ธุรกิจ
Great Wall Motor ขึ้นแท่นแชมพ์คอมแพคท์เอสยูวี
Great Wall Motor (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ขึ้นครองแชมพ์อันดับ 1 ของเซกเมนท์รถยนต์คอมแพคท์เอสยูวี ด้วยยอดขาย และส่งมอบ All New Haval H6 Hybrid SUV กว่า 408 คัน ในเดือนสิงหาคม 2564 คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 34.3 % พร้อมเดินหน้าส่งมอบประสบการณ์อัจฉริยะเหนือระดับ และบริการหลังการขายเต็มรูปแบบให้แก้ผู้บริโภคชาวไทย ในขณะเดียวกัน ยอดขายโดยรวมของ Great Wall Motor ในตลาดโลกในเดือนสิงหาคม และตลอดทั้งปีนี้ ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ เผยว่า ความสำเร็จจากยอดขายของเราในเดือนสิงหาคมนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Great Wall Motor เราขอขอบคุณผู้บริโภคชาวไทยที่ให้การสนับสนุน Great Wall Motor อย่างดีเยี่ยม จนในวันนี้เราสามารถขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในเซกเมนท์รถยนต์คอมแพคท์เอสยูวีของประเทศไทยได้สำเร็จ ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน แม้เราจะเพิ่งเข้ามาเริ่มธุรกิจในประเทศไทยได้ไม่นาน แต่ทีมงาน และพาร์ทเนอร์ของเราทุกคน ต่างทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ กันอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความสำเร็จในครั้งนี้ไปด้วยกัน ความสำเร็จตรงนี้ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดใจยอมรับในแบรนด์ใหม่ของผู้บริโภคชาวไทย ความเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานใหม่ (xEV) ของ Great Wall Motor รวมถึงการเปิดใจกับการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ที่ทาง Great Wall Motor ได้ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเป็นเจ้าของรถผ่านประสบการณ์ออนไลน์สู่ออฟไลน์ O2O (Online-To-Offline) เราขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่น และความไว้วางใจที่ผู้บริโภค และแฟนๆ ชาวไทยมีให้กับ Great Wall Motor เป็นอย่างดีเสมอมาอีกครั้ง และขอให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะเดินหน้าพัฒนามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าทั้งด้านการขาย และบริการหลังการขาย ผ่านรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยให้ได้อย่างดีที่สุด
สำหรับยอดขายของ All New Haval H6 Hybrid SUV กว่า 408 คัน ในเดือนสิงหาคมนี้ เพิ่มขึ้น 27.5 % เมื่อเทียบจากยอดขายในเดือนกรกฎาคม ที่ 320 คัน ส่งผลให้ในเดือนสิงหาคมนี้ Great Wall Motor สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 34.3 % จากยอดขายรวมของรถยนต์คอมแพคท์เอสยูวีทั้งหมดในเดือนสิงหาคม จำนวน 1,190 คัน ก้าวขึ้นสู่การเป็นรถยนต์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ของเซกเมนท์ ครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 7.8 % เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งการตลาดในเดือนกรกฎาคมที่ 26.5 % ทั้งนี้เมื่อรวมกับยอดขาย 320 คัน ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Great Wall Motor ได้ส่งมอบรถยนต์ All New Haval H6 Hybrid SUV ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยไปแล้วกว่า 728 คัน ภายในระยะเวลา 2 เดือน
การก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Great Wall Motor ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV Leader) รวมไปถึงเป้าหมายในการเป็นแบรนด์รถยนต์ในใจคนไทย ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่ง Great Wall Motor จะยังคงเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์คอนเซพท์ “New Energy” “New Intelligence” และ “New Experience” เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ และการบริการแบบ Online-to-Offline (O2O) รูปแบบใหม่อย่างครบวงจร ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ทั้งการให้บริการออฟไลน์ผ่าน GWM Store และ Partner Store ทั่วประเทศ และการให้บริการออนไลน์ผ่าน GWM Application
นอกจากนี้ Great Wall Motor ยังคำนึงถึงความสะดวก และผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับอยู่เสมอ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ บริษัทจึงได้มีการปรับนโยบาย และวิธีการดำเนินการต่างๆ ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างรวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขยายระยะเวลาของแคมเปญทางการตลาด รวมไปถึงการให้บริการถึงหน้าบ้านของลูกค้า หรือ Door-to-Door Service ในรูปแบบต่างๆ และล่าสุด Great Wall Motor ได้นำเสนอโปรโมชันพิเศษแทนคำขอบคุณให้แก่ผู้ที่จองรถยนต์ All New Haval H6 Hybrid SUV รุ่น Pro ด้วยสิทธิพิเศษในการผ่อนนานกว่า 84 เดือน เริ่มต้นเพียง 13,004 บาท/เดือน เมื่อจอง และรับรถภายในวันที่ 30 กันยายนนี้
นอกจากยอดขายที่เติบโตในตลาดประเทศไทยแล้ว Great Wall Motor ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตลาดโลก ด้วยยอดขายรวมในเดือนสิงหาคมกว่า 74,257 คัน โดยในจำนวนนี้เป็นยอดขายจากตลาดต่างประเทศ 12,399 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 81.1 % เมื่อเทียบกับยอดขายในเดือนสิงหาคมของปีที่ผ่านมา และจากยอดขายทั้งหมดทั่วโลกในเดือนสิงหาคมนี้ Haval H6 ยังคงเป็นรถยนต์รุ่นเรือธงที่ทำยอดขายได้สูงที่สุดอยู่ที่ 20,026 คัน รักษาแชมพ์ยอดขายรถเอสยูวีสูงสุดในตลาดจีนได้เป็นเดือนที่ 99 ติดต่อกัน
ด้านสถิติยอดขายรถยนต์ของ Great Wall Motor ทั้งหมดในปี 2564 มียอดขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมในปีนี้ รวมกว่า 784,023 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 39.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และจากยอดขายรวมตลอดปีดังกล่าวนี้ คิดเป็นยอดขายจากตลาดต่างประเทศ 86,509 คัน เติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 156.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และคิดเป็น 11.0 % ของยอดขายโดยรวมทั้งหมดในตลาดโลกตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) Great Wall Motor ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย รวมถึงพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และยืนหยัดเคียงข้างคนไทยทุกก้าวต่อไปในอนาคต