่างหน้าตาถอดแบบมาจากพี่ใหญ่ New Range Rover ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยทั้งสองใช้พแลทฟอร์ม MLA-Flex
ตั้งแต่กระจังหน้าดีไซจ์นอันเป็นเอกลักษณ์ ในขนาดที่เล็กลง พร้อมติดชื่อ Range Rover ที่ขอบฝากระโปรงหน้า ไฟหน้า LED Matrix-Laser พร้อมไฟ LED DRL รูปตัว J ในโคมเดียวกัน
ด้านข้างออกแบบได้ดูแข็งแกร่ง บึกบึน หลังคารถที่ลาดลง เพิ่มความสปอร์ท ที่เปิดประตูซ่อนในตัวถัง ช่องระบายอากาศติดข้างบังโคลนหน้าซ้าย/ขวา เพื่อเพิ่มแอโรไดนามิค ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.29 ด้านท้ายต่างจาก Range Rover รุ่นพี่ โดยไฟท้าย LED มาในแบบแนวนอน พร้อมแถบตัวอักษร Range Rover เชื่อมไฟท้ายทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกัน สปอยเลอร์สีดำ
New Range Rover Sport มีมิติตัวถังความยาว 4,946 มม. กว้าง 2,047 มม. สูง 1,820 มม. ฐานล้อ 2,997 มม. (ยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 54 มม.)
เมื่อเปรียบเทียบกับพี่ใหญ่อย่าง Range Rover เจเนอเรชันที่ 5 ที่เพิ่งเปิดตัวไป ที่มีความยาว 5,052/5,252 มม. (ฐานล้อสั้น/ฐานล้อยาว) กว้าง 2,047 มม. สูง 1,870 มม. ระยะฐานล้อ 2,997/3,197 มม. (ฐานล้อสั้น/ฐานล้อยาว)
ภายในหรูเทียบชั้นกับพี่ใหญ่ มีพื้นที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยมีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้น 31 มม. คอนโซลกลางโดดเด่นด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ Pivo Pro Touchscreen 13.1 นิ้ว มาพร้อมลำโพงจาก Meridian 29 จุด กำลังขับ 1,430 วัตต์ มาตรวัดดิจิทอลขนาดใหญ่ 13.7 นิ้ว พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน 3 ก้าน และ Head-Up Display จอแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า มาพร้อมกับ Amazon Alexa ซึ่งสั่งงานได้ด้วยเสียง
เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มด้วยผ้า Ultrafabircs หรือหนังสีทูโทน Semi-Aniline ที่นุ่มสบายกว่าหนังทั่วไป มีปีกที่กระชับโอบสรีระผู้โดยสารได้มากขึ้น สามารถนวด พร้อมปรับอุณหภูมิร้อน/เย็น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิ แรงลม ระบบฟอกอากาศ Cabin Air-Purification Pro ที่มีทั้งความสามารถในการกรองฝุ่น PM2.5 และเทคโนโลยี NanoeX ที่ช่วยลดกลิ่น และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ มาพร้อมปลั๊กไฟ 220 โวลท์
ด้วยงานวิศวกรรมการออกแบบ MLA-Flex Platform เสริมด้วยเหล็กคุณภาพสูงมากกว่ารุ่นก่อนถึง 35 %ทำให้ New Range Rover sport สามารถรองรับขุมพลังได้หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาปล้วน, Mild-Hybrid, PHEV และพลังงานไฟฟ้าล้วน (ซึ่งจะตามมาในภายหลัง)
P360 Mild Hybrid เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร 360 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
P400 Mild Hybrid เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร 360 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร 3.0 ลิตร 400 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร
รุ่นที่มีกำลังมากสุด คือ P530 มากับเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบ 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.5 วินาที
D300 เครื่องยนต์ดีเซล Mild Hybrid 3.0 ลิตร 300 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตัน-เมตร
D350 เครื่องยนต์ดีเซล Mild Hybrid 3.0 ลิตร 350 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร
P440e PHEV เบนซิน เทอร์โบ 3.0 ลิตร 440 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตัน-เมตร โดยวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 114 กม. ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 140 กม./ชม.
P510e เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร 510 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 5.4 วินาที เพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. โดยวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 113 กม. ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 150 กม./ชม. ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 142 แรงม้า แบทเตอรี 38.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง พร้อมชาร์จที่บ้าน Wallbox AC ชาร์จปกติ 0-100 % ชาร์จได้ในเวลา 5 ชม. ระบบชาร์จเร็ว DC รองรับสูงสุด 50 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จไฟจาก 0-80 % ในเวลา 40 นาที
ทุกขนาดเครื่องยนต์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Intelligent All-Wheel Drive ซึ่งจะมีการหยุดส่งกำลังสู่ล้อหน้าในเส้นทางปกติ เพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิง และพร้อมกลับมาทำงานทันทีเมื่อมีสถานการณ์ หรือเส้นทางที่จำเป็นต้องขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ
โหมดการขับขี่ Terrain Response 2 แบบเดียวกับพี่ใหญ่ Range Rover มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 6 โหมด ตามเส้นทางที่แตกต่าง ตั้งแต่โหมดการขับขี่ทางเรียบ, ขับผ่านลำธารที่สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 90 ซม., ทางโขดหิน, ทางโคลน, โหมดทางพื้นหญ้า/กรวด/หิมะ และโหมดลุยทางทราย เสริมอาวุธด้วยระบบลอคเฟืองท้าย Differential Controls ทำให้เลี้ยวโค้งได้อย่างมั่นใจ เสริมความนุ่มนวลด้วยช่วงล่างถุงลมพร้อม Air springs ที่สามารถปรับความสูงของรถเพิ่มขึ้นได้ตามสภาวะเส้นทาง
ให้ความสบายในการเดินทางทั้งบนทางเรียบ และเส้นทางทุรกันดาร ด้วยระบบควบคุมการทรงตัว Active Roll Control ระบบ Terrain Response Controller ที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วสำหรับการปรับความเร็วของรถ ตามลักษณะเส้นทาง และอุปสรรค (Off-road Cruise Control) นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลัง ที่ช่วยเลี้ยวได้ 7.3 องศา (rear-wheel steering system) เสริมด้วยระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง ช่วยให้การควบคุมรถทำได้ดีขึ้น
ทั้งหมดมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรคอัตโนมัติ Emergency Braking
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 3D Surround Camera
เซนเซอร์ช่วยจอดหน้า/หลัง front and rear parking sensors
กระจกมองหลังแสดงภาพจากกล้องหลัง ClearSight Ground View
ระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Keep Assist
ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
All New Range Rover Sport มีราคาเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 2.89 ล้านบาท และในอังกฤษราคา 3.35 ล้านบาท ส่วนเมืองไทยอาจเปิดตัวประมาณปี 2023 แต่จะมีการเปิดตัวรุ่นพี่อย่าง All New Range Rover ในไทยก่อน ประมาณปลายเดือนนี้
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/409204