ธุรกิจ
Mazda ปลื้มยอดขาย CX-Series
Mazda เผยภาพรวมธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยยอดขายปี 2564 พุ่งทะลุ 35,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 5 % โดยรถยนต์นั่ง Mazda2 ยังคงครองความนิยมสูงสุด ตามด้วยรถตระกูล CX-Series ที่เพิ่งส่งลงตลาดถึง 3 รุ่นรวด ในไตรมาสสุดท้ายของปี ส่งผลให้ยอดขายเดือนธันวาคมพุ่งสูงถึง 3,750 คัน โดยเฉพาะ CX-30 และ CX-3 ที่มียอดขายเติบโตทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัวแนะนำสู่ตลาด ที่สำคัญ Mazda พร้อมเดินหน้าต่อทันทีต้อนรับปีเสือ เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ครบทุกเซกเมนท์หวังกระตุ้นตลาดตั้งแต่ต้นปี โดยเริ่มจาก CX-3 ตามมาด้วย Mazda2 และยังเตรียมเปิดตัวแนะนำ Mazda CX-30 และต่อด้วย Mazda3 ในไตรมาสแรกนี้ เตรียมยกระดับมาตรฐาน และคุณภาพด้านการบริการหลังการขายให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้มากกว่า 40,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 10 % และครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 5 %
ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2564 ที่ผ่านมานับเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งต่อธุรกิจรถยนต์ เนื่องจากมีทั้งปัจจัยภายนอก และภายในที่เข้ามากระทบ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปี และการขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบเซมิคอนดัคเตอร์ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก จึงทำให้อุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต้องชะลอตัวลง แต่ด้วยมาตรการช่วยเหลือต่างๆ จากทางภาครัฐ และความร่วมแรงร่วมใจกันของพี่น้องชาวไทย จึงทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น และเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงปลายปี ซึ่งทำให้ตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ที่เกิดขึ้น ลดลงเล็กน้อยตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ไว้
สำหรับตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในปี 2564 ยอดรวมสะสมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 762,000 คัน (ตัวเลขประมาณการ) หรือลดลงเล็กน้อยเพียง 4 % เช่นเดียวกับยอดการจำหน่ายรถยนต์ Mazda ที่เคยตั้งเป้าไว้ที่ 40,000 คัน แต่เนื่องจากเกิดการระบาดของ COVID-19 ขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่เกิดการลอคดาวน์ทั้งประเทศ จึงทำให้แนวโน้ม และทิศทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ท้ายที่สุดก็ยังสามารถคว้ายอดขายสะสมได้ถึง 35,385 คัน หรือลดลงเล็กน้อยเพียง 9.8 % แต่ทั้งนี้แล้ว ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และตลาดเกิดใหม่ โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง จำนวน 19,799 คัน ลดลง 20.2 % รถอเนกประสงค์เอสยูวี จำนวน 14,225 คัน เพิ่มขึ้น 21.4 % และรถพิคอัพ 1,361 คัน ลดลง 49.7 % โดยยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้ที่ 4.6 %
ชาญชัย กล่าวเสริมว่า การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงการปรับโฉมเพื่อสร้างความสดใหม่ให้แก่พโรดัคท์ ทั้งรถยนต์นั่ง และรถอเนกประสงค์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้เดือนธันวาคม 2564 Mazda สามารถทำยอดขายรวมได้สูงถึง 3,750 คัน (สูงสุดในรอบปีงบประมาณ 2564) โดยแบ่งออกเป็นรถอเนกประสงค์ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี Mazda CX-30 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่เปิดตัวแนะนำสู่ตลาด ถึงแม้จะมีคู่แข่งรอบด้านก็ยังยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ด้วยจำนวน 1,255 คัน (สร้างสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัว) ตามมาด้วยรถยนต์นั่ง Mazda2 จำนวน 1,059 คัน และรุ่นที่กำลังร้อนแรงมากที่สุดหลังจากปรับโฉมที่มาพร้อมกับสีใหม่ พแลทินัม ควอร์ทซ์ คือ Mazda CX-3 จำนวน 750 คัน (ทำสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัว) รถยนต์นั่ง Mazda3 จำนวน 137 คัน รถอเนกประสงค์ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีที่เพิ่มทางเลือกแบบ 6 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ที่ตอบรับความต้องการของลูกค้าที่รอคอยได้อย่างลงตัว Mazda CX-8 จำนวน 192 คัน และ Mazda CX-5 จำนวน 137 คัน ส่วนรถพิคอัพ Mazda BT-50 กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังไฟแนนศ์เริ่มผ่อนคลายมาตรการด้านเช่าซื้อ ด้วยตัวเลขจำนวน 211 คัน และสปอร์ทเปิดประทุน Mazda MX-5 จำนวน 1 คัน
พร้อมกันนี้ ชาญชัย ยังได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในปี 2565 ว่า Mazda คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10 % แต่ทั้งนี้แล้วก็ขึ้นอยู่กับมาตรการส่งเสริมจากทางภาครัฐ อาทิ การส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และราคาสินค้าการเกษตร ที่สำคัญยังคงต้องจับตาการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในระลอกใหม่ ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหนต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่คาดว่าตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากไตรมาสแรกของปีนี้ อันเห็นได้จากยอดขายเดือนธันวาคมที่เติบโตขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และความต้องการของลูกค้าต่อการซื้อรถยนต์ว่ายังคงมีอยู่ สำหรับ Mazda คาดการณ์ไว้ว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมวางเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 % หรือมากกว่า 40,000 คัน และครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 5 %
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส กล่าวเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านการตลาดว่า ในปีที่ผ่านมาถือว่า Mazda ประสบความสำเร็จ สามารถประคับประคองธุรกิจ และยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย สิ่งสำคัญ คือ รถยนต์ทุกรุ่นที่เปิดตัว และปรับโฉมใหม่นั้น ลูกค้าให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะไม่มีรถเก๋ง หรือรถเอสยูวีลงสู้ศึกในตลาด แต่ในช่วงเดือนตุลาคม Mazda ได้เริ่มเปิดตัวแนะนำ CX-5 และ CX-8 และตามมาด้วย CX-3 ในเดือนธันวาคม เกิดเสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามต่อรถทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว จึงทำให้ยอดขายเดือนธันวาคมพุ่งสูงถึง 3,750 คัน
“ด้านกลยุทธ์สำหรับปี 2565 Mazda จะยังคงเดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง โดยเฉพาะการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดรถใช้แล้วผ่านโครงการ CPO หรือ Mazda Certified Pre-Owned ที่ผ่านมาตรฐาน และการรับประกันคุณภาพจาก Mazda ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าหมายเปิด 9 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ ควบคู่ไปกับให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการตลาด การขาย และการบริการ รวมถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อให้พร้อมรองรับต่อปริมาณลูกค้า Mazda ที่เพิ่มขึ้น และสอดรับกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ Mazda จะยังคงเน้นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทอลมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน” ธีร์ กล่าวเสริม
สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์ Mazda ประจำปี 2564 เปรียบเทียบกับปี 2563
ในปี 2564 Mazda เดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มที่ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงมากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถหยุดความมุ่งมั่นของ Mazda ได้ โดยเริ่มจาก
ข้อมูลการขายรถ | มกราคม-ธันวาคม 2564 | มกราคม-ธันวาคม 2563 | % เปลี่ยนแปลง |
Mazda2 | 17,813 | 21,789 | - 18.2 |
Mazda3 | 1,982 | 3,041 | - 34.8 |
Mazda CX-3 | 4,747 | 2,229 | + 112.9 |
MazdaCX-30 | 7,497 | 5,725 | + 30.9 |
Mazda CX-5 | 930 | 1,623 | - 42.6 |
Mazda CX-8 | 1,051 | 2,139 | - 50.8 |
Mazdaา BT-50 | 1,361 | 2,711 | - 49.7 |
Mazda MX-5 | 4 | 9 | - 55.5 |
ยอดรวม | 35,385 | 39,266 | - 9.8 |
- เดือนมกราคม: เปิดตัวแนะนำ Mazda BT-50 ใหม่
- เดือนกุมภาพันธ์: ปรับโฉม New Mazda2 รุ่นปี 2021 Collection
- เดือนเมษายน: จัดประชุมผู้จำหน่ายผ่าน Video Conference
- เดือนมิถุนายน: เปิดศูนย์บริการแบบเร่งด่วน Mazda Fast Service ที่ให้บริการตรวจเชคตามระยะทางแบบเร่งด่วนเพียงแค่ 30 นาที เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และเพื่อบรรเทาความหนาแน่นในการเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการหลัก
- เดือนมิถุนายน: Mazda Motor Corporation ออกประกาศเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และนโยบายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามวิสัยทัศน์ระยะยาว Sustainable zoom-zoom 2030 รวมถึงแผนบริหารงานระยะกลาง และนโยบายสำคัญ เพื่อลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2050 โดยยังคงมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ภายในปี 2030
- เดือนสิงหาคม: สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม Mazda ปันสุข ปี 2 โดยจัดตั้งตู้ “ปันสุข” บริเวณด้านหน้าโชว์รูม และจัดคาราวานช่วยเหลือลูกค้าทั่วประเทศ
- เดือนกันยายน: ให้การสนับสนุนฟุตบอล สโมสรนครราชสีมา-มาสด้า เอฟซี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
- เดือนกันยายน: ส่งมอบพิคอัพ BT-50 ให้แก่โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ และศูนย์ฉีดวัคซีน เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 และมอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ และแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อส่งกำลังใจ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุข
- เดือนตุลาคม: Mazda ห่วงใยลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม จัดแคมเปญด่วนพิเศษ มอบส่วนลดค่าอะไหล่ 50 % และส่วนลดค่าแรง 10 %
- ต้นเดือนตุลาคม: เปิดตัวแนะนำ CX-5 ใหม่ กับแนวคิดใหม่ “พลังความสุข ที่เร้าใจทุกเส้นทาง” ประกาศชัดพร้อมผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวี
- กลางเดือนตุลาคม: เปิดตัวแนะนำ CX-8 ใหม่ รถอเนกประสงค์เอสยูวีระดับพรีเมียม แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง
- เดือนพฤศจิกายน: เปิดตัวแนะนำ CX-3 ใหม่ เปิดสีภายนอกทเรนด์ใหม่ สีพแลทินัม ควอร์ทซ์
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/397684