Advertorial
ดูแลดี ไม่มีพัง ! รวมวิธีดูแลรถยนต์หลังลุยน้ำท่วม

1. ตรวจสภาพห้องโดยสาร หลังรถลุยน้ำ
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ สำรวจความเสียหาย หรือความผิดปกติจากการลุยน้ำท่วม ภายในห้องโดยสาร แม้ว่าจะเคลื่อนรถช้าๆ ขณะลุยน้ำ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่น้ำจะซึมผ่านส่วนที่เป็นซีล หรือรอยต่อต่างๆ เข้าไปภายในรถ
ข้อควรปฏิบัติ : หลังขับรถลุยน้ำ ควรตรวจสอบความเสียหายทันที หรือภายใน 1-2 วัน โดยให้สังเกตที่ "พรมปูพื้น" หากรู้สึกว่าด้านใต้พรมมีน้ำแฉะ ให้รีบนำพรมออกตากแดด ไม่ควรทิ้งให้น้ำขังอยู่ภายในรถ เพราะจะเกิดเชื้อราจากความชื้น ควรทำความสะอาดให้แห้งทันที และควรเปิดประตูรถทั้ง 4 ด้าน เพื่อระบายอากาศ ไล่ความชื้นออกจากห้องโดยสาร สำหรับรถยนต์บางรุ่น จะมีโมดูลควบคุมถุงลมนิรภัยอยู่ที่ใต้เบาะคนขับ ก็ควรดูแลไม่ให้มีความชื้น ด้วยเช่นกัน
2. ตรวจสอบระบบอีเลคทรอนิคส์ และระบบไฟฟ้า
ส่วนสำคัญที่ต้องตรวจสอบ คือ ระบบการทำงานของรถ ซึ่งความเสียหายมักเกิดจากความชื้น จากน้ำที่เข้าไปในระบบอีเลคทรอนิคส์ และสายไฟต่างๆ เพื่อความมั่นใจควรเชคระบบไฟเหล่านี้ทันที
ข้อควรปฏิบัติ : ควรตรวจสอบภายในกล่องฟิวส์ ว่ามีความเสียหายหรือไม่ หากมีความเสียหายที่ฟิวส์ควรเปลี่ยนทันที โดยอ้างอิงข้อมูลจากฝากล่องฟิวส์รถยนต์ รวมไปถึงดูกล่องอีซียู และเช็ดให้สะอาดหากเปียกน้ำ นอกจากนี้ ยังควรตรวจสอบไฟต่างๆ นอกรถด้วย หากรู้สึกว่าอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติ ควรถอดขั้วต่อแบทเตอรีออก และรอให้ช่างตรวจสอบ และประเมินต่อไป
3. ล้างรถให้สะอาด
"ภัยน้ำท่วม" ไม่ได้มาแค่น้ำอย่างเดียว แต่ยังนำพาหะเชื้อโรค และแบคทีเรียต่างๆ ลอยมากับน้ำด้วย หากเราไม่รีบทำความสะอาด นอกจากจะทำให้ผู้ขับขี่ป่วยได้แล้ว ยังทำให้รถของคุณเป็นคราบฝังแน่น ส่งผลเสียต่อสีรถโดยตรงอีกด้วย
ข้อควรปฏิบัติ : ไม่ควรนำรถมาขับทันทีหลังลุยน้ำท่วม แต่ควรทำความสะอาดด้วยแชมพูล้างรถ หรือเข้า Car Care เสียก่อน โดยอาจพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ร่วมด้วยก็ได้
4. ตรวจสอบการใช้งานของเบรค
เมื่อขับผ่านแหล่งน้ำท่วมขังมาได้ อย่าเพิ่งขับรถด้วยความเร็วสูงเด็ดขาด เพราะการขับรถลุยน้ำ จะทำให้ผ้าเบรคเปียก และมีความชื้น เวลาเหยียบเบรค จะมีอาการคล้ายเบรคไม่อยู่ และต้องใช้ระยะทางที่มากขึ้น
ข้อควรปฏิบัติ : ควรเหยียบเบรคย้ำๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อให้ความร้อนไล่ความชื้นบนผ้าเบรคกับจานเบรค ให้อยู่ในสภาพปกติ ดังนั้นควรขับในความเร็วที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
5. ตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์
หลังการลุยน้ำท่วมแล้ว ผู้ขับขี่ควรสังเกตอาการของเครื่องยนต์ด้วยว่า มีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปคนที่ขับรถตนเองเป็นประจำอยู่แล้ว ก็น่าจะรับรู้ถึงความผิดปกติได้ไม่ยาก
ข้อควรปฏิบัติ : เมื่อเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการกระตุก เร่งเครื่องไม่ขึ้น หรือมีเสียงดังกว่าปกติ ให้จอดรถ แล้วตรวจสอบก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง หากพบว่ามีสีเหมือนกาแฟใส่นม แสดงว่ามีน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์แล้ว หรือไม่ก็ต้องตรวจสอบกรองอากาศ หากพบว่ากรองอากาศ และท่อไอดีเปียกน้ำ ก็มั่นใจได้ว่า มีน้ำเข้าเครื่องยนต์ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ ให้ช่างซ่อมทันที
หากรถของคุณมีความผิดปกติหลังจากขับรถลุยน้ำ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด ควรรีบตรวจสอบตามขั้นตอนที่ "DirectAsia" แนะนำ หรือนำรถส่งอู่ซ่อม ให้ช่างดูแลจะดีกว่า เพราะหากมีความเสียหายเกิดขึ้นจริง จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที จากหนักอาจกลายเป็นเบา หรือความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ จะได้ไม่บานปลาย ทำให้เสียเงินค่าซ่อมแพงกว่าเดิม
ที่สำคัญ อย่าลืมเสริมเกราะคุ้มครองให้รถ ด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก "DirectAsia" ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ แถมได้เบี้ยราคาดี มีโปรโมชันซื้อออนไลน์ รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 1,000 บาท* และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงฟรี ที่ https://www.directasia.co.th/ หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 - 2767 - 7777
ส่วนใครที่กำลังมองหาอู่ซ่อมรถใกล้บ้าน สามารถค้นหาได้ง่ายๆ ที่นี่ https://www.directasia.co.th/garage-nearme/ มีอู่ และศูนย์ซ่อมคุณภาพในเครือ DirectAsia ให้เลือกมากกว่า 1,000 แห่ง โดยมีความปลอดภัยตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข 100 % มั่นใจ วางใจ เชื่อใจ และหายห่วงได้แน่นอน 

