ธุรกิจ
กทม. จับมือ ปตท. จัดหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่
พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “หน่วยบริการฉีดวัคซีน COVID-19 เชิงรุก ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)” ณ โรงเรียนบางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เคลื่อนที่ (Mobile Vaccine Unit) เพื่อแก้ไขปัญหาการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักอนามัย สำนักการแพทย์ หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร และผู้บริหาร ปตท. ร่วมตรวจเยี่ยม
“หน่วยบริการฉีดวัคซีน COVID-19 เชิงรุก ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานค รและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)” มีภารกิจสำคัญในการมุ่งฉีดวัคซีนให้แก่ชุมชนพื้นที่ กทม. ที่มีการระบาด COVID-19 แบบกลุ่มก้อน รวมถึงกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้ป่วย ผู้พิการในชุมชน รวมทั้งกลุ่มแรงงานในพื้นที่ที่อาจจะเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ยาก หรือมีความลำบากในการลงทะเบียนรับวัคซีน ทั้งนี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยหยุดยั้งการระบาดได้เร็วขึ้น และสอดคล้องกับเป้าหมายของภาครัฐที่ต้องการเร่งการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนครอบคลุมทุกภาคส่วนในระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งภาครัฐตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศภายในสิ้นปี 2564
พล. ต. อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกนี้ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญจำเป็นอย่างยิ่งของ กทม. เนื่องจากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในระดับสูง และมีลักษณะเป็นคลัสเตอร์ในชุมชนที่มีผู้คนอาศัยหนาแน่น หรืออยู่ในแคมพ์คนงานต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งแคมพ์คนงานในพื้นที่เขตหลักสี่ถือว่าเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่ต้องได้รับวัคซีนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดโดยเร่งด่วน การดำเนินงานนี้จึงถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ กทม. ที่เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศที่ต้องการยับยั้งการแพร่ระบาดโดยเร็ว สำหรับหน่วยฉีดวัคซีนในลักษณะนี้จะเคลื่อนย้ายจุดไปทั่วพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่ กทม. ซึ่งต้องอาศัยทรัพยากรค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ขอขอบคุณ ปตท. ที่เป็นหน่วยงานเอกชนรายแรกในการเข้ามาช่วยสนับสนุนจุดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกแบบครบวงจร
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือของกลุ่ม ปตท. กับ กทม. ในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการเร่งปูพรมกระจายฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด และเข้าถึงทุกคน ทุกพื้นที่ ครอบคลุมทั่วประเทศตามนโยบายของภาครัฐ พร้อมช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐในการจัดตั้งหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ ที่ต้องอาศัยทรัพยากรจำนวนมากทั้งด้านบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อีกทั้งได้ระดมพนักงานจิตอาสา ปตท. สนับสนุน กทม. ในการจัดตั้งหน่วยฉีดวัคซีนเชิงรุกในชุมชนพื้นที่เสี่ยง ทั้งในเขตหลักสี่ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดินแดง และเขตคลองเตย รวมทั้งผนึกความร่วมมือ และความเชี่ยวชาญของบริษัทในกลุ่ม ปตท. อาทิ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด บริษัท บิซิเนส เซอร์วิสเซส อัลไลแอนซ์ จำกัด เพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีประสิทธิภาพ มุ่งหวังฟื้นลมหายใจเศรษฐกิจของประเทศ ตามเจตนารมณ์ของ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” กลุ่ม ปตท.
“กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมวางระบบงานดิจิทอล และเครื่องมืออีเลคทรอนิคส์ต่างๆ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการปฏิบัติการเชิงรุกครั้งนี้ และสนับสนุนพนักงานกลุ่ม ปตท. ร่วมเป็นจิตอาสาในส่วนของการทำงานกับหน่วยบริการ ช่วยบริหารจัดการคิวผู้เข้ารับวัคซีน ประสานงาน อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนั้นยังได้ร่วมสนับสนุนอาหาร น้ำดื่มแก่เจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ในหน่วยต่างๆ อีกทั้งจัดเตรียมสินค้าวิสาหกิจชุมชนจากโครงการ "ชุมชนยิ้มได้" ที่ ปตท. ได้ส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคเกษตรกร มอบให้แก่ประชาชนที่มาฉีดวัคซีนอีกด้วย โดยหวังว่า ปตท. จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มที่จำเป็นต้องเข้าถึงวัคซีนอย่างเร่งด่วน อันจะช่วยยับยั้งการระบาดของ COVID-19 และช่วยขับเคลื่อนต่อลมหายใจเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวโดยเร็วต่อไป” นายอรรถพล กล่าว
ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ได้สนับสนุนทุกภาคส่วนในการรับมือภาวะวิกฤต COVID-19 มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มการระบาดในปี 2562 จนถึงปัจจุบัน รวมมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท โดยระดมสรรพกำลังความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรม และเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. ในการสนับสนุนงานวิจัยสู้ภัย COVID-19 อาทิ ชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) หมวกอัดอากาศป้องกันการติดเชื้อความดันบวก (PAPR) การสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาชุดตรวจคัดกรอง และการวิจัยพัฒนาวัคซีน Chula-COVID-19 สนับสนุนแอลกอฮอลทางการแพทย์ อีกทั้งจัดตั้งโครงการลมหายใจเดียวกัน มูลค่า 200 ล้านบาท โดยเร่งจัดหาเครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย COVID ขั้นวิกฤต ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาคกว่า 70 โรงพยาบาล จำนวน 360 เครื่อง รวมไปถึงการสนับสนุนกล่องพลังใจ สู้ภัย COVID-19 อาหาร น้ำดื่ม แก่โรงพยาบาลสนาม กทม. และบุคลากรทางการแพทย์ อีกทั้งได้มอบถุงยังชีพ และอาหารจากสมาคมภัตตาคารไทยแก่ชุมชนคลองเตย และล่าสุดได้ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อแกสหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาท/คน/เดือน ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ต่อไป อีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 11 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการลดต้นทุนค่าครองชีพ และต่อลมหายใจเศรษฐกิจให้แก่ประเทศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
กลุ่ม ปตท. ขอเป็นกำลังใจ และเคียงข้างสังคมไทย ด้วยลมหายใจเดียวกัน เพื่อให้คนไทย และประเทศก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันโดยเร็วที่สุด
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/373337