เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ ประกาศปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพในการขาย (Retail Optimization Strategy) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมให้ศูนย์บริการสำหรับการกำหนดกลยุทธ์ใหม่ รับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะให้บริการผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ พร้อมนำเสนอซับแบรนด์ที่หลากหลายให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการผสานช่องทางการขายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน ทั้งนี้ Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) ยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ และให้การสนับสนุนด้านกลยุทธ์แก่ผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการทั่วประเทศผ่านกลยุทธ์ใหม่นี้
โรลันด์ โฟลเกร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ COVID-19 หรือไม่ ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมยานยนต์เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทุกวันนี้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ทุกอย่างได้ทางออนไลน์ นี่จึงเป็นที่มาให้ Mercedes-Benz ตัดสินใจประกาศจุดยืนเพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทอลมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับทิศทางการทำธุรกิจในรูปแบบของการเพิ่มความหลากหลายทางการขาย และการบริการ Mercedes-Benz สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค และขั้นตอนการซื้อรถยนต์ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง จากการวิจัยของเรา ลูกค้ามากถึง 97 % เลือกค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนมาที่โชว์รูม และลูกค้าจำนวน 50 % ยังเลือกสำรวจรายละเอียดของรถยนต์แบบดิจิทอล (Digital Navigation) ก่อนมาชมรถยนต์คันจริง นั่นหมายความว่า การสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนที่จะเชื่อมต่อลูกค้ามายังศูนย์บริการเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับ Mercedes-Benz ซึ่งด้วยแรงผลักดันจากความเปลี่ยนแปลงในเรื่องพฤติกรรมของลูกค้า การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทอล และการฟื้นตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 Mercedes-Benz จึงวางเป้าหมายที่จะรีเซทเครือข่ายของเราเพื่อรองรับการขายในรูปแบบใหม่ และเพราะความกล้าในการก้าวข้ามขีดจำกัดเป็นส่วนหนึ่งในดีเอนเอของ Mercedes-Benz มาตลอดอยู่แล้ว ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนิน กลยุทธ์การขายใหม่ในครั้งนี้
Mercedes-Benz ตั้งเป้าเพิ่มความหลากหลายของการขาย และการบริการภายใต้หลักการของความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนวิธีการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ใน 5 ส่วน ได้แก่
· การคิด และทำในสไตล์แบรนด์ลักชัวรี-ด้วยพฤติกรรมการซื้อ และการเป็นเจ้าของแบรนด์ลักชัวรีของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก Mercedes-Benz จึงพร้อมเสนอแนวทางใหม่ในการทำธุรกิจเพื่อตอบรับความคาดหวังของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น
· มุ่งเน้นไปที่การเติบโตอย่างมีกำไร-ด้วยความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทอล ทั้งในส่วนของการขาย การวางแผนการผลิต และการจัดการด้านลอจิสติคส์ ช่วยให้ Mercedes-Benz พร้อมสำหรับแผนการเติบโตรูปแบบใหม่
· ขยายฐานลูกค้าด้วยการขยายซับแบรนด์-ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในพอร์ทโฟลิโอของเรา โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งรุ่น EV (อีวี) และ PHEV (พีเอชอีวี) Mercedes-Benz จะโฟคัสไปที่การสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เตรียมทั้งผลิตภัณฑ์ และอะไหล่ไว้รองรับความต้องการให้เพียงพอ
· รักษาฐานลูกค้าพร้อมเพิ่มรายได้-การสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม Mercedes-Benz ยังพร้อมสานต่อการขาย และการบริการสู่ช่องทางออฟไลน์ที่ศูนย์บริการได้อย่างต่อเนื่อง และราบรื่น ภายใต้ความร่วมมือกับเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
· ปรับฐานต้นทุนให้ต่ำลงแต่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์-ซึ่งนำไปสู่นโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายของโชว์รูมพร้อมมาตรการสนับสนุน
ภายใต้กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการขาย และการบริการแบบใหม่ สิ่งที่ Mercedes-Benz ตั้งเป้าหมายไว้ คือ การเพิ่มปริมาณการขายต่อจุดขาย และบุคลากร ตลอดจนการเพิ่มการเติบโตของธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับการเติบโตของศูนย์บริการ Mercedes-Benz พร้อมเพิ่มความหลากหลายในรูปแบบการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มศูนย์บริการเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายรถยนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง Mercedes-Benz ยืนยันว่า โชว์รูม และศูนย์บริการจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ แต่เราต้องปรับบทบาทใหม่ โดยเปลี่ยนโชว์รูมให้กลาย Touchpoint ที่ช่วย “เติมเต็มประสบการณ์” และให้ลูกค้า “สามารถกำหนดทุกอย่างได้ตามความต้องการ” ซึ่งภายใต้ทิศทางใหม่นี้ ลูกค้าจะสามารถเชื่อมต่อกับแบรนด์ Mercedes-Benz ได้ก่อนผ่านช่องทางออนไลน์ ก่อนที่แบรนด์จะพาลูกค้าเชื่อมต่อไปยังช่องทางออฟไลน์ที่โชว์รูม และศูนย์บริการได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งนี่คือ วิธีการที่ Mercedes-Benz สามารถบริหารงานได้อย่างมีความยืดหยุ่น และสะดวกขึ้นสำหรับลูกค้า ทั้งยังเป็นการบริหารงานที่มีความยั่งยืนมากขึ้นสำหรับพันธมิตรในระยะยาว
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ Mercedes-Benz
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ