เรื่องน่ารู้
เปิดขั้นตอน ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ปี 2564 ง่าย สะดวกสุดๆ

จะรถเก่า หรือรถใหม่ก็ต่อภาษีรถออนไลน์ได้แล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถ ไม่ต้องเดินทาง ใช้เวลาไม่นาน ต่อที่ไหนก็ได้ “autoinfo.co.th” มีขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ปี 2564 เเบบง่ายๆ ทำได้เอง มาฝาก
 สิ่งที่ต้องมีในการต่อภาษีรถยนต์ แบบออนไลน์
1. รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถ ที่ ตรอ. เรียบร้อย
2. พรบ. ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หากท่านยังไม่มีสามารถซื้อได้ในเวบไซท์ของกรมการขนส่งทางบก ในขั้นตอนการต่อทะเบียนออนไลน์ได้
 
 
ขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ปี 2564 ต้องทำยังไง ?
1. เข้าเวบไซท์ e-service ของกรมการขนส่งทางบก (www.eservice.dlt.go.th) จากนั้นกด “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่” (สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยยื่นชำระภาษีออนไลน์ ต้องสมัครสมาชิกก่อน)
สิ่งที่ต้องมีในการต่อภาษีรถยนต์ แบบออนไลน์
1. รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถ ที่ ตรอ. เรียบร้อย
2. พรบ. ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หากท่านยังไม่มีสามารถซื้อได้ในเวบไซท์ของกรมการขนส่งทางบก ในขั้นตอนการต่อทะเบียนออนไลน์ได้
 
 
ขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ปี 2564 ต้องทำยังไง ?
1. เข้าเวบไซท์ e-service ของกรมการขนส่งทางบก (www.eservice.dlt.go.th) จากนั้นกด “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่” (สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยยื่นชำระภาษีออนไลน์ ต้องสมัครสมาชิกก่อน)
 2. หน้าลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบ สามารถเลือกให้เป็นที่อยู่เดียวกับที่อยู่ปัจจุบันได้ จากนั้นกด “บันทึก”
 
 
 
 
2. หน้าลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบ สามารถเลือกให้เป็นที่อยู่เดียวกับที่อยู่ปัจจุบันได้ จากนั้นกด “บันทึก”
 3. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถที่ต้องการต่อภาษี ประเภทรถ,จังหวัด และเลขทะเบียนรถ จากนั้นกด “ลงทะเบียนรถ” (ถ้าเป็นรถเก่าจะต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน) เมื่อกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถเสร็จแล้วให้ไปกดช่อง “ยื่นภาษี”
 
 
 
3. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถที่ต้องการต่อภาษี ประเภทรถ,จังหวัด และเลขทะเบียนรถ จากนั้นกด “ลงทะเบียนรถ” (ถ้าเป็นรถเก่าจะต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน) เมื่อกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถเสร็จแล้วให้ไปกดช่อง “ยื่นภาษี”
 4. ระบุข้อมูลรถให้ครบ แล้วกดปุ่ม “กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร”
 
 
 
 
4. ระบุข้อมูลรถให้ครบ แล้วกดปุ่ม “กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร”
 5. ระบุที่อยู่ในการจัดส่งเอกสารให้ถูกต้อง จากนั้นกดปุ่ม “เลือกวิธีการชำระเงิน”
 
 
 
5. ระบุที่อยู่ในการจัดส่งเอกสารให้ถูกต้อง จากนั้นกดปุ่ม “เลือกวิธีการชำระเงิน”
 6. เลือกวิธีการชำระเงิน โดยจะมี 3 วิธี
1. ชำระเงินโดยหักบัญชีเงินฝาก ต้องมีบัญชีเงินฝาก และเป็นสมาชิกใช้บริการโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เนทกับธนาคาร ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมธนาคาร 20 บาท/รายการ ธนาคารที่ร่วมโครงการได้แก่ ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา และ ธ.ยูโอบี
2. ชำระเงินโดยบัตรเครดิท/บัตรเดบิท จะต้องเสียค่าธรรมเนียมบัตรเครดิท 2 % รวม Vat 7 % ของค่าธรรมเนียม ธนาคารที่ร่วมโครงการได้แก่ ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงศรีอยุธยา
3. เคาน์เตอร์บริการ ชำระเงินโดยพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถ แล้วนำไปชำระเงิน ณ เคาน์เตอร์, ตู้ ATM ที่ร่วมโครงการ ธ.กรุงไทย, ธ.กรุงเทพ, ธ.ธนชาต, ธกส., ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย, ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.ทหารไทย, ธ.ยูโอบี, ธ.ไทยพาณิชย์, บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด, ทรู มันนี่ เซอร์วิส และเทสโก โลตัส
 
 
6. เลือกวิธีการชำระเงิน โดยจะมี 3 วิธี
1. ชำระเงินโดยหักบัญชีเงินฝาก ต้องมีบัญชีเงินฝาก และเป็นสมาชิกใช้บริการโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เนทกับธนาคาร ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมธนาคาร 20 บาท/รายการ ธนาคารที่ร่วมโครงการได้แก่ ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา และ ธ.ยูโอบี
2. ชำระเงินโดยบัตรเครดิท/บัตรเดบิท จะต้องเสียค่าธรรมเนียมบัตรเครดิท 2 % รวม Vat 7 % ของค่าธรรมเนียม ธนาคารที่ร่วมโครงการได้แก่ ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงศรีอยุธยา
3. เคาน์เตอร์บริการ ชำระเงินโดยพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถ แล้วนำไปชำระเงิน ณ เคาน์เตอร์, ตู้ ATM ที่ร่วมโครงการ ธ.กรุงไทย, ธ.กรุงเทพ, ธ.ธนชาต, ธกส., ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย, ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.ทหารไทย, ธ.ยูโอบี, ธ.ไทยพาณิชย์, บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด, ทรู มันนี่ เซอร์วิส และเทสโก โลตัส
 7. ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง จากนั้นกดปุ่ม “ยืนยัน”
 
 
 
 
7. ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง จากนั้นกดปุ่ม “ยืนยัน”
 8. ถ้าผู้ใช้งานเลือกวิธีชำระแบบพิมพ์ใบชำระหนี้ โปรแกรมจะแสดงหน้าจอดังรูป โดยจะต้องพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถแล้วนำไปชำระ ณ เคาน์เตอร์ หรือตู้ ATM ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อชำระเงินแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะส่งใบเสร็จรับเงิน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และกรมธรรม์ พรบ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์ (สำหรับป้ายภาษีติดหน้ารถ ทางกรมการขนส่งทางบกจะส่งมาทาง EMS โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ)
 
 
 
 
8. ถ้าผู้ใช้งานเลือกวิธีชำระแบบพิมพ์ใบชำระหนี้ โปรแกรมจะแสดงหน้าจอดังรูป โดยจะต้องพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถแล้วนำไปชำระ ณ เคาน์เตอร์ หรือตู้ ATM ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อชำระเงินแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะส่งใบเสร็จรับเงิน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และกรมธรรม์ พรบ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์ (สำหรับป้ายภาษีติดหน้ารถ ทางกรมการขนส่งทางบกจะส่งมาทาง EMS โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ)
 การตรวจสอบสถานะ
สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” โดยกรมการขนส่งทางบกแจ้งไว้ว่ารวมระยะเวลาตั้งแต่ชำระเงินค่าภาษีสำเร็จถึงวันที่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ ใช้เวลาประมาณ 5-10 วันทำการ รวมถึงสามารถชำระภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนวันครบกำหนดชำระภาษี สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1584
 
การตรวจสอบสถานะ
สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” โดยกรมการขนส่งทางบกแจ้งไว้ว่ารวมระยะเวลาตั้งแต่ชำระเงินค่าภาษีสำเร็จถึงวันที่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ ใช้เวลาประมาณ 5-10 วันทำการ รวมถึงสามารถชำระภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนวันครบกำหนดชำระภาษี สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1584
 รถแบบไหนต่อภาษีออนไลน์ได้บ้าง ?
ประกาศจากกรมการขนส่งทางบก บอกว่า รถที่ต่อภาษีออนไลน์ได้ มีดังนี้ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี และจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก สามารถยื่นชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่รถเก่าจะต้องตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน
อัตราค่าบริการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ปี 2564
- ค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ รายการละ 32 บาท
- ค่าธรรมเนียมธนาคาร (กรณีชำระผ่านเคาน์เตอร์บริการ หรือหักบัญชีเงินฝาก) รายการละ 20 บาท
- ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิท) 2 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ของยอดเงินทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติม : รถอายุเกิน 7 ปี จ่ายภาษีออนไลน์ได้แล้ว !
 
รถแบบไหนต่อภาษีออนไลน์ได้บ้าง ?
ประกาศจากกรมการขนส่งทางบก บอกว่า รถที่ต่อภาษีออนไลน์ได้ มีดังนี้ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี และจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก สามารถยื่นชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่รถเก่าจะต้องตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน
อัตราค่าบริการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ปี 2564
- ค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ รายการละ 32 บาท
- ค่าธรรมเนียมธนาคาร (กรณีชำระผ่านเคาน์เตอร์บริการ หรือหักบัญชีเงินฝาก) รายการละ 20 บาท
- ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิท) 2 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ของยอดเงินทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติม : รถอายุเกิน 7 ปี จ่ายภาษีออนไลน์ได้แล้ว !                    


