ธุรกิจ
Peugeot รุกตลาดเต็มสูบ ตั้งเป้าสร้างแบรนด์
ส่วนด้านท้ายก็ไม่น้อยหน้า ด้วยไฟท้ายแบบฟูลล์แอลอีดี (รวมไฟถอยหลัง) สะท้อนกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) ได้อย่างทรงพลัง พร้อมไฟเลี้ยวแบบไล่ระดับ ครอบแผงไฟท้ายทั้งหมดด้วยกระจกรมดำ ยาวจรดตัวถัง 2 ฝั่ง ช่วยให้รถดูกว้างขึ้นเมื่อมองจากด้านหลัง
ห้องโดยสารของ 3008 เอสยูวี นับเป็นอีกไฮไลท์สำคัญ ต้อนรับผู้โดยสารอย่างอบอุ่นด้วยเบาะหนัง ตัดกันกับสีด้ายที่ใช้เย็บตะเข็บอย่างลงตัว ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยวัสดุผ้าคุณภาพสูง ให้สัมผัสนุ่มนวล และดูหรูหรา มาตรวัดดิจิทอลอเนกประสงค์ขนาด 12.3 นิ้ว ด้านหน้าผู้ขับ สามารถปรับการแสดงผลได้อิสระ พร้อมเพิ่มความละเอียด และความเข้มของจอ เพื่อความคมชัดสูงสุด ติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณกลางแดชบอร์ด จอภาพความละเอียดสูง รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ทั้งระบบนำทาง, โทรศัพท์, เครื่องปรับอากาศ และคลื่นวิทยุ มาพร้อม 7 สวิทช์แบบก้านเพียโน (Piano Key Toggle Switches) ที่ดูหรูหรา และช่วยให้สามารถปรับการทำงานของระบบต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว พร้อมรองรับการชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย (Wireless Charging)
ขับเคลื่อนอย่างมั่นใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร ทวินสกรอลล์เทอร์โบ 167 แรงม้า แรงบิด 25.0 กก.-ม. (245 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,400-4,000 รตน. สูงสุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ช่วยให้มีอัตราเร่งดี และใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า ส่งกำลังอย่างนุ่มนวล และฉับไว ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Electric Impulse พร้อม Advanced Grip Control กับ 5 โหมดการขับ (Normal-Snow-Mud-Sand-ESP Off) ผสานหลายระบบช่วยเหลือผู้ขับ อาทิ เปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ควบคุมความเร็วขณะลงทางชันอัตโนมัติ (Hill Descent Control), ฝาท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี, เบรคมือไฟฟ้า, ระบบเตือนเมื่อรถวิ่งออกนอกเลน, ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา, เซนเซอร์ถอยจอด และอื่นๆ
พร้อมกันนี้ Peugeot ประเทศไทย เตรียมที่จะแนะนำรถยนต์ Peugeot 2008 มีนีเอสยูวี ซึ่งจะเป็นรถที่จะมาขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของลูกค้ารถยนต์ Peugeot เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากรถยนต์ Peugeot ที่มีจำหน่ายอยู่เดิมไม่ว่าจะเป็น 3008 และ 5008 จะเป็นรถเอสยูวี 7 ที่นั่ง ที่ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ใช้รถทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย
ส่วนแผนงาน และกลยุทธ์หลังจากนี้ Peugeot ประเทศไทย จะเน้นการสร้างแบรนด์ และสร้างการรับรู้ รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในการสร้างแบรนด์ Peugeot ในประเทศไทยครั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นของกลุ่มมิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์มานานกว่า 20 ปี รวมถึงการจัดแสดงโรดโชว์ รถยนต์ Peugeot ในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า รวมถึงแหล่งชุมชนที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของรถยนต์ Peugeot รวมถึงการสานต่อประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 211 ปี ของรถยนต์ Peugeot ที่มีชื่อเสียง รวมถึงเป็นรถยนต์ที่ทรงคุณค่า ด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยี ที่ไม่หยุดนิ่ง และยังจะนำจุดเด่นด้านต่างๆ มาเป็นจุดขาย ส่งเสริมให้ลูกค้าได้เห็นว่า รถยนต์ Peugeot เป็นรถยนต์ยุโรปที่เพียบพร้อม รวมถึงยังมีราคาที่เหมาะสม และจับต้องได้ และไม่ได้แพงอย่างที่คิด รวมถึงยังโดดเด่น และแข่งขันได้กับรถยนต์แบรนด์เอเชีย ที่มีจำหน่ายในไทยในปัจจุบัน
สำหรับในด้านยอดขาย ปีนี้ Peugeot ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 500-550 คัน โดยในปีที่แล้ว มียอดขายรวม 435 คัน ถือว่าเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก เทียบกับยอดขายปีแรกที่เริ่มทำตลาดในปี 2562 มียอดขายอยู่ที่ 153 คัน โดยปีหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ และการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย Peugeot ประเทศไทย ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,500 คัน พร้อมกันนี้ ยังตั้งเป้าให้ Peugeot ประเทศไทย มีการเติบโตติดอันดับยอดขายรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย 1 ใน 10 ใน 10 ปี และ 3-5 ปี ติดอันดับ 15 โดยปัจจุบันอยู่ในอันดับ 18
ส่วนด้านบริการหลังการขาย ภายใต้คอนเซพท์ Peugeot Care ด้วยศักยภาพที่สามารถรองรับรถ Peugeot ได้ทั้งรุ่นเก่า และรุ่นปัจจุบัน มั่นใจได้กับอุปกรณ์อันทันสมัย, เครื่องมือพิเศษสำหรับวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด รวมถึงทีมช่างมืออาชีพที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี พร้อมเพิ่มอิสระในการเลือกซื้อให้ลูกค้า ด้วย 2 ทางเลือกเซอร์วิศแพคเกจ Value Care บำรุงรักษา ครอบคลุมตั้งแต่ 10,000 กม. ถึงสูงสุด 100,000 กม. กับการเชคระยะ 2 ครั้ง พร้อมส่วนลดค่าอะไหล่ 10 % หรือการเชคระยะ 4 ครั้ง พร้อมส่วนลดค่าอะไหล่ 15 % โดยมาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ 3 ปีเต็ม
สุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Peugeot ประเทศไทย