ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา นับว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ แต่การหา Mazda ไซซ์มีนีคงเป็นเรื่องยาก เพราะรถที่เล็กที่สุดของค่ายนี้ คือ Mazda3 คอมแพคท์ซีดาน และแฮทช์แบคเท่านั้น แม้แต่ Mazda2 ก็ยังไม่มีวางตลาดในอเมริกาเหนือเลย ส่วน Toyota Yaris ค่ายร่วมมือกันก็หยุดการทำตลาดไปในช่วงก่อนรุ่นปี 2564 แล้วในญี่ปุ่น รถที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด หรือที่เรียกว่ากลุ่ม “Kei Car” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำยอดขาดได้ไม่น้อย โดย Mazda วางตลาดด้วยรุ่น Carol ได้ทำไมเนอร์เชนจ์ เพื่อวางตลาดในปี 2565 ภายนอกจะคล้ายคลึงกับ Suzuki Alto พี่น้องที่คลานตามกันมา โดยทาง Suzuki จะวางขายทั้งในญี่ปุ่น และอีกหลากหลายประเทศ Mazda Carol มีมิติเท่ากับ Alto ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเรียง รหัส R06A ของ Suzuki ความจุ 658 ซีซี และอีกเครื่องยนต์ รหัส R06D มีความจุ 657 ซีซี ที่พ่วงระบบ Mild Hybrid ที่เจเนอเรเตอร์ ทำหน้าที่ชาร์จไฟย้อนกลับไปยังแบทเตอรีด้วย และยังเป็นมอเตอร์เสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์ ในขณะที่ต้องการกำลังเพิ่ม Mazda Carol มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมระบบ Mild Hybrid มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 27.7 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC ทั้ง 2 ค่ายร่วมมือในการผลิต Kei Car มายาวนานกว่า 40 ปี โดยใช้โครงสร้างตัวถัง และรูปทรงภายนอกคล้ายกัน แต่ Mazda Carol จะมีการการออกแบบห้องโดยสารที่แตกต่างกัน สำหรับ ปี 2565 เรื่องราวของทั้ง 2 บริษัทยังคงเดิม โดย Suzuki ได้เปิดตัว Alto เจเนอเรชันที่ 9 เมื่อเดือนธันวาคม 2564 และ Mazda จะเปิดตัว Carol เจเนอเรชันที่ 8 ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2565 ด้วยราคาประมาณ 2.88 แสนบาท อย่างไรก็ตาม Mazda Carol ก็ยังไม่มีแผนทำการตลาดในอเมริกาเหนืออยู่ดี