รีวิว ทดลองขับ New Nissan Terra 2021 เครื่องดี ขับสบาย ดีไซจ์น(ใหม่)ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดลองขับ Nissan Terra (นิสสัน แตรรา) ใหม่ แบบ New Normal เป็นเวลา 1 วัน เราได้ทดสอบสมรรถนะทั้งในเมือง และนอกเมือง รวมถึงบนทางด่วน ตามการใช้งานจริง

Nissan Terra ใหม่ ใช้พแลทฟอร์มร่วมกับ Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) เป็นรถเอสยูวี 7 ที่นั่ง เรือธงของค่าย รุ่นใหม่นี้ปรับปรุงดีไซจ์นภายนอก และภายในใหม่ ทำให้บุคลิกดูหนุ่มขึ้น เข้าถึงง่าย พร้อมปรับสมรรถนะ อุปกรณ์ความบันเทิง และความปลอดภัยเพิ่มมากมาย มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ E 2WD, VL 2WD และ VL 4WD ต่างกันที่อุปกรณ์มาตรฐาน (รุ่นที่ใช้ทดสอบเป็น VL 4WD) ภายนอกดีไซจ์นใหม่ เพิ่มลุคทันสมัย เริ่มจากกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้น และเน้นโครเมียมแนวนอน รับกับเส้นสายต่อเนื่องจากฝากระโปรง ชายล่างทำเป็นสีเงิน ไฟหน้าดีไซจ์นใหม่ให้เพรียวลง และเปลี่ยนเป็นแบบ Quad LED 4 ดวง สว่างขึ้น 34 % พร้อม DRL และไฟตัดหมอก LED ขณะที่ด้านท้ายออกแบบใหม่ ตั้งแต่สปอยเลอร์บนหลังคาจนถึงชายล่างของกันชน ฝาท้ายใช้วัสดุโครเมียม และชิ้นส่วนสีเงินมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายลดความสูง และเพิ่มความกว้าง เพื่อความโฉบเฉี่ยว มี LED Light Guide เส้นคู่ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย และล้อลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว คอนโซลหน้าออกแบบใหม่หมด ให้ความรู้สึกกว้างกว่าเดิม ตกแต่งด้วยหนังให้สัมผัสที่นุ่มสบาย หน้าจอ Display Audio แบบสัมผัสใหม่ขนาด 9 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อ Apple Car Play แบบไร้สาย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ครอบคลุมทั้ง 7 ที่นั่ง เบาะนั่งดีไซจ์นใหม่ใช้วัสดุพรีเมียม ที่นั่งแถว 2 มีฟังค์ชัน Auto Tumble Seat ที่คอนโซลกลาง โดยจะพับเบาะแถวที่ 2 อัตโนมัติ เพียงแค่กดปุ่ม และเปลี่ยนมาใช้เบรคมือไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น VL 2WD และ VL 4WD) ฝาประตูท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบเซนเซอร์ด้านใต้ (Auto Lift Gate) นอกจากนี้ ยังเพิ่มฉนวนกันเสียงรบกวนในจุดสำคัญ และติดตั้งกระจก 3 บานหน้า แบบ Acostic Glass พวงมาลัยหุ้มหนังทรงสปอร์ท พร้อมปรับอัตราทดใหม่ มาตรวัดถูกขยายเป็น 7 นิ้ว และติดตั้งเครื่องเสียงจาก BOSE ขุมพลังยังคงเป็นดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบคู่แปรผัน (VGS) พร้อมอินเตอร์คูเลอร์ ความจุ 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รตน. แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รตน. ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมแมนวลโหมด ให้ขับสนุกยิ่งขึ้น และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part Time ใน Terra ใหม่ทุกรุ่น ยังรองรับน้ำมันดีเซลทุกชนิด ตั้งแต่ B7, B10 และ B20 รวมถึงเพิ่มระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นทุกๆ 20,000 กม. ระบบความปลอดภัยจัดมาเพียบ อาทิ ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน (IFCW), ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ (IEB), ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา (BSW), ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (RCTA), ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (LDW), ระบบเตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิ หรือเหนื่อยล้า (IDA), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ (VDC) รวมถึงระบบเบรค ABS, EBD และ B-LSD ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบไฟว์ลิงค์ (5-Link) พร้อมคอยล์สปริง ช่วยให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนเต็มที่ตลอดเวลา ระบบเบรคใหม่ จานเบรคหน้า และหลังขนาดใหญ่ พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ด้านราคา บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศราคาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยเปิดราคารุ่นเริ่มต้น 2.3 E 2WD 7AT ที่ 1,199,000 บาท, รุ่น 2.3 VL 2WD 7AT ราคา 1,449,000 บาท และรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT ราคา 1,499,000 บาท เราทดลองขับอยู่รอบๆ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านสภาพจราจรหนาแน่นในตัวเมือง และนอกเมืองที่รถบางเบา รวมถึงใช้ความเร็วสูงบนทางด่วน เรารู้สึกว่าช่วงออกตัวมีการตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้น รวมถึงน้ำหนักพวงมาลัยที่เบาลงเล็กน้อย เป็นผลจากเปลี่ยนแรคพวงมาลัยแบบใหม่ และจากการดีไซจ์นใหม่เกือบทั้งหมด ต้องยอมรับว่า Nissan Terra ใหม่ ดูดีตั้งแต่แรกเห็นจริงๆ การตั้งราคาก็สมเหตุสมผล ผมเชื่อว่า Nissan Terra ใหม่ จะกลายเป็นรถครอบครัวอีกรุ่นหนึ่ง ที่น่าสนใจครับ ชมสเปค และรายละเอียดรุ่นย่อยต่างๆ รวมถึงรูปภาพแบบเต็มๆ ได้ที่ https://www.autoinfo.co.th/online/379847