บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอโชว์รูม และศูนย์บริการรถยนต์ Volvo (โวลโว) แบบครบวงจร บน 2 ทำเลใหม่ ได้แก่ บริษัท จีที ออโต้ จำกัด สาขาพัทยา จังหวัดชลบุรี และบริษัท พระนคร สวีดิช คาร์ จำกัด สาขาถนนวิภาวดี-รังสิต เพื่อให้ลูกค้า Volvo สามารถเข้าถึงศูนย์บริการบนมาตรฐาน Volvo Retail Experience (VRE) ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ ขอแสดงความยินดีกับดีเลอร์ของเรา ทั้งบริษัท จีที ออโต้ จำกัด และบริษัท พระนคร สวีดิช คาร์ จำกัด ในโอกาสเปิดตัวโชว์รูม และศูนย์บริการรถยนต์ Volvo แห่งใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า Volvo ที่เพิ่มสูงขึ้นในโซนธุรกิจหลักที่คับคั่งของกรุงเทพฯ อย่างถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ และเป็นถนนสายหลักของกรุงเทพฯ ที่เชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญเพื่อเดินทางข้ามจังหวัด สำหรับการเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการในจังหวัดชลบุรี ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการขยายธุรกิจของ Volvo ให้สามารถรองรับลูกค้าในต่างจังหวัดได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกซึ่งถือเป็นอีกเขตเศรษฐกิจที่สำคัญมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของภาคอุตสาหกรรมการผลิตหลักของประเทศ ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ทำให้มีผู้บริโภคหันมาเลือกใช้รถยนต์นำเข้าเกรดพรีเมียม โดยเฉพาะแบรนด์ Volvo เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ จึงเล็งเห็นว่าการมีโชว์รูม และศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานในภาคตะวันออกจะช่วยให้ลูกค้า Volvo ทั้งในชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ศูนย์บริการในกรุงเทพฯ ซึ่งช่วยประหยัดเวลา และเพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่การเดินทางข้ามจังหวัดมีความยุ่งยากมากกว่าปกติ โดยบริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นเพิ่มจำนวนโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐานให้ครอบคลุมพื้นที่บริการอย่างต่อเนื่องต่อไป
โชว์รูมรถยนต์ Volvo จีที ออโต้ สาขาพัทยา ตั้งอยู่ในตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นำเสนอโชว์รูมพื้นที่กว่า 500 ตรม. และศูนย์บริการซ่อมบำรุงครบวงจร ดำเนินงานโดย บริษัท จีที ออโต้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจรถยนต์แบรนด์ชั้นนำในประเทศไทยมานานกว่า 22 ปี ปัจจุบัน บริหารงานศูนย์บริการ Volvo จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ จีที ออโต้ วิทยุ โชว์รูม และศูนย์ซ่อมบำรุงมาตรฐาน VRE แห่งแรกบนถนนวิทยุ และจีที ออโต้ พัทยา ซึ่งเป็นโชว์รูม และศูนย์ซ่อมบำรุง Volvo อย่างเป็นทางการเพียงแห่งเดียวในภาคตะวันออก
วิน สันติพงศ์ไชย กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า เพื่อมอบประสบการณ์การค้าปลีกของ Volvo (VRE) เราได้ตัดสินใจร่วมลงทุนทำธุรกิจกับบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด อีกครั้ง ในการสร้างโชว์รูม และสิ่งอำนวยความสะดวกหลังการขายในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจในเขตต่างจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่ง เรามีความมั่นใจ และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงรองรับการบริการของลูกค้า Volvo ครอบคลุมในเมืองพัทยา และจังหวัดใกล้เคียง โดยโชว์รูมนี้ได้รับการออกแบบล่าสุดของ VRE Concept เช่นเดียวกันกับโชว์รูมของเราที่ถนนวิทยุ คงความเป็น Scandinavian Style รวมถึงบริเวณห้องรับรองลูกค้า จัดทำเพื่อให้ลูกค้าของเรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจในสภาพแวดล้อมที่จัดไว้ และพื้นที่รับรองลูกค้ายังเชื่อมต่อกับส่วนงาน Workshop เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ และรถยนต์ Volvo ของลูกค้าเองอีกด้วย
โชว์รูมรถยนต์ Volvo พระนคร สวีดิช คาร์ สาขาวิภาวดีรังสิต เปิดตัวเพื่อรองรับลูกค้า Volvo ในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ดำเนินงานโดย บริษัท พระนคร สวีดิช คาร์ จำกัด ในเครือพระนคร ออโตโมบิล ผู้ดำเนินธุรกิจด้านรถยนต์ในประเทศ ไทยมาตั้งแต่ปี พศ. 2500 จึงได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงในกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์มานานกว่า 60 ปี และได้ก่อตั้งพระนคร สวีดิช คาร์ ขึ้นเมื่อปี พศ. 2563 เพื่อดูแลบริหารโชว์รูม Volvo อย่างเป็นทางการ สำหรับการมอบบริการแก่ลูกค้าในโซนลาดพร้าว-วิภาวดี รังสิต
ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า การสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า คือ ความสำคัญของการทำธุรกิจ และการได้ร่วมธุรกิจกับบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นอีกหนึ่งความมั่นใจในการทำธุรกิจเช่นกัน ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งที่ได้เปิดตัวโชว์รูม และศูนย์บริการรถยนต์มาแล้ว บริเวณถนนลาดพร้าว เป็นสิ่งที่ยืนยันในการร่วมธุรกิจอีกครั้ง ทำเลบริเวณถนนวิภาวดี รังสิตถือว่าเป็นถนนสายหลัก และมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ด้วยความเชื่อมั่นในหลายๆ ปัจจัย เราพร้อมที่จะให้บริการลูกค้า Volvo ทุกๆ ท่านด้วยทีมงานคุณภาพ
โชว์รูม Volvo ทั้ง 2 แห่งใหม่ได้รับการออกแบบตกแต่งภายใต้แนวคิด Volvo Retail Experience (VRE) อันเป็นดีไซจ์นระดับซิกเนเจอร์ของศูนย์บริการ Volvo ทั่วโลก มอบบรรยากาศที่หรูหรา ร่วมสมัย เรียบง่าย และภูมิฐานในสไตล์สแกนดิเนเวียน นำเสนอองค์ประกอบงานออกแบบ 2 ขั้วที่ตรงข้ามกันได้อย่างกลมกลืน ทั้งการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกให้มีความเรียบหรู โฉบเฉี่ยว และเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าค้นหา (Cool on The Outside) ในขณะที่การตกแต่งภายในกลับให้ความรู้สึกถึงการดูแลใส่ใจอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง (Warm on The Inside) โดยเฉพาะโซนไฮไลท์อย่าง Living Room ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อมอบความผ่อนคลาย พร้อมรับรองลูกค้าเสมือนบุคคลคนสำคัญได้ตลอดทั้งวัน