ธุรกิจ
Bentley เร่งผลักดันสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า
ครูว์-ในขณะที่โลกกำลังเสวนาถึงอนาคตของการลดการปล่อยมลพิษเป็น 0 ในการประชุม COP26 ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอทแลนด์ Bentley Motors ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้ผลิตยนตรกรรมหรูรายแรกที่กำหนดเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านการเป็นกลางทางคาร์ บอนแบบเต็มรูปแบบภายในปี 2573 ได้ยืนยันการรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอน ณ โรงงานฯ เมืองครูว์ และระบบปฏิบัติการอีกครั้งตามข้อกำหนดของ PAS 2060 Carbon Neutral โดย Carbon Trust ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงแผนงานที่ Bentley Motors ใช้เพื่อการลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์จากขั้นตอนการผลิต
นับตั้งแต่ได้รับการรับรองการเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2562 Bentley Motors ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งส่งผลให้การปรับลดการชดเชยการปล่อยแกสเรือนกระจกลดลงกว่า 81 % ในช่วงเวลาเดียวกัน ด้วยการดำเนินงานเชิงมุ่งเน้นของพนักงาน ผลกระทบของโรคระบาดที่ส่งผลต่อการลดลงของการเดินทางเพื่อธุรกิจ ดังนั้นการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับการดำเนินกิจกรรมของ Bentley Motors จึงลดลงจาก 17,482 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2562 เป็น 3,341 ตันคาร์บอนไดออก ไซด์ ในปี 2563 แม้จะมีขอบเขตการวัดผลที่ครอบคลุมการเดินทางเพื่อธุรกิจทั้งหมด และสถานีดาวเทียมกว่า 3 แห่งในพื้นที่ก็ตาม
Peter Bosch กรรมการฝ่ายการผลิต เผยว่า “ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา Bentley Motors ได้ดำเนินการตามแนวทางของผู้ริเริ่มในการเป็นผู้ประกอบการที่ยั่งยืน โดยการสร้างโรงงานผลิตคุณภาพสูง มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ มีศักยภาพในการผลิตสูง ณ เมืองครูว์ เรามุ่งมั่นที่จะลดการชดเชยการปล่อยแกสเรือนกระจก ทีมงานของเราได้นำมาดำเนินการอย่างยอดเยี่ยม ต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบในแต่ละปี โดยเป้าหมายสูงสุดของเรา คือ การสร้างมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในปี 2573
“เรามีพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน ตัวเลขล่าสุดครอบคลุมทุกธุรกิจ ซึ่งแสดงให้เห็นการลดลงของการปล่อยแกสคาร์บอนได ออกไซด์/รถยนต์ 1 คันถึง 81 % แม้ว่าเราได้ขยายขอบเขตของการวัดผลเพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินงานของเรามากขึ้น เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่น ความคืบหน้าที่เรากำลังดำเนินการ”
การลงทุนระยะยาว การวางแผนล่วงหน้าช่วยให้มั่นใจได้ว่าพลังงานไฟฟ้า แกสที่ Bentley Motors ใช้นั้นสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100 % ซึ่งผลิตขึ้นจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 7.7 เมกะวัตต์ ณ โรงงานฯ ในเมืองครูว์ หรือนำมาใช้โดยการรับประกันแหล่งกำเนิดพลังงานหมุนเวียนได้ 100 % (RGGO) และการรับประกันแหล่งกำเนิดแกสหมุนเวียนได้ 100 % (RGGO) ในขณะเดียวกัน การลง ทุนในการสร้างหม้อไอน้ำขนาด 5.5 เมกะวัตต์ รุ่นใหม่ที่ประหยัดพลังงานทั้ง 3 ตัวยังช่วยลดการใช้พลังงานลงอย่างมาก ทำให้การใช้แกสที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ณ ปัจจุบัน พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้เป็นเพียงเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในการดำเนินงานของโรงงานฯ เท่านั้น ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จกว่า 130 จุด ทั่วโรงงานฯ ซึ่งขณะนี้สามารถชาร์จรถยนต์รุ่นไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตตลอดระยะการวิจัย พัฒนาได้ และยังช่วยขับเคลื่อนการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของพนักงาน ด้วยรถยนต์ไฮบริดซึ่งมีการปล่อยมลพิษที่เป็น 0 โดยรวมอยู่ในโครงการรถยนต์ของบริษัทฯด้วย
สำหรับการขนส่งในพื้นที่ยังได้รับการพิจารณาด้วยการติดตั้งถังเชื้อเพลิงแบบหมุนเวียน "Green D+" ขนาด 34,000 ลิตรที่โรงงาน ฯ เพื่อให้รถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ (HGV) ในพื้นที่ พื้นที่อื่นๆ ที่ไม่มีระบบไฟฟ้าได้ใช้เชื้อเพลิงซึ่งช่วยลดการปล่อยแกสคาร์บอน ไดออกไซด์จากท่อไอเสียของยานพาหนะขนส่งได้กว่า 86 % เมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลปกติ ซึ่งการใช้เชื้อเพลิงแบบธรรมดาของรถยนต์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก็ยังคงได้รับการสนับสนุนโดย Verified Carbon Standard Offsets (VERRA)
ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นการทำงานเกือบ 2 ทศวรรษในการสร้างแหล่งประวัติศาสตร์ของเมืองครูว์ให้เป็นแหล่งพลังงาน เป็น กลางทางคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ว่าบางส่วนของโรงงานฯ จะก่อตั้งตั้งแต่ช่วงปี 2473 แต่ในปี 2542 Bentley Motors ได้เป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมรายแรกของสหราชอาณาจักรที่ได้รับมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ได้มีการปรับปรุงโรงงานฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดการปล่อยมลพิษอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ Beyond100 กับพันธกิจการขับเคลื่อนแบรนด์สู่ความยั่งยืน
โรงงาน Bentley Motors ณ เมืองครูว์ มีลานจอดรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ครอบคลุมพื้นที่จอดรถกว่า 1,378 คัน บนพื้นที่กว่า 16,426 ตรม. ซึ่งประกอบไปด้วยแผงโซลาร์เซลล์ จำนวนกว่า 10,000 แผง ขนาด 2.7 เมกะวัตต์ และเมื่อรวมกับแผงโซลาร์เซลล์ จำนวน 20,815 แผงที่ติดตั้งกับหลังคาโรงงานฯ กำลังการผลิตพลังงานของแผงโซลาร์เซลล์จะรวมกันอยู่ที่ 7.7 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับจ่ายไฟให้แก่บ้านเรือนกว่า 1,750 หลังคาเรือน
Bentley Motors กำลังเร่งผลักดันสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวอัครยนตรกรรม Bentley (เบนท์ลีย์) ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกโดยกำหนดไว้ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Beyond100 ในปี 2564 เราได้เห็นการมาถึงของ Flying Spur Hybrid (ฟลายอิง สเปอร์ ไฮบริด) เคียงคู่กับ Bentayga Hybrid (เบนเทย์กา ไฮบริด) และ Bentley Motors ตั้งเป้าที่จะใช้เครื่องยนต์ไฮบริดกับทุกรุ่นภายในปี 2567
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/390456