ธุรกิจ
Bentley เฉลิมฉลองครบ 1 ศตวรรษ
ครูว์-Bentley Motors (เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส) เฉลิมฉลองครบ 1 ศตวรรษ แห่งการส่งมอบยนตรกรรมคันแรกให้แก่ลูกค้าคนพิเศษ นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ ยนตรกรรม Bentley รุ่น 3 ลิตร ซึ่งจดทะเบียนในปี 2464 ด้วยหมายเลขทะเบียน KS 1661 ได้ถูกครอบครองโดยเศรษฐีชาวลอนดอน นามว่า Noel van Raalte ผู้หลงใหลในการแข่งขันรถยนต์ และมีครอบครัวซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในการถือครองเกาะ Brownsea ใกล้ท่าเรือ Poole
การผลิต Bentley คันแรกนั้นได้ดำเนินการในเมืองคริคเคิลวูด ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน โดยประกอบขึ้นด้วยตัวถังอลูมิเนียมน้ำหนักเบาในสีทองเหลืองโทนสว่าง ซึ่ง ณ ขณะนั้นมีราคาอยู่ที่ 1,150 ปอนด์ หรือประมาณ 50,497 บาท โดยหลังจาก W.O. Bentley ผู้ก่อตั้ง Bentley Motors ได้เปิดตัวยนตรกรรมรุ่นนี้ Bentley รุ่น 3 ลิตร จึงได้กลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการผลิต และวิศวกรรมยานยนต์ชั้นสูงที่เป็นจุดเด่นของ Bentley Motors ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์ 102 ปีของ Bentley Motors มียนตรกรรมมากกว่า 200,000 คันที่ได้ประกอบขึ้นด้วยมือ โดยกว่า 97 % ของจำนวนทั้งหมดได้ออกจากสายการผลิต ณ โรงงานเมืองครูว์ นับตั้งแต่ย้ายฐานการผลิตในปี 2489
ขณะนั้น Van Raalte คือ ลูกค้ารายแรกที่สั่งซื้อยนตรกรรม Bentley แต่เขากลับไม่ใช่คนแรกที่ได้รับการส่งมอบรถ แต่ทว่าสิทธิ์นั้นเป็นของ Ivor Llewellyn ผู้ที่ได้รับมอบยนตรกรรม Bentley รุ่น 3 ลิตรคันแรก ในเดือนสิงหาคม 2464 จากทั้งหมด 3 ออร์เดอร์ที่เขาสั่งซื้อ โดยถือเป็นสายการผลิตตัวถังรถยนต์รุ่นที่ 3 และยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน ในฐานะสายการผลิตของ Bentley ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
งานฝีมืออันโดดเด่นของ Bentley ช่วยทำให้ยนตรกรรม Bentley รุ่น 3 ลิตร ชนะการแข่งขันในรายการ 24 Hours of Le Mans ในปี 2467 และ 2470 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ชัยชนะ 5 ครั้งของ Bentley ใน 8 ปี สำหรับการแข่งขันในรายการนี้ โดยมี Bentley Boy ในตำนานอย่าง Van Raalte กับอัครยนตรกรรม Bentley ตัวถังหมายเลข 1 รุ่น 3 ลิตรคู่ใจของเขา ในการแข่งขันรายการระดับประเทศนี้ Van Raalte เข้าร่วมรายการแข่งขันครั้งสุดท้ายในประเทศฝรั่งเศส ในปี 2474
ในการทดสอบยนตรกรรม Bentley รุ่น 3 ลิตร ของนิตยสาร The Autocar ฉบับเดือนมกราคม 2463 ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยคลังข้อมูล Motoring ผู้เขียนสรุปได้อย่างสมบูรณ์แบบเกี่ยวกับยนตรกรรม Bentley รุ่น 3 ลิตร ว่า “สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการขับรถที่มีตัวถังน้ำหนักเบาไว้ใช้งานในการเดินทางระยะไกล Bentley รุ่น 3 ลิตร คือ คำตอบที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย”
บทวิจารณ์ในนิตยสารยังเสริมอีกว่า “รถยนต์ย่อมสะท้อนบุคลิกของผู้ขับขี่ ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวถังเหล็ก และอลูมิเนียม แต่เปรียบเสมือนสัตว์ที่สามารถแสดงสัญชาตญาณทันที และถ่ายทอดความรู้สึกมาถึงผู้ขับขี่ผ่านพวงมาลัยในห้องโดยสาร”
หลังจากนั้น Van Raalte ก็ได้เขียนรีวิวให้แก่บรรณาธิการของนิตยสาร The Autocar ว่า “เหตุผลที่ผมเลือกครอบครอง Bentley เป็นเพราะสมรรถนะอันยอดเยี่ยมบนท้องถนน และคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การบังคับเลี้ยว การลดแรงสั่นสะเทือน การยึดเกาะถนน ระบบเบรค การเปลี่ยนความเร็ว และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ สำหรับผม รถยนต์คันนี้ค่อนข้างเหนือกว่ารถยนต์คู่แข่งในระดับเดียวกัน ซึ่งนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกครอบครอง”
Mark Tisshaw บรรณาธิการของนิตยสาร The Autocar กล่าวเสริมว่า “ย้อนกลับไปในปี 2438 คลังข้อมูลของ The Autocar ได้เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของ Bentley ทั้งหมดเอาไว้ อันที่จริง เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Bentley ได้เกิดขึ้นในช่วงที่เรามีอายุ 26 ปีแล้ว ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลของเราเป็นครั้งแรกด้วยการเปิดตัวคลังข้อมูลของ Motoring แบบดิจิทอลนั้นจึงทำให้เรื่องราวที่น่าสนใจอย่างต้นกำเนิดของ Bentley รุ่นพิเศษคันนี้ ถูกเปิดเผย และเผยแพร่ได้ง่ายขึ้น”
ยนตรกรรม Bentley รุ่น 3 ลิตร ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างแบรนด์ Bentley ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากประสบความสำเร็จ Bentley Motors จึงได้ผลิตรุ่น 6 ½, 4 ½, 8 และ 4 ลิตร ซึ่งเป็นยนตรกรรมคลาสสิคที่โดดเด่นที่สุดในยุคก่อนสงครามโลก
ช่วงหลังสงครามโลก ยนตรกรรม Bentley รุ่น R-Type Continental (อาร์-ไทพ์ คอนทิเนนทัล) ที่มีรูปลักลักษณ์อันงดงาม เปิดตัวขึ้นในปี 2495 ยนตรกรรม 4 ที่นั่ง ที่เร็วที่สุดในโลกรุ่นนี้ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 ไมล์/ชม. และถือเป็นยนตรกรรมกแรนด์ทัวเรอร์ที่หรูหราที่สุดในช่วงเวลานั้น ต่อมา Bentley รุ่น T-Series ได้เปิดตัวในปี 2503 ก่อนที่เครื่องยนต์ V8 อันเลื่องชื่อของ Bentley Motors จะได้รับการพัฒนาในช่วงปี 2513 โดยเพิ่มความจุเป็น 6.75 ลิตร
หลังจากนั้น Bentley Motors ได้ผลิตโมเดลที่มีชื่อเสียงตามมาอีกหลายรุ่น รวมถึง Mulsanne (มุลซานน์) และ Turbo R (เทอร์โบ อาร์) ซึ่งถือเป็นยนตรกรรมยุคหลังของ Bentley และถือเป็นยนตรกรรมที่เร็วที่สุดของ Bentley ในยุคนั้นอีกด้วย ในปี 2541 Volkswagen Group (โฟล์คสวาเกน กรุพ) ได้เข้าซื้อกิจการของ Bentley Motors และเริ่มแผนการลงทุนครั้งสำคัญ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จของ Bentley Motors
หลังจากชัยชนะที่ เลอ มองส์ ในปี 2544 ด้วยรุ่น EXP Speed 8 อัครยนตรกรรม Bentley รุ่น Continental GT (คอนทิเนนทัล จีที) ที่มียอดขายสูงที่สุด ก็ได้เปิดตัวในอีก 2 ปีต่อมา ตามมาด้วยอัครยนตรกรรมลีมูซีนอย่าง Mulsanne โฉมใหม่ในปี 2552 จากนั้น Bentley Motors ก็ได้รังสรรค์ Bentayga (เบนเทย์กา) อัครยนตรกรรมเอสยูวีสุดหรูคันแรกของโลกในปี 2558 ซึ่งถือเป็นอัครยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่พร้อมจะพาคุณไปได้ทุกที่ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และการตกแต่งภายในด้วยเบาะโดยสารสูงสุดถึง 7 ที่นั่ง
The New Flying Spur (ฟลายอิง สเปอร์) โฉมใหม่ เปิดตัวในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงครบรอบ 1 ศตวรรษของ Bentley Motors ตามมาด้วยในปี 2563 กับอัครยนตรกรรมเปิดประทุนรุ่น Bacalar (บาคาลาร์) รุ่นพิเศษ และผลิตจำนวนจำกัด การเปิดตัวของ Bacalar ที่ประกอบขึ้นด้วยมือรุ่นนี้ ถือเป็นการหวนคืนสู่การออกแบบตัวถังรถยนต์ของ Bentley Mulliner (เบนท์ลีย์ มุลลิเนอร์) หนึ่งในผู้ออกแบบตัวถังรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ถึงแม้จะมีวิกฤตการณ์โรคระบาดที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่ Bentley Motors ยังคงประสบความสำเร็จในการสร้างสถิติยอดขายสูงที่สุดในปี 2563 และการเผยแผนกลยุทธ์ Beyond100 ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ว่าด้วยเส้นทางสู่ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนขององค์กรที่จะช่วยพลิกโฉมธุรกิจในทุกๆ ด้านอย่างมีประสิทธิภาพ โดย Bentley Motors ตั้งเป้าการเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนอย่างสมบูรณ์ภายในปี 2573 พร้อมด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้ากับอัครยนตรกรรม Bentley ทุกรุ่น
ขณะที่ Bentley Motors กำลังก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน งานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Bentley และความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรมยานยนต์ ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ 100 ปีนับตั้งแต่ Van Raalte รับมอบการผลิตยนตรกรรม Bentley รุ่น 3 ลิตร คันแรก Bentley Motors ยังคงสืบสานความเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูระดับแนวหน้าของโลกจนถึงปัจจุบัน
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/390727