ธุรกิจ
BMW ครองแชมพ์ต่อเนื่อง

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงครองผลการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในตลาดรถยนต์พรีเมียมของไทย สำหรับไตร มาสที่ 2 ของปี 2564 ด้วยจำนวนส่งมอบทั้ง BMW (บีเอมดับเบิลยู) และ Mini (มีนี) จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 5,573 คัน โตขึ้น 34 % ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดรถยนต์นั่งโดยรวม ซึ่งมีการเติบโตอยู่ที่ 0.5 % ด้วยยอดส่งมอบ 120,351 คัน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่มีต่อตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยในระยะยาว รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าไทยทั่วประเทศที่มีต่อทั้ง 3 แบรนด์
สำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 2564 BMW และ Mini มียอดส่งมอบรถ 5,037 คัน และ 536 คัน โตขึ้น 33 % และ 40 % ตามลำดับ ในขณะที่ BMW Motorrad (บีเอมดับเบิลยู มอเตอร์ราด) ก็มียอดส่งมอบ 623 คัน เพิ่มขึ้น 1 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ในด้านการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ยังสามารถเพิ่มการผลิตรถยนต์ BMW ได้ถึง 31.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2562 และเพิ่มขึ้น 35.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2563 แม้จะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจในปี 2563 และ 2564 ซึ่งเป็นผลจากจำนวนการสั่งจองอย่างต่อเนื่อง พร้อมความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการส่งออก
เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของการดำเนินธุรกิจในไทยในระยะยาว ผ่านการลงทุนใน บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย โดยการขยายเครือข่ายการผลิตภายในประเทศครั้งนี้ รวมถึงการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดกลยุทธ์หลักของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจะทำให้บริษัทสามารถเสริมประสิทธิภาพในด้านปฏิบัติการได้อย่างสูงสุด และช่วยให้กระบวนการด้านลอจิสติคส์มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพด้านทรัพยากรบุคคล โอกาสในการจ้างงาน การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการพัฒนาทักษะแรงงาน
อเลกซันเดร์ บาราคา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศ ไทย ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่ไม่ได้มีเพียงด้านการผลิต และการขายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเติบโตในระยะยาว ความใส่ใจที่มีต่อลูกค้า และสังคม ทีมงานยังแสดงถึงการยืนหยัด และไม่ยอมแพ้กับความท้าทายช่วงวิกฤต COVID-19 โดยได้ปรับ และเปลี่ยน แปลงธุรกิจให้เป็นไปตามความต้องการช่วง New Normal นี้ การปรับตัวของเราทำให้ยังคงเชื่อมต่อกับผู้จำหน่าย และลูกค้า เพื่อมอบโซลูชันที่พร้อมด้วยนวัตกรรมต่างๆ ตัวเลือกในผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากจะเป็นการสร้างความมั่นใจในการมอบความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าแล้ว เรายังทุ่มเทความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนสังคมโดยรวมในหลายๆ ด้านเพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาวะทั้งทางกาย และจิตใจในช่วงที่สถานการณ์ต่างๆ มีความไม่แน่นอนนี้
จากผลกระทบที่รุนแรงของสถานการณ์ระบาดที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ การให้บริการของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มีการปรับเปลี่ยนในด้านดิจิทอลอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น ในระหว่างไตรมาสที่ 2 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงนำเทคโนโลยีดิจิทอลมาใช้อย่างต่อเนื่อง ผ่านพแลทฟอร์มออนไลน์ในการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการขาย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ และงานอีเวนท์ต่างๆ การปรับเปลี่ยนดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี เช่นที่เห็นได้จากงาน BMW Premium Selection ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของรถยนต์BMWด้วยข้อเสนอพิเศษ พร้อมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น BMW X1 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1) พร้อมขยายระยะเวลาสำหรับแพคเกจ BSI นานถึง 10 ปี BMW 2-Series GC Sport (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-2 จีซี สปอร์ท ) ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาทเท่านั้น และข้อเสนอสำหรับการไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์สําหรับรถยนต์ทุกรุ่น นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้ปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อให้เป็นไปตามข้อปฏิบัติในยุค New Normal นี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริการให้ทดสอบรถถึงที่บ้านของลูกค้า บริการส่ง และรับรถที่มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเป็นการมอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ลูกค้าจาก บรรดาผู้จำหน่าย BMW และ Mini อย่างเป็นทาง การยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Safety and Health Administration (SHA) ซึ่งยังมีผู้จำหน่ายอีกหลายรายในหลายสาขาที่กำลังทยอยได้รับการอนุมัติมาตรฐานดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อมอบความมั่นใจ และสบายใจให้แก่ลูกค้าในเวลาที่เข้ารับบริการ
ในช่วงไตรมาสที่ 2 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านการสนับสนุนแก่ส่วนรวมในด้านต่างๆ เพื่อต่อสู้กับ COVID-19 “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และผู้จำหน่ายมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือผู้คนในช่วงการระบาดของ COVID-19 นี้ เราได้ร่วมมือกับหลากหลายองค์กรในการระดมทุนผ่านหลายโครงการ พร้อมบริการต่างๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ความปลอดภัยให้แก่คนไทยทุกคน เราเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปี 2564 นี้ เราก็ยังพร้อมที่จะสู้ ปรับเปลี่ยน พัฒนาธุรกิจ การให้บริการของเราต่อไป เพื่อให้ความช่วยเหลือ และนำเสนอทางออกแก่คนไทยทุกคน