ทดลองขับ(formula)
Honda Accord EL (MY2021) ขับสนุกเหมือนเดิม เพิ่มเติมความปลอดภัย
Honda Accord (ฮอนดา แอคคอร์ด) เจเนอเรชัน 10 พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Absolute Confidence อวดโฉมอย่างเป็นทางการตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2019 จนกระทั่งกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ก็ได้ฤกษ์เผยโฉมรุ่นปี 2021 ที่มีการปรับปรุงอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมเรียกชื่อใหม่ เริ่มจากรุ่น EL (เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร) กับรุ่นไฮบริดที่มี 2 รุ่นย่อย ได้แก่ e:HEV EL+ (อี:เอชอีวี อีแอล พลัส) กับ e:HEV TECH (อี:เอชอีวี เทค) โดยทุกรุ่นมาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ซึ่งเป็นการผสานการทำงานของเรดาร์ กับกล้องด้านหน้า ทำหน้าที่ตรวจจับสภาพแวดล้อมบนท้องถนน และแจ้งเตือนผู้ขับขี่รวมทั้งช่วยควบคุมรถ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Honda Accord EL ยังคงใช้เส้นสายปราดเปรียว เฉียบคม เน้นความสปอร์ทพรีเมียม กระจังโครเมียมหน้ายาวเชื่อมต่อกับไฟหน้าแอลอีดี และมีไฟตัดหมอกหน้ามาให้แล้ว ขณะที่ไฟท้ายยังเป็นแอลอีดีทรงตัว “C” เพิ่มปลายท่อไอเสียคู่ พร้อมปลอกสเตนเลสส์
ห้องโดยสารออกแบบอย่างประณีต ผสมผสานความสปอร์ทกับความหรูหรา และเงียบเป็นพิเศษ โดยมีการฉีดโฟมบริเวณหลังคา และเสาประตู รวม 10 จุด ติดตั้งไมโครโฟน 3 ตัวสำหรับระบบ Active Noise Control (ANC) ที่ด้านหน้า และด้านหลัง และเพิ่มไมโครโฟนตัวที่ 3 ที่เสากลางฝั่งผู้ขับ พร้อมติดตั้งวงแหวนดูดซับเสียงในล้อ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารอย่างได้ผล
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับขี่ปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งที่นั่ง ส่วนเบาะฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย เบาะนั่งด้านหลังพับได้ เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ (แต่เป็นการพับแบบ 100 % ไม่มีการแบ่ง)
พวงมาลัยเป็นแบบมัลทิฟังค์ชัน มาตรวัด และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT รองรับ Apple CarPlay มีแท่นชาร์จไร้สาย ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบเพื่อความปลอดภัย และความสะดวกสบายมากมาย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับ ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย (Honda Lanewatch), กล้องมองภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกะทันหัน (ESS), เบรคมือไฟฟ้า (EPB), ระบบหน่วงเบรคอัตโนมัติหลังเหยียบเบรคให้รถหยุดนิ่งโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรคค้างไว้ (Auto Brake Hold), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA: Hill Start Assist), ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลมด้านข้าง
ขุมพลังเป็นแบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1.5 ลิตร VTEC Turbo เทคโนโลยี Earth Dreams จ่ายเชื้อเพลิงแบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (Dual Variable Timing Control) พ่วงระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบ และอินเตอร์คูเลอร์ ควบคุมแรงดันด้วยเวสเกทไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 24.8 กก.-ม. ที่ 1,500-5,500 รตน. รองรับเชื้อเพลิง แกสโซฮอล อี 85 ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ มีแพดเดิล ชิฟท์ติดตั้งมาให้ และมีโหมดขับขี่ให้เลือกทั้ง Econ, Normal และ Sport ตามความต้องการ
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบอิสระ มัลทิลิงค์ พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าแบบดูอัลพิเนียน หรือตัวหนอนคู่ (DP-EPS) ประสิทธิภาพการควบคุม และตอบสนองฉับไว หยุดมั่นใจด้วยจานเบรค 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายอากาศ ระบบช่วยเหลือครบครัน ทั้งระบบช่วยการทรงตัว VSA (Vehicle Stability Assist), ABS, EBD ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว กับ ยางขนาด 225/50 R 17
การทดลองขับครั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 จึงปรับรูปแบบเป็นการขับคนเดียวแบบไม่กำหนดเส้นทาง โดยให้เวลาประมาณ 3 ชม. เริ่มสตาร์ทจาก ศูนยฝึกอบรม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จํากัด (ซอยเสรีไทย 87)
ช่วงแรกของการทดลองขับ ต้องผ่านสภาพการจราจรหนาแน่นเล็กน้อยของย่านโรงงานอุตสาหกรรม จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงทำความเร็วบนถนนวงแหวน การตอบสนองของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังทำงานผสานกันได้ดีมาก คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองฉับไว การใช้งานช่วงความเร็วต่ำเครื่องยนต์มีความกระฉับกระเฉงเหลือเฟือ แม้จะมีความจุแค่ 1.5 ลิตร ช่วงเร่งแซงตอบสนองทันอกทันใจ ไม่จำเป็นต้องใช้รอบสูง เพราะแรงบิดสูงสุดที่มีให้ใช้ต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำนั่นเอง
ระบบรองรับทำงานได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการซึมซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน การยึดเกาะที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่
การตอบสนองของพวงมาลัยมีน้ำหนักเหมาะสม ไม่เบา หรือหนักเกินไป ทั้งขณะเดินทาง หรือการใช้งานช่วงความเร็วต่ำ โหมดขับขี่แต่ละประเภทให้การตอบสนองแตกต่างกันชัดเจน ทั้งขุมพลัง ระบบส่งกำลัง พวงมาลัย โดยหน้าจอแสดงผลจะปรับเปลี่ยนตามโหมดที่เลือก ไฮไลท์อยู่ที่โหมด Sport จะมี “มาตรวัดแรงดันเทอร์โบ” แสดงผลขึ้นมา พร้อมไฟโทนสีแดงช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ทได้มาก
การทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ปัจจุบันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ Honda Accord (MY2021) ทุกรุ่น ได้แก่ ระบบเตือนการชนรถ และคนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรค (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ(Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ทุกระบบทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่มีอะไรผิดปกติ หรือต้องลุ้นเหมือนที่เคยพบในรถบางแบรนด์
Honda Accord EL (MY2021) ซีดานหรูรุ่นยอดนิยม ที่มอบความสนุกสนานในการขับขี่เช่นเดิม เพิ่มเติมด้วย Honda SENSING จ่ายแพงกว่ารุ่นปี 2019 เพียง 24,000 บาทเท่านั้น แต่อุ่นใจกว่ากันเยอะ
ข้อมูลจำเพาะ Honda Accord EL
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0 - 2341 - 7888
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,894/1,862/1,450
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,600/1,610.2
ฐานล้อ (มม.) 2,830
น้ำหนัก (กก.) 1,464
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 56
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ
ความจุ (ซีซี) 1,498
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/89.5
อัตราส่วนกำลังอัด 10.3:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 190/5,500
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 24.8/1,500-5,500
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง PGM-FI
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ ซีวีที 7
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท
หลัง อิสระ มัลทิลิงค์
ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (DP-EPS)
ระบบห้ามล้อ เอบีเอส อีบีดี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 1,499,000
เรื่องโดย : เอกลักษณ์ สูยะศุนานนท์ akaluk@imc.co.th
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/382980