หายห่วงได้เลย หากคุณลืมชาร์จแบทโทรศัพท์มาจากบ้าน เพราะคุณสามารถชาร์จอุปกรณ์อีเลคทรอนิตส์ต่างๆ ได้ในรถ สำหรับ Ford Ranger มีช่องต่อไฟ 230 โวลท์ ภายในห้องโดยสาร และช่องต่อ USB อีกหลายจุด สบายใจได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารอย่างแน่นอน นอกจากนี้ รถยนต์ Ford ยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM3 ภาษาไทย รองรับ Apple Car Play และ Android Auto [2] ที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณสามรถเปิดวิทยุ หรือเลือกเล่นเพลงโปรดได้โดยไม่ต้องละสายตาจากการขับรถ
4) บรรทุกสัมภาระได้อย่างจุใจ
สำหรับคนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด และต้องขนสัมภาระเยอะมากเป็นพิเศษ รถยนต์ Ford สามารถช่วยคุณได้ Ford Ranger สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากถึง 1.3 ตัน [3]สามารถบรรทุกของจำนวนมาก หรือลังหลายกล่องได้สบายๆ ส่วน Ford Everest ก็พร้อมปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้เหมาะกับการขนของ ด้วยการพับเก็บเบาะที่นั่งในแถวที่ 3 ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเพิ่มพื้น ที่บรรทุกสัมภาระให้กว้างขึ้นได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งแรคหลังคา สำหรับจักรยาน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่สามารถบรรทุกในรถได้และมีน้ำหนักไม่เกิน 750 กก.โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
5) ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
เทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถมีส่วนช่วยที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณจะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น หลงทาง รถติดหล่ม หรือเกิดเหตุขัดข้องใดๆ ระหว่างการเดินทาง Ford คำนึงถึงความปลอดภัย และความสบายใจของผู้ใช้เป็นอันดับแรก รถ Ford รุ่นเรือธงอย่าง Ford Ranger Wildtrak (ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์ทแรค) และ Ford Everest Titanium Plus (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไททาเนียม พลัส) จึงมาพร้อมกับระบบแผนที่นำทาง Navigation ให้สามารถป้อนข้อมูลปลายทางได้โดยใช้สัญญาณดาวเทียมในการนำทาง โดยไม่ต้องวิตกกังวลหากเกิดเหตุให้ไปต่อไม่ได้ เพราะสามารถใช้ระบบช่วยโทรฉุก เฉิน ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
[1]อุปกรณ์ติดตั้งในรถยนต์บางรุ่น สามารถตรวจสอบข้อมูลอุปกรณ์มาตรฐาน และคุณสมบัติที่ครบถ้วนที่ผู้จำหน่าย Ford หรือ www.ford.co.th