ทดลองขับ
รีวิว ทดลองขับ All-New MG5 2021 หน้าตาทันสมัย ช่วงล่างดี ให้เทคโนโลยีเกินราคา

บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนร่วมกิจกรรม “Beyond Impression Drive With All New MG5” ณ สนามทดสอบ MG Driving Experience Center แม้จะทดลองขับในช่วงสั้นๆ ก็พอรู้ได้ว่า All-New MG5 (เอมจี 5) ใหม่ มีดีพอตัว
ภายนอก
สปอร์ทซีดาน ตัวจริง
รูปลักษณ์ภายนอกมาแบบสปอร์ทคูเปซีดาน สวยงาม ปราดเปรียว โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ 3 มิติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การออกแบบใหม่ล่าสุดของ MG ไฟหน้า และไฟท้ายเป็นแบบ LED มิติตัวถังมีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์ระดับ B-Segment ทั่วไป
มีให้เลือก 3 รุ่น เริ่มที่รุ่น C ราคา 559,000 บาท รุ่น D ราคา 589,000 บาท และรุ่น X ราคา 689,000 บาท โดยมีสีตัวถังให้เลือก 6 แบบ ได้แก่ เหลือง Nuclear Yellow ขาว Arctic White ดำ Black Knight เงิน Silver Metallic แดง Scarlet Red และเทา Metal Ash Grey
ภายใน
ให้อารมณ์สปอร์ท ดูพรีเมียม
ภายในห้องโดยสาร มีการออกแบบ และตกแต่งสไตล์สปอร์ท ดูพรีเมียม พื้นที่ห้องโดยสารไม่อึดอัดอย่างที่คิด ในรุ่น X มีหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ วัสดุภายในให้สัมผัสที่นุ่ม (Soft Touch) ในหลายตำแหน่ง ติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยมากมาย เช่น หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันทรงสปอร์ท (ยูรีเธน) มาตรวัดแบบดิจิทอลขนาด 7 นิ้ว
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และโดดเด่นด้วยระบบ I-Smart ที่สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย มาพร้อมฟังค์ชันใหม่ Digital Key ที่เจ้าของรถสามารถส่งผ่านมายังโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ท แถมสามารถส่งกุญแจดิจิทอลให้ผู้อื่น เพื่อใช้งานรถยนต์ของเราได้ด้วย ผ่านโคดทางแอพพลิเคชัน i-SMART
เครื่องยนต์
เน้นขับสบาย เพียงพอต่อการใช้งาน
MG5 ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 15.3 กก.-ม. (150 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,500 รตน. ทำงานผสานเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 จังหวะ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บลอคเดิมจาก MG ZS รุ่นปัจจุบัน
จากการทดสอบเป็นเครื่องยนต์ที่ขับสนุกในรอบสูง เมื่อออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง เครื่องยนต์ตอบสนองช้า และรอรอบ แต่เมื่อรอบเครื่องยนต์ไต่ไปถึง 4,500 รอบขึ้นไป จะให้กำลังต่อเนื่อง ขับสนุกขึ้นอีกเยอะ แต่ถ้าขับแบบปกติ ถือว่าขับสบาย และเพียงพอต่อการใช้งาน
ระบบรองรับ
นุ่ม หนืบ ขับสบาย
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม เซทมาโดยเน้นความนุ่มหนึบ ไม่กระด้าง แต่ก็รับมือกับการเปลี่ยนเลนกะทันหันได้อย่างดี ระบบเบรคเป็นแบบจานทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบ ABS EBD และ EBA
การตอบสนองของเบรคเป็นไปตามน้ำหนักเท้า เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้าง ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ ระบบควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และลื่นไถล และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน
สรุป
รูปลักษณ์ทันสมัย ช่วงล่างดี ให้เทคโนโลยีเกินราคา
การทดสอบครั้งนี้ เป็นการทดสอบแบบสั้นๆ ในสนาม MG Driving Experience Center เท่านั้น มีการให้ทดลองระบบ Digital Key ด้วยการไม่ให้กุญแจรถมา แต่ทาง MG จะส่งโคดมาให้แทน ผ่านแอพพลิเคชัน i-SMART เมื่อเราลงทะเบียนเสร็จก็ใช้ได้ทันที วิธีการ คือ นำมือถือไปใกล้รถระยะ 5 ม. รถจะสื่อสารกับโทรศัพท์มือถือของเราผ่านระบบบลูทูธ เมื่อเชื่อมต่อกันสำเร็จก็สามารถเข้ารถ และกดปุ่มสตาร์ทได้เลย
การขับทดสอบแบ่งออกเป็น 4 สถานีหลัก สถานีแรก “เปลี่ยนเลนกะทันหัน” จุดนี้เมื่อเข้าด้วยความเร็วสูง รถมีอาการ Oversteering ให้เห็น แต่ระบบควบคุมการทรงตัวก็เข้ามาจัดการได้อย่างรวดเร็ว เป็นที่น่าพอใจ สถานีที่ 2 “Slalom” รู้สึกได้ว่าพวงมาลัยตอบสนองดี และเร็ว ทำให้ผ่านไปได้แบบสบาย สถานีที่ 3 “โค้งความเร็วสูง” รถมีอาการโคลงตัวน้อยกว่าที่คิด ผ่านได้สบาย และสถานีสุดท้าย “เลี้ยวในมุมแคบ” ทำให้รู้ว่ารถมีความคล่องตัวสูง
สรุป เป็นรถที่ช่วงล่างดี รูปลักษณ์ทันสมัย ฟังค์ชันการใช้งานเกินคาดคิด ถือเป็นรถอีกรุ่นหนึ่ง ที่คุ้มค่า และน่าสนใจ
*** ดูสเปคแบบละเอียดได้ ที่นี่
*** ดู VDO ภายนอก และภายใน กดที่นี่


