ทดลองขับ(formula)
Toyota Camry โฉมใหม่ หรูหรา ครบเครื่อง
Toyota Camry รุ่นปรับโฉม มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น นำเสนอความสมบูรณ์แบบด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ท หรูหรา ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย สมรรถนะเหนือระดับ ด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ขับขี่มั่นใจและระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกด้วย Toyota Safety Sense เวอร์ชันล่าสุด
Toyota Camry รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ มีให้เลือก 4 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซิน ได้แก่ รุ่น 2.5 HEV Premium Luxury และ รุ่น 2.5 HEV Premium สำหรับผู้บริหารระดับ Executive ด้วยห้องโดยสารที่ให้ความสะดวกสบาย กว้างขวาง ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีความปลอดภัยสูงสุด รุ่น 2.5 Premium สำหรับผู้บริหารที่ชื่นชอบการขับรถด้วยตัวเอง ด้วยพลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic force และความปลอดภัยขั้นสุดจาก Toyota Safety Sense รุ่น 2.5 Sport สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่า ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครันในราคาที่จับต้องได้ ให้สมรรถนะแรงยิ่งขึ้น และประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์รุ่น 2.0 เดิม
ภายนอก หรูหรา ดูสปอร์ทยิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายนอก หรูหรา และสปอร์ทยิ่งขึ้น กระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมคิ้วโครเมียม ชุดโคมไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวในทุกรุ่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light กันชนหน้าใหม่ออกแบบดูสปอร์ทมากขึ้น พร้อมช่องระบายอากศออกแบบใหม่รับกับคิ้วโครเมียมขอบซ้าย/ขวา ในรุ่น 2.5 HEV Premium Luxury และ รุ่น 2.5 HEV Premium และไฟตัดหมอกหน้า LED เพิ่มขนาดล้ออัลลอยใหญ่ขึ้นเป็น 18 นิ้ว ยาง 235/45 R18 (ยกเว้นรุ่น 2.5 Sport ที่เป็น 17 นิ้ว ยาง 215/55 R17)
ในรุ่น 2.5 HEV Premium และ 2.5 HEV Premium Luxury นอกจากจะมีสัญลักษณ์ Hybrid ยังเสริมคิ้วโครเมียมบนฝากระโปรงท้าย ไฟท้าย LED รับกับกันชนท้ายใหม่เสริมลุคส์สปอร์ท
ภายใน ปราณีต พิถีพิถัน สบายกว่า
ภายในมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตรงบริเวณจอสัมผัสขนาดกับช่องแอร์มีการสลับตำแหน่งกันโดยจอสัมผัสขนาดใหญ่ไปอยู่ตำแหน่งอยู่ด้านบน วัสดุตกแต่งภายในลายไม้แบบใหม่ หนังหุ้มเบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่ม
มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ทหรู แสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ อย่างเด่นชัด หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ Head-Up Display
ห้องโดยสารกว้างขวาง และความเงียบ พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้านุ่มสบาย มีพัดลมใต้เบาะและพนักพิง ลดความอับชื้น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ในรุ่น Premium เบาะนั่งด้านหลังปรับไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมที่คอนโซลด้านหลัง หน้าจอแบบ Floating type ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 9 นิ้ว แบบใหม่ สามารถเชื่อมต่อทุกความสะดวกผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
เบาะหลังกว้างนั่งสบาย โอบกระชับสรีระผู้โดยสาร และหมอนพิงศีรษะเบาะหน้าปรับพับเก็บได้ เพิ่มทัศนวิสัยด้านหลัง พนักพิงเบาะสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าให้ความรู้สึกผ่อนคลายและไม่เมื่อยล้าเมื่อต้องนั่งทางไกล พร้อมทั้งแผงควบคุมหน้าจอสัมผัสแบบดิจิทัลที่เบาะนั่งด้านหลังสามารถควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ตามต้องการ ระบบเปิดประตูอัจฉริยะฝั่งผู้โดยสาร
ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน ซ้าย/ขวา และด้านหลังพร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย รองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi ชาร์จไฟสะดวก พร้อม ช่องต่อ USB ด้านหลัง 2 ช่อง สะดวกสบาย ชาร์จไฟสะดวกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ไฮบริดประหยัดกว่าเดิม/ 2.5 ลิตร สะใจ
รุ่น 2.5 HEV Premium Luxury และรุ่น 2.5 HEV Premium ใช้ขุมกำลังระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร Dynamic Force (A25A-FXS) กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (131 กิโลวัตต์) ที่ 5,700 รตน. แรงบิดสูงสุด 22.5 กก.-ม. (221 นิวตัน-เมตร) ที่ 3,600 - 5,200 รตน. กับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิด มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 119.6 แรงม้า (88 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 20.6 กก.-ม. (202 นิวตัน-เมตร) แบทเตอรีไฮบริดใหม่ ชนิดนิกเกิลเมตัลไฮดราย มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทาน ความจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์-ชั่วโมง เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดรวม 211 แรงม้า (155 กิโลวัตต์) ส่งกำลังผ่านเกียร์แปรผัน E-CVT
อัตราเร่งดี ตอบสนองทันใจ และมีตัวเลขอัตราอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กม./ลิตร (5 ลิตร/100 กม. บน ECO สติกเกอร์) ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง ซึ่งตัวเลขบนมาตรวัด 20.4 กม./ลิตร (เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ระยะทาง 710 กม.)
รุ่น 2.5 Premium และรุ่น 2.5 Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร Dynamic Force (A25A-FKB) กำลังสูงสุด 209 แรงม้า (154 กิโลวัตต์) ที่ 6,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. (250 นิวตัน-เมตร) ที่ 5,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีสมรรถนะเร้าใจในทุกช่วงความเร็ว ส่วนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 15.6 กม./ลิตร (บน ECO สติกเกอร์)
ระบบรองรับ นุ่ม หนืบ ขับสบาย
โครงสร้างสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย มุมมองการเข้าโค้งดี ควบคุมรถง่าย ระบบรองรับ นุ่ม หนืบ ขับสบาย มั่นใจทุกสภาพถนน ขับสนุก เกาะถนนดี และนั่งสบายด้วยจุดศูนย์ถ่วงตัวรถที่อยู่ต่ำ มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ที่เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันอุบัติเหตุ มั่นใจในทุกการเดินทาง Toyota Camry รุ่นปรับโฉมใหม่ ติดตั้ง Toyota Safety Sense เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่เพิ่มเติมระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) แบบใหม่ ที่เพิ่มระบบการตรวจจับคนเดินเท้าและคนขี่จักรยาน โดยระบบจะเตือนและช่วยเบรกอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-Speed สามารถลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง ที่มาพร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน และช่วยลดความเร็วขณะเข้าโค้ง (Curve Speed Reduction) อีกด้วย ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ (Intelligent Clearance Sonar with Rear Cross Traffic Braking) ป้องกันอุบัติเหตุและช่วยให้ขับถอยออกจากช่องจอดได้มั่นใจยิ่งขึ้นกล้องมองรอบคัน 360 องศา (Panoramic View Monitor) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยรอบด้าน ด้วยภาพที่คมชัด เพิ่มความอุ่นใจในการจอดรถ สรุป ใหญ่กำลังดี สบายสไตล์วีไอพี ห้องโดยสารกว้างขวาง และความเงียบ เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้านุ่มสบาย เบาะหลังกว้างนั่งสบาย โอบกระชับสรีระผู้โดยสาร และหมอนพิงศีรษะเบาะหน้าปรับพับเก็บได้ เพิ่มทัศนวิสัยด้านหลัง พนักพิงเบาะสามารถปรับเอนได้ในรุ่น 2.5 HEV Premium Luxury สร้างสุขได้ทั้งตอนที่ขับ หรือนั่งแบบวีไอพีบนเบาะหลัง รุ่นไฮบริด ผสาน 2 พลัง เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกันอัตโนมัติ ส่งกำลังผ่านเกียร์แปรผัน E-CVT พัฒนาแบทเตอรีใหม่ประสิทธิภาพสูง ทนทาน และประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม สำหรับรุ่นเบนซิน ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force ให้อัตราเร่งเต็มพลังตอบสนองได้ดั่งใจ แต่คงไว้ซึ่งอัตราประหยัดน้ำมัน ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขีดสุดแห่งสมรรถนะ เร้าใจในทุกช่วงความเร็ว Toyota Camry รุ่นปรับโฉมใหม่ มีสีภายนอก 6 สี และสีภายใน 2 สี (สีดำ และสีครีม) สีใหม่ เทา Metal Stream Metallic ดำ Attitude Black เทา Graphite Metallic แดง Premium Red ขาวมุก Platinum White Pearl ดำ Burning Black Crystal (เฉพาะรุ่น 2.5 HEV Premium Luxury) ส่วนเรื่องในราคารุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 2 รุ่น คือ 2.5 HEV Premium ราคา 1,659,000 บาท 2.5 HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2 รุ่น คือ รุ่น 2.5 Premium ราคา 1,599,000 บาท รุ่น 2.5 Sport ราคา 1,475,000บาท (เพิ่ม 10,000 บาท สำหรับสีขาวมุก Platinum White Pearl สอบถาม เพิ่มเติม https://www.toyota.co.th/ Facebook Toyota Motor Thailand และ LINE ID: @ToyotaThailandเรื่องโดย : Thanasan Saowamol
ภาพโดย : toyota
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/391160